ข่าวปนคน คนปนข่าว
** 2 พส.“พระมหาสมปอง-พระมหาไพรวัลย์” ไม่สะดุดฉุดไม่อยู่ “เจสัน ยัง” แจม ถ้าส้มไม่ยอมหยุด ต้องปรึกษาแม่สิตางศุ์
ปรากฏการณ์เฟซบุ๊ก “ไลฟ์สด” ทะลุโลกโซเชียลฯ สะท้านวงการสงฆ์ของ “2 พส.” พระมหาสมปอง กับ พระมหาไพรวัลย์ ยังเป็นดรามาร้อนๆ อย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่า ความเห็นมีทั้งฝ่ายสนับสนุน และ ฝ่ายติเตียน โดยพระมหาทั้งสองตอบรับนิมนต์ที่จะเข้าชี้แจงต่อ กมธ.ศาสนาฯ สภาผู้แทนราษฎร ในเร็ววันนี้ … แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้น ท่าทีของ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร บอกกล่าวมุมของตัวมองว่า ไม่เหมาะสม เพราะพระสงฆ์กลายเป็นดารา เรื่องนี้ พระธรรมวินัยห้ามไว้ ไม่ควรทำตัวเป็นดารานักแสดง ถ้าอยากจะเป็นดารา ก็ควรลาสิกขาบทไป...
ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นวิธีที่ทำให้ “คนรุ่นใหม่” เข้าถึงธรรมะมากขึ้นนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ให้ดาราทำก็ได้ ก็พูดเหมือนกัน แต่เป็นพระภิกษุจะใช้วิธีสื่อสารเช่นนั้นไม่เหมาะสม ปัญหาคือ ดำรงสถานะเป็นพระภิกษุ ก็ต้องอยู่ในพระวินัย อยู่ด้วยความสมถะเรียบร้อย แต่หากเป็นดารา ก็อีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นการนำเสนอธรรมะ หากเห็นว่าเป็นวิธีที่ดี ก็ไปให้ดาราทำ ทำเช่นนี้ ทำให้ชาวโลกติเตียน ผิดธรรมวินัยบางเรื่อง...
พูดถึงดารา “เจสัน ยัง” ดาราหนุ่มที่รู้กันดีว่า เป็นผู้ที่ซาบซึ้งในรสพระธรรม เคยบวชมาแล้ว 3 ครั้ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม ว่า “จบปริญญา ไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องฉลาด ขับรถหรูไปตลาด ไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องรวย หน้าหล่อหน้าสวย ไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องเป็นคนดี พระเณรแม่ชี ไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องมีศีลอันบริสุทธิ์ ถ้าส้มไม่ยอมหยุด ต้องปรึกษาแม่สิตางศุ์” พร้อมแคปชันที่ระบุว่า “# อย่าซีเรียสเดี๋ยวเครียดเปล่าๆ
โพสต์นี้ของดาราหนุ่ม ทำเอา FC และ ผู้ติดตามเข้ามาแสดงความเห็นคึกคัก โดยเฉพาะประโยคสุดพีกก่อนจบที่ว่า "ถ้าส้มไม่ยอมหยุด ต้องปรึกษาแม่สิตางศุ์” นั่นถูกตีความว่า หมายถึง “กระแส 2 พส.” พระมหาสมปอง กับ พระมหาไพรวัลย์ ที่กำลังเป็นดรามาอยู่นั่นเอง!!
ส่วนความเคลื่อนไหวของ “พระมหาไพรวัลย์ และ พระมหาสมปอง” ชั่วโมงนี้ ไม่สะดุดฉุดไม่อยู่ โดยมีข้อความจากเพจ พระมหาไพรวัลย์ ขึ้นภาพคู่กันของพระมหาทั้งสอง พร้อมข้อความ “ไม่ใช่วันสำคัญแต่ พส.จะมาพบกันโดยมิได้นัดหมาย” เชิญชวนให้ผู้สนใจติดตาม สนทนาแบบเห็นหน้าค่าตากัน “ไลฟ์สด” ผ่านห้องสนทนา “Jook Rooms” แพลตฟอร์มของ Jook ที่เป็นแหล่งบันเทิง ฟังเพลงออนไลน์ชื่อดังของกลุ่มวัยรุ่น โดยพระมหาไพรวัลย์ ได้ระบุว่า “ทุกพื้นที่จะเป็นที่แสดงธรรม”
งานนี้ก็ไม่รู้จะ “จึ้งมาก” แค่ไหน ระเบิดเถิดเทิงกันเพียงไร ไลฟ์ธรรมะ จะมาพร้อมเสียงเพลงอะไร อย่างไรก็ได้ แต่ต้องติดตามกันต่อไป...
ที่แน่ๆ วันนี้ความโด่งดังของ 2 พส.นี้ จะต้านกันอย่างไรไหว...สภาพพพพ.
