xs
xsm
sm
md
lg

พท.อัด "บิ๊กตู่-อนุทิน" หากินความตาย ขรก. อ้างเอื้อเจ้าสัวซื้อซิโนแวค ไม่ได้เงินทอนจึงปัดร่วมโคแวกซ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ประเสริฐ" เปิดฉากซัด "นายกฯ–เสี่ยหนู" เผย ขรก.สธ.สุดทนส่งหลักฐานจัดซื้อชิโนแวค สุมหัวกลุ่มธุรกิจขายวัคซีนเหลนเจ้าสัวใหญ่ และบริษัทในโกงกินค่าส่วนต่าง 2 พันล้าน จวกปัดเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์เพราะไม่ได้เงินทอน หาประโยชน์บนความตาย

วันนี้ (31ส.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขว่า ไร้ภูมิปัญญาไร้ความสามารถ ไร้จิตสำนึก ไร้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาลต่อไป โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิดที่ขณะนี้ยอดผู้ป่วยสะสม วันที่ 31 ส.ค. 1.2 ล้านคน มีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 11,589 คนแต่เป็นที่น่าสังเกตใกล้เวลาอภิปรายตัวเลขกับลดลง ซึ่งตนไม่เชื่อ สิ่งเหล่านี้ต้องพิสูจน์เพื่อหาข้อเท็จต่อไป ว่าตัวเลขนี้เป็นการปรับปรุงขึ้นเพื่อการอภิปรายหรือไม่

นายประเสริฐ อภิปรายว่า นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ ว่า ”โควิดเป็นโรคหวัดโรคหนึ่ง” และยังให้สัมภาษณ์อีกเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า “วัคซีนAstraZeneca ที่ผลิตในประเทศ อยู่เต็มแขนของคนไทยแล้ว” ทั้ง พลเอกประยุทธ์และนายอนุทิน มีความเกี่ยวพันกันในอำนาจหน้าที่ร่วมกันหาวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพมีราคาแพงมาฉีดให้คนไทยเพื่อหาผลประโยชน์ปิดกั้นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพราะไม่มีตังค์ทอนบริหารผิดพลาดมีคนตายวันละ 300 คน เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าขาดซึ่งองค์ความรู้ไร้ซึ่งภูมิปัญญา มุ่งหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง มีพฤติติกรรมค้าความตาย

นายประเสริฐ อภิปรายถึงความล้มเหลว4 ด้าน ว่า 1. ความล้มเหลวด้านการควบคุมโรคระบาด ความประมาทคิดว่าตัวเองแน่ ตั้งแต่การระบาดตั้งแต่ปี 2563 ท่านไม่ประเมินผลไม่ประเมินการสั่งการของตัวเอง มีการระบาดคลัสเตอร์ใหญ่ถึง 4 ครั้ง นายอนุทินกับไม่กวดขัน ไม่รอบคอบจนทำให้ระบบสาธารณสุขล้มเหลวและโยนความผิดให้กับประชาชน 2. การจัดหาวัคซีนผิดพลาดล้มเหลว จัดซื้อล้มเหลวจัดหาล้มเหลว วางแผนการจัดหาก็ล้มเหลว ไม่ขวนขวายหาวัคซีน และไม่เตรียมหาวัคซีนทางเลือกตั้งแต่ต้น วัคซีนซิโนแวกเป็นวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิผลสูง ในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่กลายพันธุ์เป็นเดลต้าแล้ว แต่ยังมีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต้องมี 70 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ถึง ไม่สามารถสร้างภูมิได้เลย รวมถึงผิดพลาดที่ไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX ซึ่งหากเข้าร่วมจะทำให้ประเทศมีความมั่นคงด้านวัคซีน ประเทศอาเซียนเขาเข้า โครงการ COVAX หมดแล้ว และได้รับการสนับสนุนวัคซีน 33 ล้านโดส มีเพียงประเทศไทยที่ผิดพลาด

“พล.อ.ประยุทธ์ เจตนาที่จะไม่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวตั้งแต่ต้น อ้างเหตุต่างๆนานา เหตุผลทั้งหลายฟังไม่ขึ้น ไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX เพราะไม่มีตังค์ทอน พลเอกประยุทธ์ทำให้ประเทศเสียหายโดยรู้เห็นเป็นใจกับนายอนุทิน ผมมีหลักฐานเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้นโยบายต่อกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงต่างประเทศ ในการเข้าร่วมโครงการ COVAX โดยระบุว่า วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะซึ่งให้ซึ่งเป็นการมุ่งให้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออกไปขายทั่วโลกที่จะคำนึงถึงชีวิตของประชาชนก่อนแต่มองว่าการที่ประเทศไทยมีโรงงานต่อไปในอนาคตจะสามารถทำกำไรและเป็นสินค้าสาธารณะได้นี่คือข้อผิดพลาดในการไม่เข้าร่วมโครงการทำให้ประเทศขาด อีกทั้งยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของเอกชนกีดกันไม่ให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือกตั้งแต่ไปปี 2563 จนถึงปัจจุบัน แต่ภายหลังต้านกระแสความรู้สึกของประชาชนไม่ได้จึงทำทีเปิดโอกาสให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้ เองแต่ติดปัญหาอุปสรรคหลายเดือน 3. การกระจายรัพย์สินล้มเหลวเป็นวัคซีนการเมือง มั่วไม่เป็นระบบ บางพื้นที่สีแดงเข้มกับไม่ได้รับการฉีดแบบเร่งด่วน และ 4. การบริหางานในสถานการณ์วิกฤติแต่บริหารเหมือนสถานการณ์ปกติ ตัดสินใจเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา”

