xs
xsm
sm
md
lg

“คำผกา” ก่อดรามาประจานตัวเอง ทัวร์ลง “น้ำพริกนิตยา” จนขายแทบไม่ทัน! **“ลุงป้อม” บอก 3 ป.จะรักกันจนตาย อีเวนต์วัดวอลเปเปอร์ “2 ลุง” จึงเป็นแค่การวัดพลังกลุ่มก๊วนใน พปชร.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“คำผกา” ก่อดรามาประจานตัวเอง ทัวร์ลง “น้ำพริกนิตยา” จนขายแทบไม่ทัน!

กลายเป็นดรามาระดับประเทศ เมื่อ “แขก คำผกา” หรือชื่อจริง ลักขณา ปันวิชัย ที่ไปถ่ายทำรายการ “โค้ชแขก” พร้อมกับ “โรซี่” จรรยา วงศ์สุรวัฒน์ พี่สาวของ “จอห์น” วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ เพื่อเผยแพร่ทางเพจ SpokeDark TV ที่ร้านน้ำพริกนิตยา ย่านบางลำพู แล้วถูกเจ้าของร้านไม่ให้ถ่ายทำขณะที่กำลังไลฟ์สด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา

ความจริงเรื่องราวก็ไม่น่าจะมีอะไรบานปลายใหญ่โต เพราะทางเจ้าของร้านก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ โดยให้เหตุผลว่า ไม่เคยดูรูปแบบรายการนี้มาก่อน อยากจะขอดูรายการก่อน วันนี้ไม่สะดวกต้องขอโทษอย่างรุนแรงเลย เพราะว่าไม่เคยมีโอกาสที่จะได้เข้าไปดู กว่าจะกลับบ้านทุ่มหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขอดูรายการหนูก่อน แล้วค่อยมาสัมภาษณ์ พร้อมแสดงน้ำใจบอกว่าอยากรับประทานอะไร จะจัดให้

แต่ปรากฏว่า “คำผกา” แสดงอาการคล้ายคนเป็นโรคไบโพลาร์กำเริบทันที บอกว่า มีตังค์ซื้อกินเอง ไม่เป็นแล้วลูกค้าร้านนี้ ไม่เป็นแล้ว แถมอ้างว่ารายการติดต่อมาล่วงหน้า 1 เดือน “... แล้วคุณป้าก็อนุญาตแล้ว ตอนหลังรู้ว่าแขกเป็นเสื้อแดงค่ะ คุณป้าก็เลยไม่อนุญาตให้แขกมาถ่าย จบเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เดินออกมาจากร้านขณะยังไลฟ์สดอยู่ โดยที่ “คำผกา” พูดด้วยนำเสียงประชดประชันว่า “ร้านนี้ไม่ต้อนรับคนเสื้อแดงนะคะ ร้านนี้ไม่ต้อนรับคนรักประชาธิปไตยนะคะ คุณผู้ชมคะ น้ำพริกนิตยา อร่อยมาก อร่อยมากจริงๆ จนถึงตอนนี้แขกก็บอกว่าน้ำพริกนิตยาอร่อยมาก น้ำพริกตาแดงของน้ำพริกนิตยาอร่อยที่สุด แต่เขาไม่ต้อนรับคนเสื้อแดงอย่างแขก ที่จะมาถ่ายรายการ สวัสดีค่ะคุณป้า แล้วไม่ต้องเอาของกินมาให้แขกกินฟรีนะคะ ไม่รับ เพราะว่ามีแฟนคลับพร้อมที่จะส่งของกินมาให้เยอะมากที่บ้านนะคะ โอเคค่ะ”

