xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” จวกคนกล่าวหาแจก 5 ล้านไร้สติ ส่งฝ่าย กม.จัดการแน่ ย้ำไม่มีใครทำลาย “3 ป.”ได้ เตรียมนัดกระชับสัมพันธ์ พปชร.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บิ๊กตู่” ไม่ให้ค่า “เต้” ประกาศล้มนายกฯ ซัดข้อกล่าวหาจ่ายเงิน 5 ล้านซื้อโหวต ส.ส.ในสภาคนพูดไร้สติสัมปชัญญะ ลั่นปล่อยไว้ไม่ได้ส่งฝ่าย กม.จัดการ มั่นใจไม่มีใครทำลาย 3 ป.แตกคอได้ ย้ำร่วมเป็นร่วมตายจนทุกวันนี้ พี่ทั้งสองไม่เคยสอนให้ทุจริต ยอมรับเว้นระยะห่าง ส.ส.พปชร.มากไป เตรียมเคลียร์งานนัดพบกระชับสัมพันธ์ ลั่นเป็นคนเลือก “ธรรมนัส” มาเอง เตือนเด็กต้องฟังผู้ใหญ่ ไม่หวั่นไหวเสียงโหวต พร้อมเดินหน้าต่อทำงานต่อ

วันนี้(3 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าร่วมการประชุม การพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยนายกฯได้เตรียมเอกสารกระดาษเอ4ที่โน้ตประเด็นที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมาด้วย โดยทันทีที่เจอกลุ่มสื่อมวลชนนายกฯพยายามยืนห่างๆพร้อมกล่าวว่าเดี๋ยวจะหาว่านายกฯเป็นหวัดอีก ซึ่งจริงๆตนมักจะแพ้อากาศในตอนเช้าตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศจะล้มนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีราคา อย่าไปฟังเลย เมื่อถามว่าอยากให้นายกฯพูดถึงกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายเปิดเผยมีการแจกเงิน 5 ล้านบาทซื้อโหวตส.ส. ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า กรณีที่มีส.ส.กล่าวหาว่ามีการแจกเงินในสภาตนคิดว่าเป็นการพูดที่ไม่มีสติสัมปชัญญะพอที่จะพูดแบบนี้โดยไม่มีหลักฐานอะไรทั้งสิ้น คาดว่าฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ตนคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้เรื่องแบบนี้ เพราะคนแบบนี้ก็มีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้งแล้ว ช่วงก่อนก็มีการกรีดเลือดในสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยืนอยู่ข้างๆนายกฯได้กล่าวขึ้นมาว่า ตอนนั้นเขาจะหาเสียงให้ลูกเขาสมัครนายก อบจ. ขณะที่นายกรัฐมนตรีกว่าว่า เห็นไหม มีคนช่วยพูดแล้ว ก็ดูพฤติกรรมแล้วกันแต่ละคนที่พูดออกมาว่าเป็นอย่างไร ความน่าเชื่อถือระหว่างเขากับนายกฯเป็นอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตามไอ้คนที่ล้มนายกฯเขาก็ต้องการล้มอยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่าตัวนายกฯกับเขาความน่าเชื่อถือมันมีแค่ไหน เรียกว่ามีราคาหรือไม่


เมื่อถามว่า นายกฯมองว่าการอภิปรายครั้งนี้มีความแตกต่างจากการอภิปรายที่ผ่านมาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่แตกต่างข้อมูลก็เป็นข้อมูลเดิมๆ นำตัวเลขเดิมๆมา และนำตัวเลขย้อนหลังมา ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ทั้งเรื่องโควิด19 คนป่วย คนเจ็บ แน่นอนการทำงานก็ต้องมีปัญหาอุปสรรค เราก็พยายามแก้ไป และก็มีพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมและพรรคพปชร.ก็ลงไปช่วยกันดูแลประชาชนในพื้นที่ นั่นแหละคือหน้าที่ของส.ส.ของพวกเราในการเข้าไปดูแลและเชื่อมโยงกับกลไกของรัฐ กลไกท้องถิ่น ในการนำผู้เจ็บป่วยมารักษาพยาบาล ทุกคนเขาก็ทำแบบนี้

เมื่อถามว่าแสดงว่าแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ กรณีที่จะล้มหรือไม่ล้ม นายกฯ กล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับว่าใครทำ เขาทำจริงหรือเปล่า และเขาจะทำต่อหรือไม่ และเขาเชื่อมโยงอยู่กับใคร เมื่อถามว่าแนวทางโหวตเป็นอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ตนจะรู้หรือไม่ เขาก็โหวตของเขาเอง เมื่อถามว่าที่นายกฯบอกว่าแล้วแต่หัวหน้าพรรคพปชร.ได้มีการพูดคุยกันอย่างไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คุยกันตลอด ตนคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ทุกวัน เข้าใจหรือไม่