** “บิ๊กป้อม” บอกเป็นครั้งที่ร้อย...ไม่เป็นนายกฯ ขอแค่ประคองรัฐนาวา
เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การประชุม ครม. ต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาเกือบ 5 เดือน เพิ่งจะได้ประชุมกันแบบพบปะหน้าตากันเต็มคณะเมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับเพิ่งเสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีข่าวระหองระแหงกันในรัฐบาล
การประชุม ครม.ครั้งนี้ จึงถูกจับตาเป็นพิเศษว่า ท่าที ภาษากาย ของรัฐมนตรีแต่ละคน เป็นอย่างไรกันบ้าง ยังวางตัวกันเป็นปกติ หรือมีท่าทีเปลี่ยนไป
อย่างกลุ่ม “3 ช.” ที่นำโดย “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ “อาจารย์น้อง” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน และ “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” รมช.คมนาคม เมื่อขึ้นตึกบัญชาการ ก็เข้าไปพบกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในห้องทำงาน ก่อนจะเข้าห้องประชุม ครม.
ขณะที่ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ที่ปกติแล้วจะเข้าพบ “บิ๊กป้อม” ก่อนทุกครั้งวันนี้กลับไม่แวะ แต่เดินเข้าห้องประชุมไปแบบเงียบๆ
ส่วน “3 ป.” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แวะพักคุยกันที่ห้องสีเหลือง ก่อนเข้าห้องประชุม ครม.ไปพร้อมกัน
รายงานข่าวที่เป็น “ไฮไลต์” ในทางการเมืองของการประชุมครั้งนี้ อยู่ในช่วงพักเบรก ที่นายกฯ ลุกจากที่นั่ง เดินมาทักทายรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณที่ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค แก้ปัญหาโควิด รวมทั้งผ่านศึกซักฟอก
แล้วก็มีรายงานว่า นายกฯได้เดินมาที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ซึ่งกำลังพูดคุยกับ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยเมื่อทั้งสองเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เดินมา จึงยกมือไหว้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ รับไหว้ นายสาธิต แล้วเดินผ่าน ร.อ.ธรรมนัส ไปแบบไม่มองหน้า ...จากนั้นไปทักทาย จับไม้จับมือรัฐมนตรีคนอื่นๆ และก็ไปเว้นที่ “อาจารย์น้อง” อีกคน
เช่นเดียวกับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็เดินผ่านที่นั่ง นายสาธิต และ ร.อ.ธรรมนัส เช่นกัน โดย “บิ๊กป๊อก” ทักทายพูดคุยกับนายสาธิต ก่อนจะหันมาทาง “ผู้กอง” ที่ยกมือไหว้ แต่ “บิ๊กป๊อก” ก็มีสีหน้านิ่งเฉย ก่อนใช้มือแตะสัมผัสปลายมือของผู้กองธรรมนัส เท่านั้น และไม่มีการพูดคุยใดๆ
ส่วน “บิ๊กป้อม” นั่งอยู่กับที่ ไม่ได้เดินออกมาทักทาย จับไม้จับมือใคร
เมื่อมีข่าว “อินไซด์” ออกมาอย่างนี้ ยอมมีภาพความมึนตึงกันในคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะระหว่าง “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป๊อก” กับรัฐมนตรี “กลุ่ม 3 ช.” ที่ยังไม่รู้ว่าจะถูกเช็กบิลเมื่อไร
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวอีกกระแส บอกว่า นายกฯเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะพอที่จะไม่ทำอะไรอย่างนั้น ข่าวที่ออกมาน่าจะมีเจตนา “ด้อยค่า” รัฐมนตรีที่กำลังมีปัญหา แบบช่วยถมหินลงบ่อ
เพราะช่วงที่นายกฯเดินมาทักทาย “รมช.สาธิต” ก็ยังรับไหว้ หยุดทักทายพูดคุยกับ “ผู้กอง” ด้วย ... เช่นเดียวกับ “บิ๊กป๊อก” ที่จับมือกับ “ผู้กอง” แบบเต็มไม้เต็มมือ ไม่ใช่แตะๆ และก็ยังพูดคุยกันดี รายงานข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ไม่รู้ไปฟังมาจากใคร ...
หลังการประชุม ครม. “พี่น้อง 3 ป.” ก็ยังเข้าไปหารือกันเป็นการเฉพาะอีกพักใหญ่ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า คงเป็นการสรุปท่าที ที่จะต้องประคับประคองรัฐนาวากันต่อไป
นอกจากนี้ ยังมี “ไฮไลต์” ก่อนการประชุม ครม.ที่ไม่ควรมองผ่าน เพราะเป็นการย้ำท่าที และจุดยืนของ “บิ๊กป้อม” ในฐานะ “บิ๊กบราเธอร์” ว่า อนาคตของ “ผู้กองธรรมนัส” จะยังคงเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐต่อไป ...ไม่มีการปรับ ครม.
ส่วนข่าวลือที่ว่าในอนาคต พลังประชารัฐ จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย และ “บิ๊กป้อม” จะเป็นนายกฯเองนั้น มีคำตอบชัดว่า...ไม่เป็น ไม่อยากเป็น บอกเป็นครั้งที่ร้อยแล้ว !!
เป็นอันว่า หลังจากนี้ คลื่นลมคงสงบลงเรื่อยๆ รัฐนาวา “3 ป.” ก็ยังเดินหน้าต่อไป