xs
xsm
sm
md
lg

เธอเกลียด-ฉันรัก! “ธรรมนัส” เห็นม็อบลูกหลาน ควรเปิดพื้นที่ให้ “บิ๊กป้อม” สั่งโหวตเท่ากัน “พท.” ถูกร้องยุบพรรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “ธรรมนัส” โลกสวย เห็น “ม็อบป่วน” เหมือนลูกหลาน ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
กลั่นจากใจ? “ธรรมนัส” โลกสวย เห็น “ม็อบป่วน” เหมือนลูกหลาน ตร.อย่าทำรุนแรง ควรให้แสดงออก “บิ๊กป้อม” ห้ามแจกกล้วย สั่งโหวต นายกฯ-รมต. เท่ากัน ขณะ “พท.” ใครสวนมติขับออก “เรืองไกร” ร้องขัด รธน. ชงยุบพรรค

น่าสนใจเป็นอย่ายิ่ง วันนี้(31 ส.ค.64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ธรรมนัส โอ๋ผู้ชุมนุม ตร.อย่าทำรุนแรง ควรเปิดให้พูด? อึ้ง! เลขา พปชร.ไม่รู้เด็กจาบจ้วงสถาบัน!

ระบุว่า จากกรณีเมื่อวานนี้ (30 ส.ค. 64) เพจ ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้เผยแพร่คลิปที่มีการสัมภาษณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุ ชีวิตนอกสภาของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า

โดยมีการไปสัมภาษณ์ประชาชนคนจังหวัดพะเยาที่เคยได้รับการช่วยเหลือจาก ร.อ.ธรรมนัส พร้อมกับเจ้าตัวได้เปิดเผยถึงชีวิตส่วนตัว พร้อมกับเส้นทางทางการเมือง ก่อนที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีเนื้อหาบางช่วงที่น่าสนใจ เมื่อถามถึงกรณี คิดอย่างไรกับการที่ประชาชนออกมา Call Out

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ประเทศเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่มันต่าง เราต้องยอมรับได้ พี่กลับมองว่า สิ่งเหล่านั้น เราน่าจะเอามาทบทวนว่า เราเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า มันเป็นสิทธิเสรีภาพที่ควรจะจัดแสดงความคิดเห็นนะครับ เราอย่ามองเห็นคนเห็นต่างเป็นศัตรู เราต้องเอาสิ่งเหล่านั้น มาทบทวนตัวเองว่า เราเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เราจะปรับปรุงตัวเอง

ภาพ ชีวิตนอกสภา ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับการใช้ความรุนแรง “สลายการชุมนุม”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คือพี่มักจะพูดกับเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ที่เป็นข้าราชการที่ดูแลฝ่ายความมั่นคงเสมอว่า บุคคลนั้นคือ ลูกหลานเรานะ มันต้องมีเวทีให้เขาได้แสดงบ้างนะครับ มันไม่ควรไปสร้างความแตกแยกทางสังคมนะครับ บ้านเมือง ณ เวลานี้ การแพร่ระบาด covid บ้านเมืองไม่ปกติ มันคือเกิดสงคราม สงครามระหว่างมนุษย์ สิ่งมีชีวิตกับเชื้อโรค ที่เรามองไม่เห็นที่เราเรียกว่าจะไวรัส โควิด-19 นี่คือสงครามโลกครั้งที่ 3 มันต้องมีเวทีให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นและแสดงจุดยืนของตัวเองบ้างนะครับ งั้นผู้ใหญ่ก็ต้องเข้าใจเด็ก เด็กก็ต้องเข้าใจผู้ใหญ่ จึงจะอยู่ด้วยกันได้ เรานึกถึงอนาคตลูกหลานเรามากกว่า

อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่มีการประกาศการชุมนุม ซึ่งข้อเรียกร้องของแกนนำคณะราษฎร คือ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกครั้งที่มีการชุมนุมหรือมีการเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลมีเดีย ก็จะมีการพูดหมิ่นสถาบัน จาบจ้วงเบื้องสูงอย่างรุนแรง ปล่อยข่าวโจมตีสถาบันมาโดยตลอด ซึ่งเป็นการกระทำที่เหยียบย่ำหัวใจคนไทยและยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ ทุกครั้งที่มีการชุมนุม ผู้ชุมนุมก็จะมีการใช้ความรุนแรง ยั่วยุเจ้าหน้าที่ ไปตลอดจนมีการใช้อาวุธ เข้าไปใช้เพื่อตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า มีเจ้าหน้าที่หลายรายได้รับบาดเจ็บจากอาวุธของผู้ชุมนุม พร้อมทั้งยังมีการจับกุมวัยรุ่นและเยาวชนที่เข้าร่วมม็อบ มีการตรวจพบอาวุธต่างๆเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ทำให้สังคมต่างตั้งคำถามไปถึง ร.อ.ธรรมนัสว่า คนเป็นรัฐมนตรี อีกทั้งยังเป็นเลขาธิการพรรคแกนนำตั้งรัฐบาล ไม่รู้จริงหรือว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในการชุมนุม!?

ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น บิ๊กป้อม สั่ง พปชร. โหวตไว้วางใจนายกฯ-รมต.เท่ากัน ขณะพท.ให้ลงมติไม่ไว้วางใจ ใครสวนพรรคขับออก

โดยระบุว่า จากกรณีวันนี้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีอีก 5 คน ทำให้หลายคนจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

ภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สั่งโหวตเท่ากัน ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. ได้เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เรียกรัฐมนตรีของพรรค พปชร.เข้าไปคุยประมาณ 20 นาที จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ออกมาประชุม ส.ส.ต่อ ก่อนเข้าห้องประชุม ได้ให้ทุกคนฝากโทรศัพท์ไว้ภายนอก

โดย ส.ส.หลายคน ระบายความรู้สึกให้ พล.อ.ประวิตร ฟังว่า น้อยใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ ส.ส.

พล.อ.ประวิตร อธิบายกับ ส.ส.ว่า นายกรัฐมนตรี เหนื่อยมาก และตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม ส่วนที่ไม่มีเวลามาดูแล ส.ส.ก็อย่าน้อยใจไปเลย ว่า นายกฯไม่ดูแล เพราะท่านทำงานเหนื่อย แต่รับฟังตลอด ก็ขอให้สนับสนุนนายกฯ และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนที่ตั้งใจทำงาน จึงขอให้โหวตไปในทิศทางเดียวกัน เท่ากันทุกพรรค

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ถามกลางที่ประชุมถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่าจะกดดัน พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ว่า อยากรู้ว่า เอาข่าวมาจากไหน ใครไปให้ข่าว เพราะทางนี้ก็ปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งบอกว่า นายกฯ รู้เรื่องที่มีข่าวว่าพวกเราจะไม่เอานายกรัฐมนตรีด้วย เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไลน์มาหา พล.อ.ประวิตร ด้วยตัวเอง

เมื่อ พล.อ.ประวิตร พูดถึงเรื่องนี้ ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส และ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. ต่างประสานเสียงชี้แจงไปในทางเดียวกันว่า ไม่มีอะไร ไม่มีการเปลี่ยนขั้วใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งยังสนับสนุนการทำงาน

นอกจากนี้ ในที่ประชุม พล.อ.ประวิตร ยังกำชับกับรัฐมนตรี ห้ามไปแจกกล้วยให้พรรคเล็ก เพื่อคว่ำนายกรัฐมนตรี หรือ 2 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย แต่ให้โหวตในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ระหว่าง พล.อ.ประวิตร พูดถึงเรื่องนี้ มีโทรศัพท์สายหนึ่งเข้ามาหา พล.อ.ประวิตร และพบว่า ปลายสายคือ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่โทรศัพท์มาพูดคุยและสอบถามถึงข่าวลือการโหวตต่างๆ

โดย พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ไม่มีๆ โดยได้ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 2 นาที จากนั้น พล.อ.ประวิตร จึงประชุมกับ ส.ส.ของพรรคต่อ

แต่ทั้งนี้ พบว่าการประชุมส.ส. พปชร.วันนี้ ไม่พบกลุ่มดาวฤกษ์ ที่นำโดย มาดามเดียร์ นางวทันยา วงษ์โอภาสี มาร่วมแต่อย่างใด

ในขณะเดียวกัน ด้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคทุกท่านปฏิบัติตามมติของพรรคในการลงมติ ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายรวม 6 คน รายละเอียดตามญัตติที่อ้างถึงนั้น

“เพื่อให้การตรวจสอบฝ่ายบริหารด้วยการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจข้างต้น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามญัตติที่พรรคได้เสนอไป จึงขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในการลงมติให้เป็นไปตามแนวทางและนโยบายของพรรคด้วยการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปราย”

ทั้งนี้ หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคท่านใดฝ่าฝืนไม่มาประชุมเพื่อลงมติหรือลงมติที่ผิดไปจากนโยบายของพรรคข้างต้น พรรคถือว่าสมาชิกผู้นั้นกระทำการอันเป็นการผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง ซึ่งมีโทษถึงขั้นให้พ้นจากสมาชิก โดยพรรคจะดำเนินการตามข้อบังคับพรรคอย่างเด็ดขาดต่อไป

