xs
xsm
sm
md
lg

อว.ปลื้ม U2T ดันจ้าง นศ.5 หมื่นคน ปูพรม 3 พันตำบล ขับเคลื่อน ศก.หมื่นล้าน อัปเกรด 4 ด้าน ฝ่าโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปลัด อว.- เอกนัฏ” ปลื้มโครงการ U2T ทะลุเป้า ดันจ้างงานนิสิต-นศ.เกือบ 50,000 คน ชี้ ปูพรมไปแล้ว 3,000 ตำบล ได้ประโยชน์หลายทาง ทั้งสร้างรายได้พื้นที่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจนับหมื่นล้านบาท แถมช่วยให้ นศ.อัปเกรด 4 ด้านฝ่าวิกฤตโควิด-19

วันนี้ (23 ก.ย.) ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะประธานโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือโครงการ U2T กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการที่กระทรวง อว.ภูมิใจ เนื่องจากเป็นการส่งมหาวิทยาลัยไปพัฒนาตำบล โดยใช้พลังความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่ของมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน ยังทำให้เกิดการจ้างงานของบัณฑิตระยะเวลา 6 เดือน คือตั้งแต่ 1 ก.พ.- 31 ส.ค.ที่ผ่านมา เฉลี่ยเดือนละ 56,413 คน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบัณฑิตนักศึกษามีงานทำมีรายได้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และในเวลาเดียวกันเป็นการพัฒนาคนที่เข้าร่วมโครงการให้มีทักษะ 4 ด้าน คือ ดิจิทัล ภาษาอังกฤษ การเงินและสังคม พร้อมที่จะไปพัฒนาตนเองและพัฒนาประเทศหลังจากสถานการณ์ โควิด-19

ส่วนขั้นตอนคือ มหาวิทยาลัยรู้ว่ารัฐจะต้องรับผิดชอบในพื้นที่ใดและมีเป้าหมายโดยตรงที่จะเข้าสู่การพัฒนา ดังนั้น มีกลไกในการเลือกพื้นที่รับผิดชอบชัดเจน ฉะนั้น 1 ตำบล จะมี 1 มหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยงและเมื่อเข้าไปดูแลแล้วจะมอบผู้ที่มีหน้าที่ในการพัฒนาเพื่อให้เกิดการจ้างงานเกิดขึ้น ปัจจุบันมี 3,000 ตำบล ที่ร่วมโครงการจากทั่วประเทศกว่า 7,000 ตำบล คิดเป็น 40% ซึ่งมีการจ้างงาน 3 กลุ่มด้วยกัน 20 คนต่อตำบล ตั้งแต่บัณฑิตที่จบใหม่ นิสิตนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ในพื้นที่ให้มีการจ้างงานในพื้นที่ โดยบุคคล 20 คนเป็นทีมอว. ที่จะไปพัฒนาและเก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อดูว่าควรจะทำอะไรที่จะพัฒนาในพื้นที่นั้น จากนั้นมหาวิทยาลัยทั้งหมดจะมาประมวลว่าถูกต้องหรือไม่ เพื่อไปพัฒนาด้วยความรู้และเทคโนโลยีที่มหาวิทยาลัยมีอยู่ ทั้งนี้จากโครงการดังกล่าวได้เห็นความสำคัญของพลังนิสิต นักศึกษา เยาวชนและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ร่วมในโครงการได้เกิดแนวคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Hackkathon ซึ่งเป็นโครงการที่ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเสนอแนวคิดและวิธีการพัฒนา ซึ่งผลที่จะได้ตามมา คือ ประเทศไทยมีการพัฒนามากยิ่งขึ้นซึถือเป็นการพัฒนาเหมือนการสร้างรากแก้วให้กับประเทศ ซึ่งไม่ได้เป็นการพัฒนาเฉพาะหน้าแต่เป็นการวางรากฐานในระยะยาว

ด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะทำให้เกิดการจ้างงาน มีการสร้างรายได้และคนนอกโครงการได้ประโยชน์จากการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีคนอยู่ในโครงการ 50,000 คน และจะได้เป็นเงินเดือนอยู่ในกระเป๋าจากผู้ที่ถูกจ้างงานเกือบหมื่นล้านบาท เงินดังกล่าวจะถูกหมุนเวียนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ใน 3,000 ตำบลทั่วประเทศ สิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้คือ คนเหล่านี้หลังจากเรียนจบกว่า 60,000 คน มีงานทำ ซึ่งถ้าไม่มีโครงการดังกล่าวในช่วงวิกฤติโควิด-19 อาจจะตกงานก็ได้ นอกจากนี้ยังมีผลงานจากโครงการที่กระจายไปทั่วประเทศกว่า 10,000 ผลงาน บางโครงการ เช่น ในบางพื้นที่มีการนำเปลือกหอย กากมะพร้าว เปลือกทุเรียนไปแปรสภาพเป็นสินค้าที่มีมูลค่า นำไปขายและสร้างรายได้ ซึ่งประโยชน์ก็เกิดขึ้นในพื้นที่ ฉะนั้นโครงการดังกล่าวได้กับคนที่ร่วมโครงการและคนภายนอกโครงการด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น