“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 7 กันยายน 2564 ตอน ปรับ ครม. ล็อกเป้า "ธรรมนัส"
ผลพวงการเมืองหลังจบศึกซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่เกิดรอยร้าว และคลื่นใต้น้ำ ในพลังประชารัฐ สิ่งที่คาดต่อจากนี้ ก็คือ สุดท้าย แล้ว บิ๊กตู่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะปรับคณะรัฐมนตรี อีกครั้งเมื่อใด และจะปรับแบบไหน ปรับเล็กหรือปรับใหญ่
เพราะก่อนจะสยบความเคลื่อนไหว ยุทธการล้มโหวตนายกรัฐมนตรี บิ๊กตู่ให้สัญญาใจกับ ส.ส.กลุ่มต่างๆ ของพลังประชารัฐ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เข้าพบ นายกฯ ที่ห้องรับรองนายกฯ อาคารรัฐสภา ในวันที่กระแสโหวตคว่ำนายกฯ มาแรง จนพลเอกประยุทธ์แทบพลิกสถานการณ์ไม่ทัน
ก่อนที่สุดท้าย บิ๊กตู่ เปิดใจพูดคุย ซื้อใจแกนนำพลังประชารัฐและส.ส.หลายกลุ่ม จนกระแสก่อหวอดคว่ำนายกฯ ดับสนิทไป
ด้วยเหตุนี้ ย่อมเป็นไฟท์บังคับที่ บิ๊กตู่ ต้องปรับครม.แน่นอน มีการประเมินกันว่า อาจจะเกิดขึ้น ช่วงก่อนเปิดประชุมสภาฯสมัยหน้า เดือนพ.ย. หรือไม่น่าจะเกินสองเดือนต่อจากนี้
ที่น่าจับตาและติดตาม คือหากมีการปรับครม. สถานะทางการเมืองของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ในครม. จะเป็นอย่างไร ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่า คงมีแค่สองทางเท่านั้น คือ
1.ปรับโดย ธรรมนัส มีตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น พาสชั้นจากรมช.เกษตรและสหกรณ์ ไปเป็นระดับ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง หรือหากยังต้องเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการ ฯ ก็ต้องระดับ รมช.มหาดไทย ในรหัส มท. 2
ได้ดูแลกรมขนาดใหญ่ในมหาดไทย เช่น กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น อย่างที่เคยมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งถึงตอนนี้ ก็คาดว่า พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา บิ๊กป๊อก มท. 1 คงต้องยอม เพื่อแลกกับเสถียรภาพรัฐบาล
และ 2 . บิ๊กตู่ หักดิบ ปรับ ธรรมนัส ออก ริบเก้าอี้ รัฐมนตรี เพื่อเป็นการปราบพยศ และเชือดไก่ให้ลิงดู และเพื่อแสดงให้หลายคนได้เห็น ถึงความเด็ดขาดทางการเมือง แม้จะต้องแลกกับความเสี่ยง ที่รัฐนาวา รัฐบาลอาจโยกคลอน ก็ตามที
อย่างไรก็ตาม ทางเลือกที่ 2 เป็นการแตกหัก ที่ไม่เป็นผลดี ต่อพรรคพลังประชารัฐและรัฐบาล เพราะในอนาคตทางการเมือง พลังประชารัฐ พยายามกรุยทางกันไว้จะเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ภายใต้แผนการแก้รัฐธรรมนูญ ให้ใช้ บัตรสองใบ
เพราะพรรคเชื่อว่า สูตรดังกล่าวจะทำให้พลังประชารัฐ ชนะเลือกตั้ง โดยมี ธรรมนัส เป็นเสนาธิการใหญ่ คุมการเลือกตั้งให้พลังประชารัฐสู้กับเพื่อไทย ถ้าแตกหักกับธรรมนัส แผนการนี้ก็จะมีปัญหาใครจะมาเป็นแม่ทัพในสนามเลือกตั้ง
รวมถึง เหตุที่ พลเอกประยุทธ์และธรรมนัส ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว โดยมีส.ส.พลังประชารัฐ หลายสิบคน เป็นสักขีพยานที่มูลนิธิป่ารอยต่อ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา
ถ้าหาก บิ๊กตู่ จะปรับ ธรรมนัส ออกจากรัฐบาล
