“สมชาย” คอนเฟิร์ม “บิ๊กตู่” อยู่ต่อ ส.ส.กลับใจ “สุเทพ” ซัด “โทนี่” หิวอำนาจ “พิธา” ล้ม ระบอบปรสิต

เกมนี้ แม้ม้วยคาม็อบ “สมชาย” คอนเฟิร์ม “บิ๊กตู่” อยู่ต่อแน่ ส.ส.กลับใจยกมือพรึ่บ! “สุเทพ” ลั่น โหวตไว้วางใจ “ประยุทธ์” ชำแหละแผน “โทนี่” ปลุกข้ามทวีป “พิธา” จี้เลือกชีวิต ปชช. หรือระบอบปรสิต

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (3 ก.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น งานนี้แม้ม้วยคาม็อบ? “สว.สมชาย” คอนเฟิร์ม “บิ๊กตู่” อยู่ต่อแน่ ส.ส.กลับใจยกมือพรึ่บ!

โดยระบุว่า หลังจากช่วงบ่ายวันนี้ ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภา ซึ่งมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รอต้อนรับ พล.อ.ประวิตร ได้ให้สัมภาษณ์อย่างมีอารมณ์ ก่อนการประชุมร่วม ส.ส.ของพรรคว่า “ปัญหาในพรรคไม่มีอะไร นายกฯ ไปผมก็ไป”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวเผยว่า พล.อ.ประวิตร เข้าประชุมกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐแล้ว โดย พล.อ.ประวิตร ได้พูดเพียงคนเดียวท่ามกลาง ส.ส.ของพรรคกว่า 100 คน และประกาศต่อหน้า ส.ส.ว่า ตนเองสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ หากนายกฯไป ตนก็จะไปด้วยแน่นอน

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความระบุว่า

“จบซะที บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อ จบข่าวลุงตู่อยู่ต่อ ขบวนการคว่ำเรือ 4 กันยา แพ้ราบ ส.ส.กลับใจยกมือพรึ่บ แม้ม้วยคาม็อบ เสียกล้วยฟรี”

ทั้งนี้ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางออกมาจากอาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้พูดคุยกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยดีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร และตนคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ย้ำว่า คุยกับ พล.อ.ประวิตร อย่างเดียว

เมื่อถามว่า ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ และเมื่อถามว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล บอกว่า จบแล้ว เป็นไปตามนั้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “ใครจะพูดอะไรก็พูดไปสิ” พร้อมเอามือชี้ที่ศีรษะ ก่อนกล่าวว่า “ผมคิดเอง และไม่ขอตอบทุกเรื่องหรอก”


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเผยถึงกรณีที่จะล้มหรือไม่ล้มนายกฯนั้น นายกฯ กล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับว่า ใครทำ เขาทำจริงหรือเปล่า และเขาจะทำต่อหรือไม่ และเขาเชื่อมโยงอยู่กับใคร เมื่อถามว่า แนวทางโหวตเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนจะรู้หรือไม่ เขาก็โหวตของเขาเอง

“ในเรื่องเหล่านี้ อยากจะกราบเรียนทุกคนและสื่อ ก็เป็นคนตั้งเองใช่หรือไม่ 3 ป. ไม่มีใครมาทำลายผมได้หรอก ทุกคนอาจจะไม่รู้ ทุกคนอาจจะไม่รักเพื่อนรักคนอื่น เหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนผมก็อยู่ ท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ด้วยกัน และท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมมาตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมมารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนกัน ฝึกอบรมด้วยกันและโตขึ้นมาก็ยังคบ ยังเคารพกันอยู่ ทุกอย่างผมเป็นวันนี้ได้เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผมมา และผมจำได้ว่าพี่ทั้งสองคนจะสอนมาให้ผมทุจริตโกงไม่มี”

จากคำตอบดังกล่าว ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณคอนเฟิร์ม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ต่อจนครบเทอมแน่นอน โดยในวันลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล 4 ก.ย. นี้ คาดว่า จะมี ส.ส.ยกมือหนุน พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่าออกเสียงโหวตคว่ำแน่นอน แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะปลุกระดมผ่านคลับเฮาส์เพื่อชี้ช่องให้ ส.ส.โหวตคว่ำ ก็อาจจะไม่เป็นผลสำเร็จ

