xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลแจงปุ๋ยแพง เหตุจีนมีนโยบายส่งออกน้อย แนะเปลี่ยนปลูกพืชจากใช้ปุ๋ยเคมีเป็นปุ๋ยอินทรีย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ (แฟ้มภาพ)
รองโฆษกรัฐบาล เผย เหตุ “ปุ๋ยแพง” เพราะแม่ปุ๋ยต้องนำเข้า และจีนมีนโยบายส่งออกน้อย ชวน ปชช.เปลี่ยนจากการปลูกพืชที่ใช้ปุ๋ยเคมี มาใช้ปุ๋ยอินทรีย์

วันนี้ (13 ก.ย.) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงการแก้ปัญหาปุ๋ยแพง ว่า ที่ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากแม่ปุ๋ย เช่น ยูเรีย ฟอสเฟต และโพแทสเซียม ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ผลิตรายใหญ่ คือ ประเทศจีน มีนโยบายที่ส่งออกน้อยลง ขณะที่อินเดียไปประมูลซื้อจากจีนมาจำนวนมาก เมื่อพ่วงกับค่าขนส่งสินค้าทางเรือที่มีค่าระวางสูงขึ้น ทำให้ราคาปุ๋ยในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการแล้ว คือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมผู้ผลิตปุ๋ย ได้จัดโครงการพาณิชย์ลดราคาปุ๋ยช่วยเกษตรกร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และขยายไปจนถึง 31 สิงหาคมนี้ โดยจำหน่ายผ่านสถาบันเกษตร ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นการตรึงราคาปุ๋ยไม่ให้เป็นภาระกับเกษตรกร คือ สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ขณะนี้มีปุ๋ยเคมีที่ร่วมโครงการ 84 สูตร ปริมาณ 4.5 ล้านกระสอบ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อเกษตรอำเภอและเกษตรจังหวัดได้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนเกษตรกรเปลี่ยนจากการปลูกพืชที่ใช้ปุ๋ยเคมี มาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ โดยร่วมโครงการเกษตรอินทรีย์กับรัฐบาล ที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ปลูกเกษตรอินทรีย์ในปี 2565 ถึง 1.3 ล้านไร่ โดยรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณในปี 2564 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกเกษตรอินทรีย์ เพราะดีต่อสุขภาพ และเฉลี่ยทั่วโลกสินค้าเกษตรอินทรีย์โตขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์


กำลังโหลดความคิดเห็น