แขก คำผกา
เดินออกมาจากร้านน้ำพริกนิตยาแล้ว “คำผกา” ก็ยังไม่ทุเลาอาการสติแตก มาเจอร้านขายกล้วยปิ้ง ก็ถามคนขายว่า “ร้านนี้ต้อนรับคนเสื้อแดงไหมคะ” เมื่อได้รับคำตอบว่าต้อนรับหมดทุกคน ก็บอกว่าเยี่ยมมาก แล้วเดินต่อมาเรื่อยๆ เจอร้านก๋วยเตี๋ยว ก็ถามคนเจ้าของร้านว่า “ร้านนี้ คนเสื้อแดงเข้าไปกินได้ไหมคะ” เมื่อคนขายตอบว่า “ได้” ทั้งคู่ก็เข้าไปนั่งสั่งของมากิน พร้อมกับนินทาเจ้าของร้านน้ำพริกนิตยาลับหลัง สลับด้วยการพ่นคำผรุสวาท หยาบคายแบบไหลมาเทมา

“คำผกา” ยังแสดงความอาฆาตผ่านการไลฟ์สดจากร้านก๋วยเตี๋ยว ว่า “กรณีร้านน้ำพริกนิตยา ไม่ต้องขอโทษเตรียมเจ๊ง มึงไม่รู้หรือ พลังการซื้อของคนเสื้อเเดง แม่งรุนแรงเบอร์ไหน กูแค้นฝังหุ่น มึงต้องเจอกูอีกหลายยก น้ำพริกนิตยา”

เท่านั้นยังไม่พอ “คำผกา” ยังไปปั่นกระแสผ่านทวิต @kamphaka โดยทวีตข้อความว่า “#โค้ชแขก ไปถ่ายรายการร้านนิตยา บางลำภู ปรากฏว่าโดนป้าเจ้าของร้านเชิญออกจากร้าน เพราะเป็นควายแดง #น้ำพริกนิตยาไล่ควายแดง”

การปั่นกระแสอาฆาตแค้นต่อร้านน้ำพริกนิตยา ทำให้แฟนคลับ “แขก คำผกา” ต่างออกมาประกาศบอยคอตร้านน้ำพริกเจ้าดังแห่งนี้ รวมทั้งเพจเฟซบุ๊ก “ร้านน้ำพริกนิตยา” ก็มีคนที่สนับสนุนคำผกา ตามไปทัวร์ลง กล่าวหาว่าไม่แยกแยะเรื่องการเมือง ด้อยค่าว่าเป็นสลิ่ม เหม็นกลิ่นกะทิบูด และสาปแช่งให้ร้านตกอับ ขายไม่ได้อีกด้วย

แต่ในโลกของความจริงดูเหมือนว่าผลจะตรงกันข้าม เมื่อยอดสั่งซื้อ และยอดขายที่ร้านน้ำพริกนิตยา เพิ่มขึ้นแบบพุ่งกระฉูดจนของขาด และต้องโพสต์ข้อโทษลูกค้า

ขณะที่ยอดผู้ติดตามเพจ “ร้านน้ำพริกนิตยา” ตอนที่ “คำผกา” ไปไลฟ์สด เมื่อบ่ายวันที่ 21 ก.ย. อยู่ที่ประมาณ 5,000 คนเท่านั้น แต่ยอดเมื่อถึงช่วงเย็นวานนี้ (22 ก.ย.) ขึ้นไปกว่า 66,000 คนแล้ว

