“ทักษิณ” ขว้างงูไม่พ้นคอ? บอกไม่โง่ เอาเงิน 2,000 ล้าน ให้ “ธรรมนัส” คุยฟุ้งค่าตัว ส.ส. 5 ล้าน ทุกวันนี้กล้วยเป็นหวี ต่อไปเป็นเครือ “ลูกนัท” ประกาศช่วยคดีเด็ก 14 ถูกรถ ตร.ชน “ม่อน” สัมพันธ์ลึกเด็กก้าวไกล
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (15 ก.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ทักษิณ เดือด! ดีล “ธรรมนัส 2 พันล้าน” ล้มนายกฯล่ม? หลุดปาก หารคนละ 70 ล้าน ก็ซื้อได้แล้ว!
โดยระบุว่า จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ย. 64) นายทักษิณ ชินวัตร หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” กล่าวใน CARE Talk x CARE ClubHouse หัวข้อ “อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของการเมืองไทย” ซึ่งตอนหนึ่งพูดถึงดีลรวมเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า
“มีคนปล่อยข่าวว่า ผมเอาเงิน 2,000 ล้าน ให้ธรรมนัส ผมไม่โง่ใช้เงินแบบนั้นหรอก”
นายทักษิณ บ่นถึงข่าวปล่อยที่ลือกันนักหนาว่า “ดีลล่ม ที่มีปัญหาเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส เพราะมีคนปล่อยข่าวว่าผมเอาเงิน 2,000 ล้าน ไปให้ธรรมนัส แล้วทำไม่สำเร็จ กลายเป็นดีลล่ม คือ ผมจะบอกว่า ผมเริ่มจากศูนย์ ผมหาเงินเอง ดังนั้น ผมไม่โง่เรื่องใช้เงิน
รัฐบาลคุณประยุทธ์นะ ถ้าใช้อีก 28 เสียง เพื่อให้ล้มรัฐบาล หารมาคนละ 70 ล้าน ก็ซื้อได้แล้ว เพราะเขาวิ่งกันแค่คนละ 5 ล้าน แต่ผมไม่ทำไง ผมเกลียด เพราะผมเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ผมไม่ทำแบบนั้นแน่นอน
คนที่ปล่อยข่าวแบบนี้นะ คือ ควาxทั้งนั้น ข่าวปลอมทั้งนั้น ถ้าหลายคนอยากรู้ว่าผมดีลอะไรหรือเปล่า ให้มาถามผมที่ clubhouse นี่ ผมจะได้ตอบให้ชัดๆ ผมรำคาญมากเรื่องการปล่อยข่าว เราเป็นคนนะ จะให้ควาxจูงไม่ได้ ถ้าท่านสงสัยในตัวผม ท่านถามผมตรงๆเลย ถ้าผมพูด ไม่มีคำว่าโกหกหรอกครับ ถ้าผมคิดว่าสิ่งนั้นไม่ควรพูด ผมจะไม่พูด ไม่มีหรอกครับดงดีลอะไร” นายทักษิณ กล่าว
.
และยังกล่าวอีกว่า “ผมคิดว่าทุกวันนี้นายกฯ โกรธ ปลดธรรมนัส ปลดนฤมล กล่องดวงใจพี่ป้อมเขานะ เขาเป็นหัวหน้าพรรคเขาก็โกรธ… ท่านนายกฯ ตัดขาตัวเองตีนลอยนะ เพราะฉะนั้น การเมืองต่อไปนี้ราคาแพงนะ การเมืองเบี้ยหัวแตกแบบนี้ราคาแพง เมื่อไม่กี่วันนี้ใช้กล้วยเป็นหวี แต่ผมไม่เสียสักใบ เพราะผมเชียร์ฝ่ายค้าน คราวที่แล้วสู้กันเป็นหวี แต่นี่จะสู้กันเพื่ออยู่นานต้องเป็นเครือ การคอร์รัปชันก็เต็มที่เลย ประเทศฉิxหาxหมด
ผมคิดว่าไม่นาน นายกฯ ต้องยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ถ้าท่านมั่นใจวิธีการกู้มาแจกเงิน ผมทำนายว่า เดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม ปีหน้าเลือกตั้งใหม่ แต่ผมว่าเร็วกว่านั้น ถ้าอยู่ครบเทอม คือ ต้องแจกกล้วยทีละเครือ หมดสวนแน่ การเมืองที่มันเน่าเพราะไม่คิดปฏิรูป จะสืบทอดอำนาจอย่างเดียวเป็นกรรมของประเทศ บ้านเมืองจะแย่”
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น เปิดหน้าเต็มที่? “นัท” ออกตัว ประกาศช่วยเด็ก 14 หนุนก๊วนดินแดง แจ้งความตำรวจ!
