xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิตร” เป็นประธานสักขีพยาน MOU “ไทย-ออสเตรเลีย” บริหารจัดการน้ำ ยกระดับความร่วมมือ/ความสัมพันธ์อันดี ภายใต้นโยบาย UN

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พล.อ.ประวิตร” ประธานสักขีพยาน MOU “ไทย-ออสเตรเลีย” บริหารจัดการน้ำ ยกระดับความร่วมมือ-ความสัมพันธ์อันดี ภายใต้นโยบาย UN ภูมิใจเยาวชนร่วมคิด-สร้างสรรค์นวัตกรรม ย้ำ ภาครัฐ ดึง ปชช.มีส่วนร่วมมากขึ้น


วันนี้ (17 ก.ย.) พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.ได้เดินทางไป สำนักงานใหญ่ การประปาส่วนภูมิภาค หลักสี่ เพื่อเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) ทางวิชาการ “ไทย-ออสเตรเลีย” โดยได้รับฟังการบรรยายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงาน ซึ่งฝ่ายไทยประกอบด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส., ดร.ดนุช ตันเทิดทิตย์ ผช.รมต.อว. และ ฝ่ายออสเตรเลีย ได้แก่ ท่านทูต อัลลัน แมคคินนอน (H.E. Mr.Allan Mckinnon) เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย หลังจากนั้น ได้ทำพิธีลงนามความร่วมมือทวิภาคี ระหว่างเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย กับ เลขาฯ สทนช. และพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ปลัด ก.อุดมศึกษาฯ, เลขาฯ สทนช., เลขาฯ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม หลังจากเสร็จสิ้นพิธีลงนาม พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธานมอบรางวัลให้แก่ผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านน้ำและเยาวชน จำนวน 39 คน (มอบผู้แทน 2 คน) พร้อมได้กล่าวกับผู้ร่วมงาน สรุปสาระสำคัญ คือ จากสถานการณ์ทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับภัยพิบัติต่างๆ เช่น ภัยธรรมชาติ ภัยจากโรคระบาด และอื่นๆ ในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อการดํารงชีวิตของประชากรทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องยกระดับการบูรณาการทุกภาคส่วน ให้เข้ามาเป็นพลังจัดการน้ำร่วมกัน กับภาครัฐ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ตามนโยบายขององค์การสหประชาชาติ (UN) ที่กำหนดให้เป็นปีเริ่มต้นทศวรรษแห่งการร่วมลงมือปฏิบัติ ของทุกประเทศ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความร่วมมือระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ในวันนี้

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล ผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านน้ำและเยาวชน ที่ได้แสดงพลังทางความคิด เชิงสร้างสรรค์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการจัดการน้ำ พร้อมกำชับขอให้หน่วยงานภาครัฐได้ขยายความร่วมมือ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ในโอกาสต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น