ภาพ “เรืองไกร” ร้องหนังสือมติพรรค พท.ขัด รธน. ชงยุบพรรค ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ยังมีประเด็น “เพื่อไทย” ออกหนังสือบีบบังคับ ส.ส.ลงมติ ส่อเข้าข่ายมีความผิด ถูกยุบพรรค

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ส.ค.64 พรรคเพื่อไทย ได้มีการออกหนังสือ พท 0762/2564 ซึ่งเนื้อหาของหนังสือ ก็คือ เนื้อหาเดียวกันกับที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุดังกล่าวแล้ว

ต่อมาวันนี้ได้มีการเปิดเผยจาก นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หลังจากที่ พรรคเพื่อไทยได้ออกหนังสือ ว่าข้อความในหนังสือน่าจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 124 วรรคหนึ่ง ตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 1/2542 เนื่องจากการออกหนังสือดังกล่าว ในเชิงบังคับล่วงหน้าว่า ส.ส. จะต้องลงมติตามความในหนังสือนั้น ส่อเข้าข่าย “อาจเป็นปฏิปักษ์” ตามแนวที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยที่ 3/2562 ด้วย

ภาพ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
นอกจากนี้ นายเรืองไกร ยังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ทำการส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อให้ กกต. พิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า จะมีคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทย หรือไม่ หรือจะมีการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย หรือไม่

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ เกมการเมือง ที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดทั้งใน(การอภิปรายไม่ไว้วางใจ) และนอกสภา ทั้งม็อบ 3 นิ้ว คาร์ม็อบ และม็อบทะลุแก๊ส แถมยังผสมโรงจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ ก็พร้อมยึดคลับเฮาส์ โจมตีอีกด้านหนึ่งด้วย

ส่วนรัฐบาลประยุทธ์ จะออกอาการแกว่งให้เห็นหรือไม่ หรือ เอาอยู่หรือไม่ คงต้องติดตามกันไปจนถึงวันลงมติเลยทีเดียว หลังจากทั้ง “บิ๊กป้อม” และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต่างก็มีการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดควบคุมเสียงของตัวเอง เพื่อเป็นทุนเอาไว้บวกกับ “งูเห่า” ทั้งจากรัฐบาลและฝ่ายค้าน(ถ้ามี) ในการเอาชนะโหวตครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ประเด็นไม่พูดถึงคงไม่ได้ กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้สัมภาษณ์ลงในเพจของตัวเอง โดยเฉพาะประเด็นที่พูดถึง “ม็อบ” ดูเหมือนท่าทีที่ออกมาเป็นบวกอย่างมาก ผิดคาดหลายฝ่ายที่คาดว่า เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส จะแสดงความไม่พอใจ และตอบโต้อย่างร้อนแรง เพราะอย่าลืมว่า เขาถูกพวกม็อบ 3 นิ้ว หยามหยันมาตลอด จากที่เคยมีประวัติด่างพร้อยมาก่อนเรื่องยาเสพติด ทั้งยังโจมตีในฐานะ “จุดอ่อน” ของ พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีของรัฐบาลประยุทธ์ด้วย

ยิ่งกว่านั้น ต้องไม่ลืมว่า การไม่มีชื่อ ร.อ.ธรรมนัส และ “บิ๊กป้อม” อยู่ในรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงกับทำให้ “พรรคก้าวไกล” กับ “พรรคเพื่อไทย” ทะเลาะกันขั้นแตกหักอีกต่างหาก ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า พรรคก้าวไกล สนับสนุนม็อบ 3 นิ้วอย่างชัดเจน

ดังนั้น ท่าทีของ ร.อ.ธรรมนัส ถ้าออกมาจากใจจริงถือว่า ใจกว้างเป็นแม่น้ำเลยทีเดียว และถ้ามองในมุมของการเล่นเกมการเมือง ก็ถือว่า เก็บอาการได้ดี และเดินเกมได้อย่างแยบยล ที่ไม่ยอมปะทะ และไม่สุมฟืนเข้ากองไฟ จนทำให้เรื่องบานปลายไปกว่าที่เป็นอยู่ กลับกันเท่ากับเป็นการลดกระแส และลดเงื่อนไขที่ม็อบจะจุดประเด็นความรุนแรงด้วย

เหนืออื่นใด ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ใช้ท่าทีเช่นนี้แสดงออกบ้าง ก็ไม่แน่เหมือนกัน กระแสที่ประชาชนไม่พอใจอาจไม่ถึงขนาดที่เป็นอยู่นี้ก็เป็นได้ ไม่เชื่อ ทำไมไม่ลองดู!!!?


กำลังโหลดความคิดเห็น