“ในเรื่องเหล่านี้อยากจะกราบเรียนทุกคนและสื่อ ก็เป็นคนตั้งเองใช่หรือไม่ 3 ป. ไม่มีใครมาทำลายผมได้หรอก ทุกคนอาจจะไม่รู้ ทุกคนอาจจะไม่รักเพื่อนรักคนอื่น เหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนผมก็อยู่ ท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ด้วยกัน และท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมมาตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมมารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนกัน ฝึกอบรมด้วยกันและโตขึ้นมาก็ยังคบ ยังเคารพกันอยู่ ทุกอย่างผมเป็นวันนี้ได้เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผมมา และผมจำได้ว่าพี่ทั้งสองคนจะสอนมาให้ผมทุจริตโกงไม่มี”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการโทรคุยกับแกนนำหรือส.ส.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ต้องโทรคุยเดี๋ยวตนอาจจะไปเยี่ยมเขาก็ได้ เพื่อให้เห็นความมั่นใจ เมื่อถามว่าที่ผ่านมาเหมือนกับว่านายกฯเว้นระยะห่างกับส.ส.มากเกินไปหรือไม่ เลยทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันในบางเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยอมรับว่า เป็นไปได้ ซึ่งตนก็ทำงานเยอะ ต้องใช้เวลาในการทำงาน และมีอะไรต่างๆตนก็พูดคุยกับหัวหน้าพรรคพปชร. และหัวหน้าพรรคฯก็ไปรวบรวมอะไรต่างๆจากบรรดาสมาชิก ซึ่งอาจจะมีปัญหาตรงนั้น และตนยังได้คุยกับบรรดาส.ส.ที่มาพบตนเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่คณะนี้คณะเดียว มาตั้งหลายสิบคน และที่มาก็เป็นที่เปิดเผย ไม่ใช่ไปแอบในส้วมหรือในห้องน้ำ ไม่ใช่นะ ตนทำอะไรก็ตามจะมีบุคคลที่สามอยู่เสมอ เข้าใจหรือไม่ในการทำงาน เพื่อจะได้เห็นความโปร่งใส ถ้าทำอะไรไม่มีพยานลำบาก ฉะนั้นถ้าจะไปพูดจาอะไรมันก็จะเสียหายหมด

เมื่อถามว่า นายกฯคิดว่ามีขบวนการคนต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้สิ เอาในประเทศก่อน เมื่อถามว่าการที่มีการกล่าวหาจ่ายเงิน5ล้านบาทกันแบบนี้จะมีการแจ้งความหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้พูดกันไปแล้ว เมื่อถามว่า หลังจากนี้นายกฯจะมีความใกล้ชิดส.ส.ให้มากขึ้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความไม่เข้าใจกันอีก นายกฯ กล่าวว่า คงต้องหาโอกาสให้มากขึ้น เดี๋ยวขอปรับเวลาการทำงานของตนก่อน เมื่อถามว่าที่จะมีการประชุมพรรคพปชร.ในวันเดียวกันนี้ จะถือโอกาสไปพบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะพบกันเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที เอาน่าอย่าซักละเอียดมากนักเลย เข้าใจหรือไม่

นายกฯกล่าวว่า การที่ส.ส.มาพบตน เป็นการมาถามสารทุกข์สุกดิบ และทุกคนก็ยืนยันว่าอยู่กับนายกฯ เพราะเขาเป็นคนที่เลือกนายกฯในรายชื่อ ก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ใครดีก็ดี ใครไม่ดีก็ค่อยว่ากัน เรื่องนี้ก็เป็นด้วยข้อเท็จจริง อย่าไปหวั่นไหวด้วยคำพูดของคนนั้นคนนี้ มันจะเดือดร้อน วุ่นวาย ตนไม่อยากให้ทุกอย่างวุ่นวายในช่วงการอภิปราย

“ในส่วนของความสัมพันธ์ ผมบอกไปแล้วทั้ง 3 คนไม่ว่าจะตีผมอย่างไร ผมไม่มีแตกกันอยู่แล้ว รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน จำคำพูดของผมไว้แล้วกัน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้มีคนเสี้ยมให้ 3 ป.แตกกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เฮ้ย มันเสี้ยมมาตั้งนานแล้ว ทุกฝ่ายเสื้ยมหมด เมื่อถามว่าเช้าวันนี้ได้ดื่มกาแฟร่วมกับพี่ทั้ง 2 คนแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่ได้ทานหรอก เพราะต่างคนต่างกิน บ้านอยู่คนละที่กันไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันนี่ ทำไมอยากให้ไปอยู่ด้วยกันหรอ เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกันใน 3 คนพี่น้องหรือไม่ว่าทำไมมีคนมาเสี้ยม นายกฯถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า ตนว่ายังมีอีกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า กับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช. เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพลังประชารัฐ ยังมีความกังวลใจอะไรกันอีกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า”ผมไม่เคยมีประเด็นอะไรกับเขา เพราะผมเป็นคนให้เขาเข้ามาทำงานเอง แล้วผมจะไปมีอะไรกับเขาล่ะ ผู้ใหญ่จะไปมีปัญหากับเด็กได้อย่างไร ผมไม่ได้พูดเฉพาะถึงแค่รายนี้”เมื่อถามว่า แต่ถ้าเด็กมีปัญหาและผู้ใหญ่จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกฯกล่าวว่า เดี๋ยวตนแก้เอง ถ้ามันจริงนะ

