ศาลฎีกาสั่ง “ธณิกานต์” ส.ส.พปชร.หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลัง ป.ป.ช.ยื่นร้องฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม เสียบบัตรเเทนกันในการประชุมสภา
วันนี้ (18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกามีคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 2/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นร้อง น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง (ชั้นรับคำร้อง) ในคดีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง จากการเสียบบัตรแทนกัน
คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่าผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษาให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี ตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 235 พ.ร.บ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 6-8, 11, 17 และ 27
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องของผู้ร้องบรรยายพฤติการณ์ที่กล่าวหาพร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้และผู้ร้องดำเนินการตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561 ครบถ้วนแล้ว
ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้รับคำร้องของผู้ร้องส่วนที่ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ผู้คัดค้านไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้นเห็นว่ากรณีตามคำร้องของผู้คัดค้านยังไม่มีเหตุผลเพียงพอสมควรที่จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นโดยให้ผู้คัดค้านปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจึงให้ยกคำร้องผู้คัดค้านย่อมต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตาม รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 235 วรรคสามนัดพิจารณาครั้งแรกหรือไต่สวนพยานผู้ร้องในวันที่ 11 พ.ย. 2564 เวลา 09.30 น.