อัยการยื่นฟ้อง “โตโต้” กับพวก 19 คน มั่วสุมก่อความวุ่นวาย-รื้อถอนลวดหนามแยกอุรุพงษ์-ต่อสู้ขัดขวางตำรวจ เมื่อ ปี 2563 ส่วนจำเลยให้การปฏิเสธ แถลงสู้คดี ศาลจึงนัดพร้อมตรวจหลักฐาน 11 ต.ค.นี้
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อายุ 30 ปี แกนนำกลุ่ม WeVo กับพวกรวม 19 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 ขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ เป็นความผิดตาม ประมาลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 115, 116
อัยการโจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2563 จำเลยทั้ง 19 คน กับพวกอีกหลายคนได้ร่วมกันจัดชุมนุมและมั่วสุมกัน ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ ถ.เพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. และร่วมกันรื้อถอนลวดหีบเพลง และแผงกั้นเหล็กซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการออกจากบริเวณดังกล่าวโดยไม่มีอำนาจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ได้ประกาศให้จำเลยทั้ง 19 คน กับพวกเลิกการชุมนุมมั่วสุม แต่จำเลยทั้ง 19 คน กับพวกไม่เลิก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันเข้าจับกุม แต่พวกจำเลยทั้งหมด ร่วมกันต่อสู้ขัดขวาง โดยใช้แผงเหล็กดันกระแทกใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเป็นการมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่
เหตุเกิดที่แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม.
ชั้นสอบสวน จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ระบุอีกว่า สำหรับ นายปิยรัฐ จำเลยที่ 11 ในคดีนี้เป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่อ.3089/2563 ของศาลอาญา จำเลยในคดีหมายเลขดำที่ 1130/2563 ของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อ.1762/2563 ของศาลแขวงดุสิต ขอให้ศาลนับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีดังกล่าวด้วย
ศาลพิจารณาคำฟ้องแล้วประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2092/2564
ต่อมาศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้พวกจำเลยฟังจนเข้าใจแล้ว สอบถาม ปรากฏว่า จำเลยแถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานวันที่ 11 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลังจำเลยทั้งหมดยื่นคำร้องขอประกันตัว
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่1-19 ให้การปฏิเสธ โจทก์ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ประกันโดยวงเงินคนละ 25,000 บาท โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆตามที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก
คดีนี้ศาลอาญา สอบคำให้การแล้ว ปฏิเสธทั้ง 19 คน ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 11 ต.ค.64 เวลา 09.00 น.
นอกจากนี้ วันเดียวกัน อัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยังยื่นฟ้อง นายสหรัฐ เจริญสิน อายุ 28 ปี อาชีพรับจ้าง ชาว จ.สกลนคร เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14
อัยการโจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2564 และวันที่ 13 พ.ค. 2564 จำเลยได้โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ดูหมิ่นให้ร้ายสถาบันหลายครั้งหลายหน กระทั่งวันที่ 8 มิ.ย. 2564 เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ติดตามจับกุมจำเลยได้
เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม .และทั่วราชอาณาจักร ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ
ท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง และเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง
ศาลพิจารณาแล้วประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2087/2564
และนัดสอบคำให้การจำเลยวันที่ 1 ก.ย.นี้ เวลา 08.30 น. โดย นายสหรัฐ ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัววงเงิน 2 แสนบาทระหว่างฝากขัง จะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาลเพื่อสอบคำให้การในวันดังกล่าวด้วย