xs
xsm
sm
md
lg

“นิพิฏฐ์” เผย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา รับคำร้อง 2 ส.ส.พัทลุง ภท.เสียบบัตรแทน ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตรอง หน.ปชป. เผย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา รับคำร้อง “ฉลอง-ภูมิศิษฎ์” ส.ส.พัทลุง ภท. ปมเสียบบัตรแทนกัน ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายเเรงปมเสียบบัตรเเทนกัน มีผล 3 ก.ย.ส่งหนังสือเเจ้งสภาเเล้ว

วันนี้ (7 ก.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีหมายเลขดำ ที่ คมจ.3/2564 มีคำสั่งให้ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และ นายภูมิศิษฎ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย หยุดการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 235 วรรคสาม (กรณีเสียบบัตรแทนกัน)”

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูล ส.ส. 4 ราย ประกอบด้วย น.ส. ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ นายภูมิศิษฏ์ คงมี ส.ส. พัทลุง พรรคภูมิใจไทย และ นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กรณีถูกกล่าวหามีพฤติการณ์เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ศาลฎีกาฯ ได้มีคำสั่งรับคำร้อง ทำให้น.ส.ธนิกานต์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ส.ส.ทั้ง 4 ราย ถูกชี้มูลในความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ที่ระบุว่า เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงชี้มูลผิดมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ก่อนส่งสำนวนให้ศาลฎีกาพิจารณา

ส่วน ส.ส. อีก 2 ราย คือ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นั้น ป.ป.ช.เห็นว่า กระทำผิดเฉพาะข้อบังคับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการ ไม่ได้มีมูลความผิดทางอาญา ขณะที่ นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และ นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.พรรคพลังท้องถิ่นไท ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้มีคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 3/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นร้อง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และ นายภูมิศิษฎ์ คงมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพัทลุง พรรคภูมิใจไทย เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง (ชั้นรับคำร้อง) ในคดีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง จากการเสียบบัตรแทนกัน

คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่าผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่นับ แต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษาให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับ แต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีตาม รธน. 60 มาตรา 235 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 6-8, 11, 17 และ 27

ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องของผู้ร้องบรรยายพฤติการณ์ที่กล่าวหาพร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้และผู้ร้องดำเนินการตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561 ครบถ้วนแล้ว

ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้รับคำร้องของผู้ร้องเเละสั่งผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตาม รธน.60 มาตรา 235 วรรคสาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ให้มีผลตั้งแต่วันที่รับคำร้อง 3 ก.ย. 64 โดยศาลมีเอกสารแจ้งไปยังรัฐสภาแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น