โฆษก ปชป. เผย คดีบุกทำลายทรัพย์สินพรรคคืบ จ่อออกหมายเรียกเรียงคน ว่ากันตามขั้นตอนข้อเท็จจริง บ้านเมืองปกครองด้วยกฎหมาย อย่าใช้กฎหมู่ไม่งั้นวุ่นวาย
วันนี้ (5 ก.ย.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าจากกรณีพรรคได้แจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายทำลายทรัพย์สินพรรคเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ว่า ตนได้ติดตามคดีนี้กับพนักงานสอบสวนอย่างใกล้ชิด และย้ำให้พนักงานสอบสวนทำตามกระบวนการอย่างเคร่งครัด ตรงไปตรงมา โดยไม่อยากให้เป็นกังวลว่าเมื่อเป็นคดีของพรรคการเมืองแล้วต้องเร่งรีบดำเนินการ แต่ต้องการให้ทำคดีให้เหมือนกับคดีของประชาชนที่ได้รับความเสียหายตามปกติ ที่ต้องว่ากันตามขั้นตอนตรงไปตรงมา ผิดถูกว่ากันตามข้อเท็จจริง
นายราเมศ กล่าวต่อไปว่า สถานะล่าสุดของคดี ที่ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว มีข้อกล่าวหาที่พรรคได้แจ้งความคือ คือ ร่วมกันบุกรุกฯ ทำให้เสียทรัพย์ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแต่ไม่เลิก ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคน ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมและเข้มงวด ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ในส่วนนี้ก็เป็นความผิดต่อรัฐซึ่งก็ต้องดำเนินการไป พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้กล่าวหา พยานบุคคล รวบรวมของกลาง ภาพถ่ายของกลาง ภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุ ตรวจพิสูจน์ทราบบุคคลได้ 10 คน และมีการออกหมายเรียกไปแล้ว ซึ่งทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของพนักงานสอบสวน ขณะที่ทางพรรคกำลังรวบรวมตัวเลขความเสียหายเพื่อมอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า บ้านเมืองปกครองด้วยกฎหมายการใช้สิทธิในการดำเนินคดี คือ ช่องทางที่ดีที่สุด ใครผิดใครถูกก็สู้คดีกัน ทั้งในชั้นตำรวจ ชั้นพนักงานอัยการ และในชั้นศาล หลักสำคัญคืออย่าใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะวุ่นวายไม่จบสิ้น