เมื่อถามว่า จะตามหาไอ้ห้อยไอ้โหนที่กล่าวอ้างหรือไม่ นายกฯกล่าวย้อนถามว่า ใครล่ะ ตนไม่เห็นมีใครมาโหนตนเลย และตนไม่ชอบคนโหนอยู่แล้ว “ไอ้คนที่ชอบโหน ตั้งแต่เด็กมาแล้วบอกว่าไอ้ที่เข้ามาแล้วบอกว่า”ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย”ไปไกลๆ ไม่โตหรอก

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีแผนเผชิญเหตุด้วยการมีแผนสำรองเผื่อรับมืออุบัติเหตุทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า แล้วจะทำอย่างไร และถึงแม้จะมีการล้มนายกฯก็ต้องไปดูกฎหมายมาตรา 167 มาตรา 168 แต่จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ ที่มีการวางแผนอย่างโน้นอย่างนี้กันมา แล้วทำได้หรือเปล่า เมื่อถามว่า นายกฯหวั่นไหวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่หวั่นไหวด้วยการทำงานของตน ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง อาจจะยังไม่สำเร็จหรือสำเร็จไปบ้างแล้ว แต่หลายอย่างที่สำเร็จก็ไม่มีการออกเอามาพูดกัน หลายคนได้ประโยชน์พอใจ แต่บางคนยังไม่ได้ก็เลยไปเอาส่วนที่ยังไม่ได้ออกมาพูดกัน มาโจมตี สื่อต้องช่วยขยายความให้
นายกฯบ้าง

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะผ่านการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯบอกว่ามันเป็นเรื่องของสภา เป็นเรื่องของส.ส.เป็นเรื่องความเชื่อถือและเชื่อมั่น


เมื่อถามว่า รู้สึกเบื่อการเมืองหรือไม่ที่ต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ และถือว่าโดนหนัก นายกฯกล่าวว่า “ถึงจะเบื่ออย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะผมนึกถึงประชาชนเป็นหลักประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า การปฏิรูปต่างๆที่เขาต้องการผมก็ทำทุกอย่าง แต่อาจช้าบ้างเร็วบ้างขึ้นอยู่กับขั้นตอนแนวทาง และวิธีการ รวมทั้งข้อกฎหมายแต่การปฏิรูปทางการเมืองต้องแก้ที่ตัวพวกเรานั่นแหละ ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้หาวิธีการที่จะล้มจะเลื่อยขา ถือว่ายังไม่ปฏิรูปเลย หรือแม้แต่การพูดจาในสภาที่เอาข้อมูลไม่ถูกต้องบิดเบือน แล้วเอามาอภิปรายพูดย้อนกลับไปกลับมา เวลาจะตอบคำถามตนยังตอบยากเลย เอาอะไรมาพูดว่ะนี่ เพราะพูดกันไปหลายครั้งแล้ว ถามแบบจะเอาให้ได้ ขอให้ว่ากันตามระเบียบตามกติกาแล้วกัน

เมื่อถามว่า ยังมั่นใจที่จะเดินหน้าต่อไปในการทำงานใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ต้องเดินสิ ถ้าตราบใดที่ประชาชนยังต้องการตน ซึ่งตนก็ต้องเดินต่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากท่าทีการให้สัมภาษณ์ของนายกละ ร.อ.ธรรมนัส เหมือนว่าจะมีการแก้แค้นทางการเมืองกันหลังจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขาจะแก้แค้นเรื่องอะไรล่ะ ส่วนที่มีการให้สัมภาษณ์ด้วยโวหารและความดุเดือดก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนผมก็เป็นเรื่องของผม แต่อย่าให้ผมต้องทะเลาะกัน ให้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกฯพูดเช่นนี้ ต่อไปเด็กควรต้องฟังผู้ใหญ่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “หรือผู้ใหญ่จะต้องเชื่อฟังเด็กเหรอ ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน แต่ผู้ใหญ่ก็คือผู้ใหญ่ เข้าใจหรือไม่ ผมเป็นใคร ผมเป็นนายกฯ แล้วนายกฯต้องไปฟังใครที่มันไม่ใช่ ถ้าเรื่องจริงผมฟัง แต่ถ้าเรื่องผลประโยชน์หรือเรื่องต่างๆผมไม่ฟัง และผมยังไม่เห็นมีใครมาพูดกับผมในเรื่องนี้ แต่ก็มีปล่อยข่าวตรงนั้นตรงนี้มา และตัวเลขที่ออกมานั้นเป็นตัวเลขที่ผมเคยได้ยินแล้วว่าจะมาตีและมาจากอีกฝ่ายด้วย

เมื่อถามว่า รำคาญกับข่าวปล่อยที่เกิดขึ้น จะทำให้นายกฯเสียสมาธิในการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่หรอก ถ้าทำให้เสียสมาธิ คงเสียมานานแล้วอยู่มา 6-7 ปี แล้ว เมื่อถามว่าที่บอกว่าจะไปต่อรวมถึงสมัยหน้าด้วยหรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันอยู่ที่สภา




กำลังโหลดความคิดเห็น