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีทวิตเตอร์ @FreeYOUTHth ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก โพสต์ภาพรถควบคุมผู้ต้องหาคันหนึ่ง เมื่อช่วงกลางดึก 12 ก.ย. ที่ผ่านมา
พร้อมระบุข้อความว่า “ด่วน!! ตำรวจตั้งใจขับชนเยาวชนที่พยายามวิ่งหนีจนตัวปลิว!”
จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นนี้อย่างมาก และเยาวชนคนดังกล่าวได้มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มทะลุแก๊ส ที่จะมาปักหลักแยกดินแดงอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.ย. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษเภตรา ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ว่า จากการตรวจสอบพบว่า เป็นตำรวจจริง โดยได้รับคำสั่งให้นำรถควบคุมผู้ต้องขังไปเฝ้าสังเกตการณ์ เมื่อเหตุการณ์ยุติก็ย้ายไปที่ บช.ปส. กระทั่งเวลา 23.00 น. มีการเปิดการจราจรตามปกติ จึงขับรถมาถนนวิภาวดีฯ
จนมาถึงสามเหลี่ยมดินแดง พบกลุ่มบุคคล 6-7 คน วิ่งออกมาทุบรถ เกรงว่า จะได้รับอันตรายจึงขับรถหลบหนี และเกิดเหตุเฉี่ยวชนขึ้น ซึ่งคนขับได้หยุดดูเหตุการณ์และขับต่อ โดยนำรถไปที่ รพ.พระมงกุฏ และแจ้งต้นสังกัดให้ทราบ ก่อนที่ พฐ.จะเข้าตรวจสอบสภาพรถ และลงบันทึกประจำวัน พร้อมร้องทุกข์ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ และร่วมกันทำลายทรัพย์สินของทางราชการ
ทั้งนี้ กรณีของเด็กที่ถูกรถชนนั้น ในกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว เคยออกมาโหนกระแสข่าวกันว่า น้องเสียชีวิตไปแล้ว แต่ที่จริงน้องปลอดภัย และ ยังคงรักษาตัวเป็นระยะ
ล่าสุด เฟซบุ๊กของ ลูกนัท นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ได้โพสต์ข้อความถึงเยาวชนคนดังกล่าว ระบุว่า
“ถ้าจะลำเอียงกันขนาดนี้ ผมขอรับคนไข้เยาวชนคนนี้ไว้ดูแลค่ารักษาพยาบาล และร่วมกันสู้คดี ฟ้องกลับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหลาย ญาติน้องช่วยติดต่อผมกลับด้วยครับ ผมกลับมาถึง กทม.แล้ว” ทำให้มีคอมเมนต์เข้ามาขอบคุณลูกนัทที่ช่วยเหลือน้องคนนี้ แต่ยังไม่พบว่ามีครอบครัวหรือญาติติดต่อมา
อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า รถควบคุมผู้ต้องหาคันดังกล่าวเป็นของ สน.พลับพลาไชย 1 ซึ่งมี ส.ต.อ.นรเศรษฐ ผบ.หมู่ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 ได้รับคำสั่งจาก บก.น.6 ให้นำรถควบคุมผู้ต้องหาของ สน.พลับพลาไชย 1 คันหมายเลขทะเบียน ฮจ 5399 กทม.ไปสนับสนุนภารกิจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากการเสร็จภารกิจที่ ตร. ให้ไปสนับสนุนภารกิจ ที่บช.ปส. ต่อมามีกลุ่มคนประมาณ 6-7 คน วิ่งออกจากข้างถนน เข้ามายังรถควบคุมผู้ต้องหาคันนั้น
ทั้งนี้ ส.ต.อ.นรเศรษฐ ห่วงว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากไม่ได้พกพาอาวุธประจำกาย จึงพยายามขับรถออกจากบริเวณดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ในจังหวะนั้นได้มีบุคคลเข้ามาขวางบริเวณด้านหน้ารถ เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนบุคคล และต่อมารถยางแตก ไม่สามารถขับต่อได้ จึงได้เลี้ยวเข้าจอดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ ส.ต.อ.นรเศรษฐ ได้เดินทางกลับไปที่สน.พลับพลาไชย 1 แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า รถควบคุมผู้ต้องหาได้รับความเสียหาย กระจกหน้าร้าว ตัวรถมีร่องรอยการถูกทุบด้วยของแข็ง ยางแตก บก.น.6 ได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วน ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชน หากมีการแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับ ส.ต.อ.นรเศรษฐ ทางพนักงานสอบสวน ก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ กรณี “ม่อน อาชีวะ” พบสนิท “ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.สาว ก้าวไกล” ลงพื้นที่ด้วยกันบ่อย?
