xs
xsm
sm
md
lg

“ก้าวไกล” อ้างผลศึกษา-อาจารย์หมอซิโนแวคกันเดลตาไม่ได้ ชี้ “บิ๊กตู่” ความผิดสำเร็จ “อนุทิน” ก็ไม่รอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“วาโย” ยกผลการศึกษา-คำอาจารย์หมอสับนายกฯ ซื้อแต่ซิโนแวคกันเดลตาไม่ได้ ชี้ความผิดสำเร็จ กม.อาญา ม.151-157 อัด “อนุทิน” อย่าปัดความรับผิดชอบ ขู่เตรียมเข้าสู่ศาล ปชช. เชื่อโดนโหวตไม่ไว้วางใจ ปัดด้อยค่าวัคซีนแต่ข้อมูลยืนยันชัดเจน

วันนี้ (1 ก.ย.) นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า ข้อกล่าวหาของตนสั้นๆ ง่ายๆ คือ กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข สั่งซื้อวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอกับสถานการณ์ ซื้อของที่ใช้ไม่ได้ ณ เวลาที่รู้อยู่แล้วว่าใช้ไม่ได้ ตนจะไล่เรียง 4 คำถาม คือ 1. วัคซีนชนิดเชื้อตายมีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดหลักในประเทศเพียงใด ซึ่งจากวารสารวิชาการระดับโลก Nature Renews Immunology เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า วัคซีนซิโนแวคซึ่งเป็นเชื้อตายนั้น รายงานวารสารระดับโลกไม่มีรายงานว่าสามารถรับมือหรือต่อกรกับสายพันธุ์เดลตาได้ และจากการศึกษาในประเทศไทยเผยแพร่ 14 ก.ค. ศึกษาโดยคณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล คณะแพทยศาสตร์ รามาฯ และกระทรวงสาธารณสุข ผลการศึกษาระบุว่าคนที่หายจากการติดเชื้อโควิดปีนี้ มีความสามารถต่อกรกับเชื้อเดลตาได้ถึง 93.33 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเป็นวัคซีนซิโนแวคต่อกรกับเชื้ออยู่ที่ 48.33 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งองค์การอนามัยโลกรับรองคุณภาพว่าต้องอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีศิริราช ระบุในคลับเฮาส์เมื่อ 16 ก.ค.ว่าไม่ควรสั่งซื้อซิโนแวคอีกแล้ว ดังนั้นถ้าท่านไม่เชื่อวารสารระดับโลก หรือการศึกษาของไทย ก็ควรเชื่อผู้เชี่ยวชาญบ้าง ทั้งนี้ ทุกฝ่ายรวมทั้ง ศบค.เห็นตรงกันว่าซิโนแวคสองเข็มไม่พอแล้ว ต้องได้ชนิดอื่นเพิ่มเพื่อเป็นบูสเตอร์ซึ่งเป็น mRNA หรือไวรัลเวคเตอร์ ส่วนคนที่ฉีดซิโนแวคเข็มแรก ถามว่ายังจะดึงดันปักซิโนแวคลงแขนเป็นครั้งที่สองเพื่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ ผลข้างเคียงโดยไม่จำเป็น ผิดจริยธรรมทางการแพทย์ ส่อผิดอาญาฐานทำร้ายร่างกายด้วย

นพ.วาโย อภิปรายว่า ศบค.มีมติซื้อซิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดสเมื่อ 16 ส.ค. พอประชาวิจารณ์เยอะก็ชี้แจงว่าโดยอ้างว่าต้องซื้อมาถมเพิ่มจากแอสตร้าเซนเนก้าที่ได้เพียง 5 ล้านโดสต่อเดือน และต้องฉีดไขว้เพื่อประสิทธิภาพ จากนั้นวันที่ 19 ส.ค.ศิริราชประกาศผลการศึกษาดังกล่าวออกมา ขณะที่อาจารย์หมอระบุว่าไม่ควรสั่งซิโนแวคอีกแล้ว เท่ากับว่าความผิดสำเร็จแล้ว ที่สำคัญสุดคือข้อมูลของการฉีดไขว้ที่จะปลอดภัยนั้นจนบัดนี้ก็ยังไม่มี ขณะที่สายพันธุ์เดลต้าระบาดหลัดตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มิ.ย.- ก.ค.แต่รัฐบาลก็ยังดึงดันสั่งซื้อวัคซีนเชื้อตายอยู่ โดย 6 ก.ค.ซื้อซิโนแวค 10.9 ล้านโดส และวันที่ 16 ส.ค.ซื้ออีก 12 ล้านโดส