เจ้าของร้านน้ำพริกนิตยา
แต่อะไรก็ไม่เท่าคนทั้งประเทศ ได้เห็นธาตุแท้ของคนอย่าง “คำผกา” อีกครั้ง ว่าที่จริงแล้วเป็นคนอย่างไร ที่ประกาศตัวว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยนั้น เป็นประชาธิปไตยแบบไหน หรือว่ามีปมด้อยในความเป็น “คนเสื้อแดง” ของตัวเอง พอเจ้าของร้านขอให้ยุติการถ่ายรายการ ก็มโนเอาเองทันทีว่า นี่คือการไม่ต้อนรับคนเสื้อแดง ไม่ต้อนรับคนรักประชาธิปไตย ทั้งที่เจ้าของร้านไม่ได้พูดแบบนี้เลย
“พงศ์พรหม ยามะรัต” อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวาน บอกว่า การโกหกออกสื่อว่า ร้านนี้ไม่รับคนเสื้อแดง ไม่ต้อนรับคนรักประชาธิปไตย ทั้งที่เจ้าของร้านไม่ได้พูดเลย เหมือนเป็นประโยคหากินหลอกแฟนคลับ จนมี 3 นิ้ว กับเสื้อแดงไปบูลลี่ น้ำพริกนิตยาต่างๆ นานา มีแช่งว่าแก่เป็นไดโนเสาร์ เดี๋ยวก็ตาย บ้างก็บอกว่า มันเป็นสิทธิที่ใครจะทำรีวิวอะไรที่ไหนก็ได้
“พวกคุณครับ คุณบอกว่าคุณรักประชาธิปไตย คุณก็ต้องเข้าใจประชาธิปไตยก่อน ร้านคุณ ก็เหมือนบ้านคุณ คุณมีสิทธิจะให้ใครเข้า หรือไม่เข้าก็ได้ จะให้หรือไม่ให้ใครรีวิวก็ได้ เมืองนอกก็เป็น ประเทศไหนก็เป็น แต่ทีพอเขาไม่ให้รีวิวแล้วเกิดอาการโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง นั่นคือ พวกเอาแต่ใจ เอาแต่ได้ ใช้แต่อารมณ์ ไม่เคารพสิทธิคนอื่นต่างหากครับ แถมแฟนคลับที่ไปด่าร้านน้ำพริกนิตยาให้ตายนั่น ผมว่าพวกคุณไม่ได้ต่างอะไรกับเขมรแดงเลย
“หยุดพูดเรื่องประชาธิปไตยเถอะ พวกคุณไม่ได้มีจิตสำนึกเรื่องนี้” อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้าสรุปไว้ชัดเจนอย่างนี้

แต่สำหรับ “คำผกา” เอง การเปิดศึกกับร้านน้ำพริกชื่อดัง อีกด้านหนึ่งก็ถูกมองว่า เป็นแผนการ “หาแสง” ให้ SpokeDark TV ของ “จอห์น วิญญู” หรือไม่ เพราะสถานการณ์ด้านการเงินกำลังย่ำแย่ ต้องเปิดรับบริจาคในรูปแบบของผู้สนับสนุนเดือนละ 150 บาท ตั้งเป้าต้องให้ได้ 15,000 คน ระดมตีปี๊บป่าวประกาศผ่านสื่อทุกสื่อในเครือมานานเป็นปีแล้ว ยังได้ไม่ถึงครึ่งของเป้าหมายเลย ...ท่านผู้ชมก็ลองไปพิจารณาดู



**“ลุงป้อม” บอก 3 ป.จะรักกันจนตาย อีเวนต์วัดวอลเปเปอร์ “2 ลุง” จึงเป็นแค่การวัดพลังกลุ่มก๊วนใน พปชร.

ผ่านไปแล้วอีเวนต์วัดพลังของ “2 ป.” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่ตรวจราชการ เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ในวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน แต่คนละพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ที่จ.เพชรบุรี
“ลุงตู่” เลือกลุ่มน้ำเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ส่วน “ลุงป้อม” เลือกลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่สังคมจับตาว่าเป็น “อีเวนต์วัดพลัง” เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวระหองระแหง ระหว่างพี่น้อง 2 ป. เมื่อมีโปรแกรมลงพื้นที่ในเวลาเดียวกัน แต่ไปคนละที่จึงถูกมองว่าแยกกันเดิน ยิ่งบรรดารัฐมนตรี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ต่างแจ้งข่าวระดม ส.ส.ในกลุ่มของตนเพื่อไปเป็น “วอลเปเปอร์” ให้กับลุงทั้งสอง ภาพจึงออกมาว่า 2 ลุง กำลังแข่งบารมีกันเอง และ ส่อว่าอาจถึงขั้นแตกหักกันในอนาคต

ก็ดังที่รู้กันอยู่ว่าในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา กลุ่มก๊วนในพรรคพลังประชารัฐ มีการแสดงออกที่ชัดเจน อย่าง เช่น “กลุ่มสามมิตร” ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ “กลุ่มเสี่ยเฮ้ง” ชลบุรี กลุ่มของ “สันติ พร้อมพัฒน์” และกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้บางส่วน นั้นยืนอยู่ข้าง “ลุงตู่”