โดยระบุว่า จากกรณีที่เมื่อวานนี้ นายธนเดช ศรีสงคราม หรือ “ม่อน อาชีวะ” แกนนำขับเคลื่อนกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเคยมีประเด็นขัดแย้งกับกลุ่มการ์ดอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนในขบวนการสามนิ้ว ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “คุณม่อน อาชีวะมันบุรี” โดยเป็นภาพรถของตนเองถูกราดด้วยน้ำมัน จนเสียหายรอบคัน ว่า “ไม่ใช่นิสัยของนักเลง แต่มันคือหมารอบกัด”
ต่อมาโพสต์ต่อว่า “ใช่ว่าจะทำรถผมพังแล้ว ผมจะไม่สามารถไปม็อบได้ ถึงรถผมจะพังแต่ใจผมยังสู้ ผมก็ไปม็อบได้เหมือนเดิม และผมออกไปชุมนุมตามรัฐธรรมนูญที่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน หรือไปฆ่าใครตาย #ถ้าใจเรายังสู้เราก็ต้องสู้ #เชื่อมั่นและศรัทธา”
ทั้งนี้ ทางด้าน เพจ พี่ทัก นักสืบเอกชน ได้โพสต์ข้อความโดยมีการตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่รถยนต์ของ ม่อน อาชีวะ ถูกราดด้วยน้ำมัน โดยคาดว่า ไม่น่าจะเป็นเพราะการที่ม่อนไปร่วมชุมนุม และยังมีการพูดถึง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคก้าวไกล อย่าง “ดวงพร สุขุมพันธุ์พงศ์ (น้อง)” ที่มีความสนิทสนมกับ ม่อน อาชีวะ
ซึ่งเพจพี่ทัก นักสืบเอกชน ยังตั้งข้อสังเกตว่า รถยนต์คันดังกล่าว จอดที่ไหน? ถ้าเป็นจากในภาพ จะเห็นว่า รถก็จอดอยู่ในเขตบ้าน แล้วคนร้ายเข้ามาทำให้รถเสียหายได้ยังไง? คือ ถ้าทำก็ต้องทำแบบว่า มาเดินเอาน้ำมันเบรกราดไปรอบๆ รถอย่างสบายใจ จากนั้นก็ทุบที่กระจกรถ ซึ่งมันต้องส่งเสียงดังอยู่แล้ว ไม่มีใครในบ้านได้ยินเลยหรือ? แล้วคนร้ายย่ามใจเข้าไปในบ้าน แล้วเดินราดน้ำมันเบรกใส่รถแบบชิลๆ แล้วค่อยทุบรถเนี่ยนะ มันง่ายแบบนั้นเลยหรือ?