พลเอกประยุทธ์ จะเสียผู้ใหญ่ จะยิ่งทำให้ ไม่ได้ใจ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ แวดวงการเมือง จึงเชื่อว่า พี่น้อง 3 ป. คงไม่คิดจะทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ยามนี้ เริ่มเห็นแล้วว่า ขุมกำลัง เครือข่าย การเมืองในพลังประชารัฐ ของ ธรรมนัส แกนนำกลุ่ม 4 ช. เริ่มเครื่องรวนแล้ว ที่เห็นชัดเลยตอนนี้ ก็คือ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังทุนใหญ่อันดับต้นๆของพลังประชารัฐ ได้ตีชิ่ง ออกจากกลุ่ม 4 ช. และธรรมนัส แล้ว
เห็นได้จากบทบาท การเป็นแบ็คอัพสำคัญให้บิ๊กตู่ ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยการเป็นคีย์แมนคอยเดินเกม นำส.ส.พลังประชารัฐ หลายกลุ่ม ทั้งภาคเหนือตอนล่าง-ภาคกลาง-อีสาน-ภาคใต้ รวมถึงกรุงเทพฯ จัดคิวเข้าพบให้กำลังใจบิ๊กตู่ ที่ห้องรับรองนายกฯ
รวมถึง การออกมาให้สัมภาษณ์ ของสันติ ที่ปกป้อง หนุนหลัง พลเอกประยุทธ์เต็มสูบ โดยบนความโชว์ลูกเก๋าส์ ของสันติ ที่อ่านการเมืองขาด และเร็วกว่า ธรรมนัส ที่ยังเป็นแค่นักการเมือง และรัฐมนตรีสมัยแรก จนมีข่าวว่า บทบาทของ สันติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความประทับใจให้ บิ๊กตู่ เป็นอย่างมาก
ท่ามกลางกระแสข่าว หลายกระแสว่า กลุ่มสันติ ที่ดูแลส.ส.และคุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ทั้งเพชรบูรณ์ นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร ชิ่งออกจากกลุ่ม 4 ช. แล้วไปเปิดสัมพันธ์การเมืองกับกลุ่มสามมิตร สมศักดิ์ เทพสุทิน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเกลอเก่าสมัยไทยรักไทย เรียบร้อยแล้ว
จนเริ่มมีกระแสข่าว ไม่แน่ ปรับครม.รอบหน้า สันติ อาจมีตำแหน่งใหญ่ขึ้นกว่ารมช.คลังตอนนี้ ก็เป็นได้ และเมื่อวันจันทร์ที่6 กันยายน สันติก็ไปพบบิ๊กตู่ที่ทำเนียบรัฐบาล อย่างเปิดเผยตั้งใจให้เป็นข่าวด้วย
ขณะเดียวกัน หลังที่ สันติ ผละออกจากกลุ่ม 4 ช. เลยส่งผลให้ อำนาจการเมืองและการต่อรองของ ธรรมนัส ในพลังประชารัฐ หลังจากนี้ คงลดหายไปพอควร
ก๊วนธรรมนัส ยังต้องมีปัญหากับการที่อัยการยื่นฟ้อง คดี ทุจริตงบก่อสร้าง สนามฟุตซอลที่นครราชสีมา ที่อัยการและป.ป.ช.เอาผิด 3 นักการเมืองโคราชกลุ่มตระกูล รัตนเศรษฐ์ คือ วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ที่เป็นอีกหนึ่งแกนนำพลังประชารัฐสายธรรมนัส รวมถึงฟ้องภรรยานายวิรัชและน้องสาวภรรยานายวิรัช รวมเป็นสามคน
หากศาลฎีกาสั่งให้ทั้งสามคนหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นส.ส. ก็จะทำให้ ขุมกำลังของ ธรรมนัสในสภาฯ และในพรรคพลังประชารัฐ จะยิ่งยวบลงไปอีก
ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มส.ส.ภาคใต้ พลังประชารัฐ 13 เสียง ที่เคยอยู่ในขุมข่ายกลุ่มธรรมนัส ก็เริ่มมีข่าวเช่นกันว่า ส.ส.ภาคใต้ บางคน กำลังจะตีชิ่ง เว้นระยะห่างกับ ธรรมนัสแล้ว หลังได้รับสัญญาณบางอย่าง จากห้องรับรองนายกฯ วันที่เข้าไปนั่งกินกาแฟกับ พลเอกประยุทธ์ ที่รัฐสภา
เมื่อสถานการณ์ในพลังประชารัฐเริ่มไม่เป็นใจ กลุ่ม 4 ช. เริ่มถูกแซะ ขุมกำลัง ส.ส.ในสาย ธรรมนัส กำลังถูกดึงออกไป เพื่อลดบทบาทของธรรมนัส
จึงน่าจับตาว่า จากนี้ ธรรมนัส ที่อยู่ในสถานการณ์เสือลำบาก จะแก้เกม อย่างไร เพื่อรอจังหวะ พลิกสถานการณ์กลับมาเป็นคนคุมเกม ในพรรคได้เป็นส่วนใหญ่ เหมือนก่อนหน้านี้
