xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายค้านชกวืด เมื่อหมอ ขอบู๊

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไปนั้น กลายเป็นสนามการเมือง ที่สังคมจับจ้องไปที่การขึ้นชกของฝ่ายรัฐบาล นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผนึกกำลัง ข้าราชการ และหน่วยงานในกระทรวงคุณหมอ ต้องลงนวมลุยกับฝ่ายค้าน ที่สะสมความแค้น ล็อกเป้า ประเคนหมัดจัดหนักเรื่องการคุมโรคระบาด ที่หลายคนมองว่า ฝ่ายค้านน่าจะมีหมัดน็อกรัฐบาล เพราะเปิดอภิปรายในช่วงที่การระบาดสาหัส แค่หยิบตัวเลขรายวันมา เสริมดราม่า ก็น่าจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลล้มไปกอง นอนสลบบนเวที ได้ไม่ยาก

แต่เอาเข้าจริง สนามการเมืองนั้น ไม่เคยหมู เพราะทางฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ไล่ตั้งแต่คณะผู้บริหาร ถึงผู้ปฏิบัติงาน เตรียมตัวมาอย่างดี แว่วว่าเก็งข้อสอบกันมาเดือนกว่า ดังนั้น จะเห็นว่า ฝ่ายค้าน ถามมา ฝ่ายรัฐบาล ก็ตอบได้ แถมมีเอกสารมายืนยัน ตอกย้ำความน่าเชื่อถือ

เกมนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ยังเป็นมวยสายบู๊ ที่รุกหนัก ฉายภาพความสูญเสีย เน้นซีนอารมณ์ เรื่องยอดความสูญเสีย เอาใจแม่ยกกองเชียร์เป็นหลัก

ขณะที่ทางรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่แต่เดิมคาดกันว่า จะเล่นบท FIGHTER กับเล่นบท SMARTER ไม่ต่อล้อ ต่อเถียงทางการเมือง

ใช้โอกาสนี้ ที่กล้องทุกตัวจับมาที่ตน สื่อสารถึงประชาชน 70 ล้านคนทั่วประเทศ ถึงแผนการสาธารณสุขไทย ทั้งเรื่องการป้องกันโรค การรักษาโรค ไปจนถึงแผนวัคซีน ชี้แจงกันแบบสะเด็ดน้ำใช้เวลารวมทั้งสิ้นกว่า 40 นาที พร้อมสไลด์อธิบายถึงกว่า 35 ภาพ
เพื่อจะบอกว่า ไทย และทั่วโลก กำลังเผชิญโลกอุบัติใหม่ ซึ่งไทยไม่เคยประมาท เมื่อเรียงไทม์ไลน์จะพบว่าไทยตั้งด่านสกัดโรค ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2563 สามารถควบคุมโรคได้ดี และได้เซ็นสัญญาจัดหาวัคซีนแล้ว

แต่ต่อมามีปัญหาจากกลุ่มลอบเข้าเมือง และผู้กระทำผิดกฎหมาย ส่งผลให้เกิดการระบาดรอบใหม่ นำมาซึ่งการนำเข้ามาของวัคซีนสัญชาติจีน และปรับแผนจัดหาวัคซีนให้มีความหลากหลายตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ปัญหาการแอบลอบเข้าเมือง และการกระทำผิดกฎหมายยังดำเนินต่อไป ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งกลายเป็นปัญหาหลักของระบบสาธารณสุขไทย ทางทีมคุณหมอปรับแผนใหม่อีกครั้ง นำมาตรการการรักษาตัวที่บ้าน และชุมชนมาปรับใช้ ส่งผลให้ ระบบสาธารณสุขไทย ฟื้นตัว กระทั่งสถานการณ์คลี่คลายในที่สุด

งานนี้ นายอนุทิน ได้กล่าวขอโทษครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงสปิริตทางการเมือง และทุกถ้อยแถลงนั้น ไม่มีการหลงเข้าไปอยู่ในเกมของฝ่ายค้านแม้แต่น้อย

ขณะที่ด้านนอก ฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นหมอ ได้ออกมาช่วยรัฐมนตรีชี้แจง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับฝ่ายการเมือง แสดงความรับผิดชอบรวมกันในการทำงาน หัวหมู่ทะลวงฟังนำโดย “ปลัดดุ๊ก” นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต “หมอจิ๋ว” นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์อธิบดีกรมควบคุมโรค

แต่คนที่ร้อนแรงที่สุด คือ นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ออกมาตอก “หมอวาโย อัศวรุ่งเรือง” จากพรรคก้าวไกล ที่ตั้งแง่กับวัคซีนสูตรไขว้ของไทย ที่ไม่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารระดับโลก ซึ่งนายแพทย์ศุภกิจ กล่าวว่า “มีคนบอกว่าเราไขว้สูตรวัคซีนด้วยซิโนแวค และแอสตราฯ เราไม่ได้ตีพิมพ์วิจัยในวารสารวิชาการ ต้องเรียนกรมวิทย์ฯ กำลังส่งตีพิมพ์ แต่งานวิจัยระดับโลกหลังจากที่ได้ผลวิจัยแล้ว กว่าจะส่งให้วารสารตีพิมพ์ จะต้องใช้เวลานาน ดังนั้น สถานการณ์เช่นนี้ หากใครก็ตามที่เป็นผู้บริหารรอให้ตีพิมพ์ก่อนจึงมาบริหารจัดการ ถือว่า โง่มาก”

สะท้อนอารมณ์เดือด ที่หมอกระทรวงฯ มีต่อเนื้อหาการอภิปราย ของฝ่ายค้าน กลายเป็นศึกอภิปรายครั้งนี้ หมอ สธ. ดูจะบู๊กว่าฝ่ายการเมืองเสียอีก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะการตัดสินใจทั้งหลายของฝ่ายการเมือง ก็ได้คุณหมอในกระทรวงคอยเป็น “แบ็กอัพ” อยู่ตลอด เวลาฝ่ายการเมืองถูกบอมบ์ ฝ่ายคุณหมอ ก็โดนสะเก็ดระเบิดไปด้วยอย่างมิต้องสงสัย

การขึ้นชกในสนามอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ฝ่ายค้านดูจะชกวืด ชกลม เสียมาก เพราะการที่นายอนุทิน ตีกรรเชียงไม่เอาหน้าไปรับหมัด ฝ่ายค้านก็เหนื่อยฟรี แถมกลายเป็นพุ่งถลา หน้าคะมำ ไปโดนน็อกด้วยข้อมูลเอาเสียดื้อๆ แค่เปิดประสิทธิภาพการรักษาพยาบาล ที่ไทยยังดีกว่าค่าเฉลี่ยโลกเป็นเท่าตัว แถมวัคซีนที่ถูกยี้ ก็ได้รับการรับรองโดย WHO ทั้งเข้าไปอยู่ใน COVAX เรียบร้อย ข้อมูลนี้ตรงนี้ ไม่ต่างกับหมัดน็อก ที่ซัดเข้าไปเต็มหน้าฝ่ายแค้น

แต่ที่เจ็บจริงๆ คือหมัดจากคณะแพทย์ ซึ่งประเคนใส่ฝ่ายค้านตลอด 4 วันเต็มกับการแถลงโต้แบบเช้าเย็น ด้วยข้อมูลที่หนักแน่น แล้วแบบนี้ ฝ่ายค้าน จะสู้อย่างไรไหว และคงต้องกลับไปทบทวนตัวเองและทำการบ้านมาใหม่






กำลังโหลดความคิดเห็น