ประกอบกับ ม่อน อาชีวะ ไม่กล้าฟันธงไปตรงๆ ว่า ใครเป็นคนทำ พูดเป็นนัยเพียงว่า ถึงรถจะพังใจก็ยังสู้ ไปม็อบได้เหมือนเดิม ซึ่งมันไม่ชัดเจนว่า ใครเป็นคนทำ เป็นไปได้หรือไม่ที่ “ม่อน อาชีวะ” รู้อยู่แล้วว่าใครที่เป็นคนทำให้รถยนต์เสียหาย แต่ไม่คิดจะเอาเรื่อง
นอกจากนี้ ทางพี่ทัก นักสืบเอกชน ยังได้มีการพูดถึง ดวงพร สุขุมพันธุ์พงศ์ (น้อง) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคก้าวไกล ว่า มีความสนิทสนมกับม่อน
จากการตรวจสอบของทีมข่าวเดอะทรูธ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ดวงพร ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับรูปภาพ ที่มีการลงพื้นที่กับ ม่อน อาชีวะ โดยระบุข้อความว่า ขอบคุณพี่บุญชอบ ผิวเสวก ประธานชุมชนบางชันพัฒนา ขอบคุณน้องม่อน น้องนิ่ม อาสาใจดีของเราในวันนี้ค่ะ “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน เหมือนว่าไม่มีวัน จะพรากไป ทำอะไร ได้ดังฝันใฝ่ ถ้าเราร่วมใจ จุดหมายที่ฝันกันไว้ ก็คงไม่เกินมือเรา” #ก้าวไกลมีนบุรี #ทำงานให้หนักแล้วเค้าจะรักเราเอง
นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ภาพอีกหลายภาพที่ ดวงพร ลงพื้นที่หาเสี่ยงในเขตมีนบุรี โดยมี ม่อน อาชีวะ ไปช่วยลงพื้นที่หาเสียงอยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตามที่พี่ทัก อ้างว่า ดวงพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคก้าวไกล มีความสนิทสนมกับ ม่อน อาชีวะ จนนำไปสู่การที่รถยนต์ของม่อน ถูกราดด้วยน้ำมันจนเกิดความเสียหาย ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ กรณี “ทักษิณ” กล่าวว่า “...รัฐบาลคุณประยุทธ์นะ ถ้าใช้อีก 28 เสียง เพื่อให้ล้มรัฐบาล หารมาคนละ 70 ล้าน ก็ซื้อได้แล้ว เพราะเขาวิ่งกันแค่คนละ 5 ล้าน แต่ผมไม่ทำไง ผมเกลียด เพราะผมเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ผมไม่ทำแบบนั้นแน่นอน...”
แสดงว่า “ทักษิณ” รู้ทั้งรู้ว่า มีการซื้อ ส.ส.กันในระบบรัฐสภามานานแล้ว และ “ทักษิณ” ก็เป็นหนึ่งในระบบรัฐสภานั้น แต่ “ทักษิณ” ก็ไม่ทำอะไร ในการแก้ปัญหา หรือพัฒนาให้หลุดพ้น หรือ หมดไป ทั้งที่มีอำนาจคับฟ้า และมีความชอบธรรมสูงที่จะแก้ไขอะไรก็ได้ แต่ดันไปแก้กฎหมายเพื่อผลประโยชน์ตัวเองก่อน ทำให้เป็นต้นเหตุของสงครามการเมืองเกิดขึ้นจนถึงวันนี้ ไม่เชื่อลองย้อนดู ว่า “รัฐประหาร” ที่กำลังจะหมดไป เกิดขึ้นอีกครั้งก็เพราะ “ทักษิณ” เป็นสาเหตุ และเรื่อยมาจนถึงวันนี้
แล้วที่น่าตั้งคำถามอย่างมาก ก็คือ การควบรวม “พรรคความหวังใหม่” ของ “บิ๊กจิ๋ว” เข้าไปร่วมกับพรรคไทยรักไทย เขาเรียกกล้วยยกเข่งหรือไม่?
อย่างนี้แล้ว อะไรที่จะต้องปฏิรูป หรือ ปฏิวัติอย่างเร่งด่วน “นักการเมือง” หรือ “สถาบันพระมหากษัตริย์” อย่างที่มีคนบางกลุ่มพยายามเรียกร้อง ลองคิดดูให้ดี