ขณะที่กลุ่มของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” กลุ่ม “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลฯ กลุ่ม “วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปรัฐบาล ก็ระดม ส.ส.ในกลุ่มของตน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.จากภาคเหนือ ภาคอีสาน มายืนข้าง “ลุงป้อม”

ครั้นถึงเวลา ปรากฏว่า คณะของ “ลุงตู่” ที่มี “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ก็มี ส.ส.เพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียงอย่าง จ.กาญจนบุรี ราชบุรี มาต้อนรับนับหัวได้ 11 คน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะที่ ส.ส.วอลเปเปอร์ของ “ลุงป้อม” ยกขบวนกันมากว่าครึ่งร้อยชีวิต แม้แต่ “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี จังหวัดที่อยู่ติดกับเพชรบุรี ยังไปเช็ดพื้นรอรับลุงป้อมที่อยุธยา

แม้วอลเปเปอร์จะหนาแน่นผิดกัน... แต่ถ้าพูดถึงประชาชนที่มาต้อนรับแล้ว แฟนคลับของ “ลุงตู่” กินขาด !!

ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนจะรู้สึกตื่นตัว ตื่นเต้น ที่จะได้ต้อนรับ ได้ใกล้ชิด ได้ถ่ายรูปกับนายกฯ มากกว่า คนที่เป็นรองนายกฯ โดยเฉพาะบุคลิกของ “ลุงตู่” นั้น ได้ใจประชาชน มากกว่า “ลุงป้อม” แน่นอน

“ลุงตู่” ยืนยันว่า หลังจากนี้ จะลงพื้นที่ทุกสัปดาห์ เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับ ส.ส. ให้ ส.ส.ในพื้นที่ได้ร่วมประชุม ร่วมตัดสินใจในการดำเนินโครงการต่างๆ ซึ่งช่วงนี้ก็เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา ที่บรรดา ส.ส.ได้มีเวลาอยู่กับประชาชนพอดี

ที่ต้องไปดูแลการบริหารจัดการน้ำในช่วงนี้ เพราะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่จึงต้องเตรียมพร้อมในมาตรการรับมือกับปัญหาน้ำท่วม เลยต้องแยกกันลงพื้นที่กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ไม่ได้วัดพลังกันอย่างที่สังคมตั้งข้อสังเกต

ขณะที่ “ลุงป้อม” ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จนถูกมองว่ามีความขัดแย้งกับนายกฯว่า ...ใครก็รู้กันนั้นว่าทั้งตนเองกับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย ส.ส.ในพรรคก็รู้ ว่าไม่มีอะไรกันเลย

"ผม และ พล.ประยุทธ์ กอดคอ และสนิทสนมกันมา 50 กว่าปีแล้ว ข่าวที่ออกมาบ้าบอทั้งสิ้น ขอย้ำว่า...จำเอาไว้นะ ให้ตายจากกัน เรา 3 ป.ถึงจะเลิกรักกัน ผมรู้สึกบ้าบอมากเลย กับข่าวที่ออกมาว่าทะเลาะเบาะแว้ง วัดกำลังกัน"

“ลุงป้อม” ยังเฉลยแบบเปิดใจด้วยว่า ที่ไม่ไปร่วมคณะกับนายกฯ ก็เพราะเดินไม่ทันนายกฯ เลยไม่ลงพื้นที่ด้วยกัน ก็แค่นั้นเอง !! … อันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธ หรือคิดว่าลุงป้อมแถ !!

รู้อย่างนี้แล้ว คงต้องมองว่าอีเวนต์วัดพลัง “2 ป.” ครั้งนี้ ไม่ใช่เกิดจากความไม่ลงรอยกันของ “พี่น้อง 3 ป.” แต่เป็นการวัดพลังของกลุ่มก๊วนต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐโดยผ่านสงครามตัวแทน จะถูกต้องกว่า




กำลังโหลดความคิดเห็น