นายประเสริฐกล่าวว่าข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่ทนต่อการกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทินไม่ไหว โดยได้มอบข้อมูลการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคที่แสดงให้เห็นถึงแผนการนำเข้า ราคาซื้อต่อโดส และราคาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ ซึ่งการจัดซื้อครั้งที่ 1 มีแผนการนำเข้า 2 ล้านโดส นำเข้าได้จริง 1.9 ล้านโดส ราคาตามที่ครม.อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส ราคาซื้อจริง 17.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส , จัดซื้อครั้งที่ 2 ราคาตามที่ครม.อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส ราคาซื้อจริง 15.0 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส , จัดซื้อครั้งที่ 3 ราคาตามที่ครม.อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส ราคาซื้อจริง 14.0 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส , จัดซื้อครั้งที่ 4 ราคาตามที่ครม.อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส ราคาซื้อจริง 9.5 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส และจัดซื้อครั้งที่ 5 ราคาตามที่ครม.อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส ราคาซื้อจริง 9.0 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส จากข้อมูลทั้งหมดพบว่า ราคาตามที่ครม.อนุมัติในการจัดซื้อทั้ง 5 ครั้ง คือ 331,500,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท 10,846,680,000 บาท ส่วนราคาที่จัดซื้อจริง คือ 267,364,000 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินบาท 8,748,150,080 บาท ทำให้เกิดส่วนต่างในการจัดซื้อทั้งสิ้น 2,098,529,920 บาท
 
“นอกจากนี้ผมยังได้หลักฐานการบันทึกการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อการแก้ไขปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ในคณะกมธ.คุ้มครองผู้บริโภค เมื่อวันที่ 15 ส.ค.64 ระบุว่า มีการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค 5 ครั้ง พบว่าราคาที่ครม.อนุมัติทั้ง 5 ครั้ง คือ 17.0 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส แต่ราคาซื้อจริงครั้งที่ 2 – 5 ราคาลดลงตามลำดับตรงกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขที่ให้มา ผมจึงอยากถามถึงเงินส่วนต่างว่าหายไปไหน”

นายประเสริฐ อภิปรายขยายความด้วยว่า การนำเข้าวัคซีนยี่ห้อเดียว คือ ซิโนแวค ถือเป็นวัคซีนเส้นใหญ่ เลี่ยงใช้การจัดซื้อจัดจ้างตามกฎหมาย เพราะใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นฉากบังหน้า นอกจากนั้นยังพบว่าการจัดซื้อซิโนแวค เป็นการจัดซื้อแบบเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่การซื้อแบบรัฐต่อรัฐ แม้ไม่มีตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทย แต่พบว่ามีนายหน้า มีเงินทอน ทำให้การนำเข้าวัคซีนคุณภาพต่ำ เพราะไม่มีหลักฐานวิชาการอ้างอิง อีกทั้งองค์กการอนามัยโลกไม่รับรอง และมีหลายหน่วยงานทักท้วงต่อการจัดซื้อวัคซีนที่ต้องมีคุณภาพ นอกจากนั้นยังพบว่า การจัดซื้อมีราคาสูง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เช่น บราซิล , อินโดนีเซีย

“มีหลายหน่วยงานที่ทักท้วงต่อการจัดซื้อ แต่ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างแท้จริง ทำให้การจัดหาจัดซื้อวัคซีนไม่โปร่งใสเป็นวัคซีนสายสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจกับบริษัทที่ขายวัคซีนซิโนแวคให้กับประเทศไทยเป็นเหลนของเจ้าสัวใหญ่ของเมืองไทย และบริษัทในเครือเจ้าสัวได้ออกแถลงการณ์ว่าการจัดซื้อซิโนแวคไม่มีเกี่ยวข้องกับบริษัท เพราะเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจี ระหว่างทางการไทยและบริษัทที่ขายวัคซีนซิโนแวค” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ อภิปรายทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ตนขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อตำแหน่งราชการ ไม่ซื่อสัตย์ รวมถึงร่วมจัดหาจัดซื้อวัคซีนไม่โปร่งใส แสวงหาประโยชน์บนความตายและกีดกันวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ผูกขาดตัดตอนให้มีวัคซีนยี่ห้อเดียว เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ทำให้วัคซีนขาดแคลน ดังนั้นขอให้พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ลาออก ตามข้อเรียกร้องของประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายของนายประเสริฐ มีการกล่าวพาดพิงถึงองค์กร และบุคคลภายนอก รวมถึงพูดถึงคุณภาพของวัคซีนซิโนแวคหลายครั้ง ทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงว่าอาจทำให้เกิดความเสียหาย และขัดข้อบังคับการประชุม อีกทั้งการด้อยค่าวัคซีนอาจทำให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้วเกิดความเข้าใจผิด และหวาดกลัว จากนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม จึงได้เตือนนายประเสริฐโดยขอให้หลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพบุคคลภายนอก และจะอนุญาตอย่างเต็มที่ในการอภิปรายฝ่ายบริหาร เพราะบุคคลภายนอกไม่มีโอกาสมาชี้แจง และขอให้ระมัดระวังการอภิปรายถึงคุณภาพของวัคซีน เพราะอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ










กำลังโหลดความคิดเห็น