โดย “ทักษิณ” กล่าวว่า วันนี้ถ้าอยากให้ประยุทธ์ออก ประชาชนที่อยากจะเปลี่ยนนายกฯทุกเขตเลือกตั้ง ให้ไปหา ส.ส. บอก ส.ส.เลยว่า อย่ายกมือไว้วางใจประยุทธ์ ถ้ายกมือให้ก็จะไม่เลือก เพราะทำให้ฉันเดือดร้อน ทำให้ราคาสินค้าเกษตรกรตกต่ำ ลูกหลานตกงาน


ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น เดือดนอกสภาฯ กำนันสุเทพ ประกาศลั่น โหวตไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์“ พร้อมชำแหละแผน “โทนี่” ปลุกระดมข้ามทวีป

เนื้อหาระบุว่า เรียกได้ว่ากำลังจะเข้าสู่โค้งสุดท้ายอย่างดุเดือด สำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีทั้งข่าวลับข่าวแรง การล็อบบี้ เพื่อให้ ส.ส.โหวตสวนนายกรัฐมนตรี หวังล้มรัฐบาลให้ได้ จนทำให้พรรคร่วมรัฐบาลต่างนั่งกันไม่ติด

ล่าสุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

สภาฯเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีท่านอื่นๆ แต่ฟังมาทุกวันเห็นว่า เป้าที่แท้จริง คือ ท่านนายกรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้น ประกอบกับ นายโทนี่ ออกมาปลุกระดมข้ามทวีป และ สมุนบริวารที่นำโดย นายณัฐวุฒิกับพวกออกมาก่อเหตุกดดัน ส.ส. อยู่ด้านนอกสภา ที่ชั่วร้ายที่สุด คือ การที่มีคนเลวทำร้ายระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยการใช้เงินก้อนโต ไล่ซื้อส.ส. ให้ลงมติไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์

บ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต เพราะการระบาดของโควิดและผลกระทบทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นและมากขึ้นทุกวัน ต้องการผู้นำรัฐบาลที่ซื่อสัตย์สุจริต รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บุคคลที่คนไทยในยามนี้ไว้วางใจให้นำประเทศฝ่าวิกฤตครั้งนี้ พี่น้องประชาชนยังคงไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ ให้นำประเทศก้าวต่อไป

ผมขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพี่น้องประชาชน แสดงความไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศให้ได้


ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า

ที่ผมเคยถามว่า เราต้องเลือกระหว่างประเทศ หรือ ประยุทธ์ ผมถามผิดไป คำถามใหม่ที่ควรจะถามตอนนี้ คือ เราจะเลือกอะไร ระหว่างประเทศชาติและประชาชน หรือปรสิตที่มันกัดกินประเทศของเราอยู่ในทุกวันนี้ ต้องถามดังๆ ไปมากกว่าแค่สมาชิกในห้องนี้ คือถามกับพี่น้องประชาชนที่ได้โหวตเลือกพวกเรามาด้วย ว่าจะไว้ใจกับระบอบที่กัดกินประเทศไทยอยู่แบบนี้หรือ?

ถ้าท่านเป็นนายทุนเป็นเจ้าสัว ได้สัมปทานการท่องเที่ยว มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่มีคนมาเที่ยวประเทศไทยของท่าน?

ถ้าท่านเป็นเจ้าสัวเจ้าของรถไฟฟ้า แต่ไม่มีคนนั่งอยู่ในรถไฟฟ้ามันจะมีประโยชน์อะไร?

ถ้าท่านเป็นเจ้าสัวธนาคาร เพียงเพื่อมีพนักงานเฝ้าอยู่หน้าเคาเตอร์ที่ว่างเปล่า มันจะมีประโยชน์อะไร?

ถ้าท่านเป็นชนชั้นกลางที่คิดว่าไม่เดือดร้อน ไม่ได้ติดโควิด ยังมีงานประจำอยู่ เป็นข้าราชการมีเงินเดือนประจำ ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่า ในอนาคต ลูกหลานของท่านที่จะโตมา จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่ากับท่าน?

มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าท่านเห็นแต่เพียงประโยชน์เฉพาะหน้าของตัวเอง แล้วเลือกความสบาย เลือกรับประโยชน์จากระบอบปรสิต หรือวางเฉยต่อมัน?