นพ.วาโย อภิปรายต่อว่า ขณะที่นายอนุทินเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่เกี่ยวข้องจัดซื้อวัคซีน ฝ่ายแพทย์ลงนามทุกขั้นตอน แต่เมื่อคำสั่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย.นายกฯ ออกประกาศยึดอำนาจรัฐมนตรี 31 ฉบับ ซึ่ง 13 ฉบับเป็นของ รมว.สาธารณสุข

จากนั้นนายกฯ แยบคายมากโดยทอนคืนอำนาจไปโดยบอร์ดชุดต่างๆ ยังปฏิบัติหน้าตามที่ปกติ เว้นแต่นายกฯ จะขอเข้ามาทำเอง โดยหลักอำนาจของรัฐมนตรียังอยู่ และให้หน่วยงานต่างๆ รายงานเรื่องต่างๆ โดยตรงกับนายกฯ เช่น เวชภัณฑ์ ยา เตียง โรงพยาบาลสนาม เป็นต้น ซึ่งเป็นอำนาจของรัฐมนตรี ส่วนการจัดสรรวัคซีนยังเป็นของรัฐมนตรีตาม พ.ร.บ.องค์การเภสัชกรรม มาตรา 5 รวมถึงมาตรา 18 พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนซึ่งนายกฯ เป็นประธานบอร์ด มี รมว.สาธารณสุขก็เป็นรองประธานบอร์ด มีหน้าที่ผลิต บริหาร จัดการ การจัดหาและกระจายวัคซีน ที่สำคัญมีอำนาจจำกัดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนได้ ดังนั้นรัฐมนตรีจะอ้างว่าไม่รู้และปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ถือว่าขัดมาตรา 42 พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรมฯ ที่ต้องป้องกัน ควบคุม รักษาโรคภัย

นพ.วาโย อภิปรายว่า เมื่อท่านเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ซื้อแต่กลับทุจริตและสร้างความเสียหายแก่รัฐ ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ประกอบมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งท่านต้องรู้ว่าวัคซีนชนิดเชื้อตายที่ชื่อโคโรนาแวค ผลิตโดย บ.ซิโนแวค ขอยืนยันว่าไม่ได้โจมตีหรือด้อยค่า แต่ข้อมูลบอกว่าใช้ไม่ได้ ความปลอดภัยการฉีดไขว้ก็ไม่มี แต่กลับเอาคนไทยเป็นหนูทดลอง เคยบอกว่าจะไม่ให้คนไทยเป็นหนูทดลอง นายกฯ และ รมว.สาธารณสุข มีหน้าที่และอำนาจดูแลสุขภาพประชาชนในการจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ แต่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยที่ท่านรู้หรือว่าควรรู้อยู่แล้ว เนื่องจากมีคณะกรรมการและอาจารย์ต่างๆ รายล้อมรอบตัว ท่านย่อมเล็งเห็นผลว่าสิ่งที่ทำนั้นทำให้คนเสียชีวิต สุดท้ายวันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนเชื่อว่าวันลงมติท่านคงไม่ได้รับความไว้วางใจ

“วันนี้ไม่ใช่ศาลยุติธรรม แต่ผมเชื่อว่าข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏนั้น ประชาชนทุกคนเห็นและท้ายที่สุดท่านอาจไม่ต้องก้าวขึ้นสู่ศาลยุติธรรม แต่ท่านก้าวสู่ศาลประชาชนแล้ว โดยประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินผิดบาปของท่าน ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่สามารถลงมติไว้วางใจนายกฯ และรมว.สาธารณสุขได้” นพ.วาโย ระบุ

ทั้งนี้ ระหว่างที่ นพ.วาโย อภิปรายนั้น นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ประท้วงว่า การที่ผู้อภิปรายพูดเจาะจงยี่ห้อวัคซีน จึงเป็นห่วงว่าการนำข้อมูลมาแค่บางส่วนโดยไม่ได้นำข้อมูลที่ครบถ้วนมาอภิปราย จะทำให้ประชาชนเกิดความกังวลต่อการฉีดวัคซีนได้


กำลังโหลดความคิดเห็น