สิ่งที่ผมได้พูดมาทั้งหมดเนี่ย คนที่ถูกกดขี่ละเลยมาเป็นเวลานานในประเทศไทย เขามีคำตอบในเรื่องนี้มานานมากแล้ว ว่าเขาต้องการอะไร

ผมเชื่อว่า อนาคตของประเทศไทยดีกว่านี้ได้ มีรัฐบาลที่ดีกว่านี้ได้ นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องเลือก เพราะท่านเห็นแล้วว่า การที่พวกท่านผลักเวลาออกไปถึง 6 เดือน ไม่ยอมเลือกตั้งแต่ตอนนั้น เลือกอะไรที่มันเป็นเรื่องเฉพาะหน้า เลือกสัมปทานเฉพาะหน้า คุณภาพชีวิตเฉพาะหน้า หน้าที่การงานเฉพาะหน้า มันมีราคาที่ต้องจ่ายในภายหลังอีกเยอะแยะมากมาย

และมาถึงตอนนี้ ผมถึงเรียกร้องให้สภาฯแห่งนี้ สังคมแห่งนี้ ประเทศนี้ ต้องเลือกว่า จะเอาชีวิตของประชาชนหรือเอาระบอบปรสิต ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นอย่างนี้ต่อไป
#ก้าวไกล #ประชุมสภา #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #ทลายระบอบปรสิต #ไฟเซอร์

แน่นอน, ประเด็นที่หลายคนสนใจก็คือ “เกมล้มประยุทธ์” ในการโหวตลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจฯครั้งนี้จะออกมาอย่างไร ซึ่งอีกไม่นานก็คงจะรู้หมู่หรือจ่า

แต่เท่าที่ฟังจากคนที่มีความใกล้ชิดวงใน ดูเหมือนมั่นใจว่า เกมมันจบลงแล้ว และเวลานี้ส.ส.ที่ตกเป็นเป้าหมายโหวตล้มนายกฯ ก็ได้กลับใจกันแล้ว ซึ่งนั่นก็ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิดต่อไป จนกว่าจะมีมติอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ หมากเกมนี้ใครอยู่เบื้องหลัง สมคบระหว่างใครกับใคร อยู่ฝ่ายรัฐบาลด้วยกัน หรือ บางคนอยู่ฝ่ายค้าน มีเม็ดเงินเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมากพอที่จะทำให้คนใหญ่คนโตในพรรครัฐบาลบางคนขายตัว อย่างที่มีการพูดถึงหรือไม่

ถ้าจะว่ากันตามจริง ก็ต้องเป็นเช่นนั้น จึงจะสามารถล้มประยุทธ์ได้ กล่าวคือ ต้องทำให้พรรคพลังประชารัฐเสียงแตก ต้องทำให้พรรคร่วมรัฐบาลที่แตกแยกกันบางพรรค ไม่ไว้วางใจจำนวนมาก ขณะเดียวกัน พรรคฝ่ายค้าน ก็ต้องคุมเสียงตัวเองให้ได้ทั้งหมด เมื่อเสียงระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านสูสีกันอย่างนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้

ส่วนจะสู้กันแบบตรงไปตรงมา ไม่มีเกมหนุนหลังจากใคร การอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้งก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่มีทางล้มนายกฯได้ และครั้งนี้ก็ใช่ว่า ฝ่ายค้านจะมีหลักฐานเด็ดอะไร นอกจากอารมณ์ความรู้สึกที่อ้างว่าประชาชนไม่พอใจ และเอกสารปลอม เอกสารเก่า ที่ทำให้เสียเครดิตไปแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ ประเด็นที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ รัฐบาลจะมีการ “ปรับ ครม.” หลังการอภิปรายฯ หรือไม่ อย่างไร รัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลที่ถูกพาดพิงว่า อยู่เบื้องหลังหมากเกมนี้จะถูกปรับออกหรือไม่ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะยังคงไว้วางใจให้คนโตในพรรคบางคน ที่ถูกพาดพิงถึง ดำรงตำแหน่งที่เสมือนเป็นศูนย์กลางของพรรคอีกต่อไปหรือไม่

นี่ต่างหากที่จะเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาในอีกไม่ช้า หลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ หรือว่าจะล้มนายกฯได้ ก็ยิ่งงานช้างของการเมืองไทยเลยทีเดียว!?