คนอื่น ภาคอื่น ห้ามยุ่ง! “นิพิฏฐ์” ลั่น เดี่ยวตัวต่อตัวกับ “เต้น-ณัฐวุฒิ” แบบคนจริงปักษ์ใต้ จี้ “ชดใช้ 21 ล.” ศาลฎีกาตัดสิน คดีเผาบ้านเผาเมือง หรือ จะยอมเอาผ้าถุงคลุมหัว? หลังแลกหมัด เป็น “ผช.รมต.” กินภาษี ปชช. ไม่ทำงาน
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (4 ส.ค. 64) เฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ประจำ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โพสต์หัวข้อ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ตลกบริโภค”
โดยระบุว่า - ผมตั้งใจไม่เขียนเฟซบุ๊ก 3 วัน แต่ต้องแหกกฎ เพราะได้อ่านข้อความที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เขียนถึงผม ครั้นจะไม่ตอบณัฐวุฒิก็จะได้ใจ หาว่าผมกลัว ผมจึงต้องแหกกฎมาตอบณัฐวุฒิ
- ความจริง ผมกับณัฐวุฒิ ก็มิใช่คนอื่นคนไกลหรอก เรามาจากปักษ์ใต้ด้วยกัน ผมอยู่พัทลุง ณัฐวุฒิอยู่นครศรีฯ นั่งรถไฟสายใต้เข้ากรุงเทพฯล่าความฝันด้วยกัน แต่สถานีสุดท้ายทางการเมืองของเราต่างกัน สถานีสุดท้ายของณัฐวุฒิ จอดที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วนสถานีสุดท้ายของผมพ่ายให้กับ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ แห่งพรรคภูมิใจไทย กลับไปนอนเลียแผลที่พัทลุง เอาเถอะ เราต่างเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดเราต่างกัน
- ผมต้องชี้แจงณัฐวุฒิ ว่า การทำงานของนักการเมืองในตำแหน่ง ผช.รมต. มันไม่มีกำหนดเวลาเหมือนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หรอก รัฐมนตรี/ผช.รมต. เขาไม่ต้องลงชื่อทำงานอันนี้ณัฐวุฒิคงรู้ดีเพราะณัฐวุฒิได้เปรียบผมอยู่แล้ว กล่าวคือ ณัฐวุฒิ เคยเป็นทั้งรัฐมนตรีและเป็นนักโทษ
ส่วนผมเป็นเพียงรัฐมนตรี แต่ไม่เคยเป็นนักโทษ รัฐมนตรีหรือ ผช.รมต.นั้น เขาทำเฉพาะงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ไม่ต้องลงชื่อ ไม่ต้องลงเวลาทำงาน แล้วแต่รัฐมนตรีเขาจะใช้ ถ้าเขาไม่ใช้ก็อย่าริไปทำ เพราะมันผิดกฎหมายบริหารราชการแผ่นดิน ผมไม่อยากติดคุก ผมก็กล่าวชัดว่า
“ผมไม่ใช่ทีมงานของนายกรัฐมนตรี ท่านนายกฯไม่ได้ใช้ผม ผมจึงไม่ต้องสนองงานท่านนายกฯ” แต่ผมขึ้นตรงกับรองนายกรัฐมนตรี (จุรินทร์) เท่านั้น ชัดเจนมั้ย ?
- เรื่องที่ผมขอให้ณัฐวุฒิ ซื้อมังคุดจากนครศรีฯ เลี้ยงเจ้าหน้าที่ในเรือนจำและเลี้ยงนักโทษ ก็เพราะผมอยากเห็นณัฐวุฒิ ไม่เนรคุณผู้มีพระคุณในเรือนจำ คิดถึงข้าวแดงแกงร้อนในเรือนจำ ก็ส่งมังคุดไปฝากเขาบ้าง เผื่อวันหน้าวันหลังได้เข้าไปอีกก็ผูกมิตรไว้ แต่จะไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร ไม่ว่าไรกันหรอก เพียงกลัวว่า เงินที่ฝังดินไว้มันจะเปื่อยหมด เอามาใช้เสียบ้าง
เหตุที่ผมบอกว่า ให้เอาเงินที่ฝังดินมาซื้อมังคุด เพราะผมทราบว่า ตอนที่ณัฐวุฒิชุมนุม ณัฐวุฒิ เคยพูดว่า “เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” คดีเผาบ้านเผาเมืองนั้น ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ ณัฐวุฒิ จ่ายค่าเสียหายค่าเผาบ้านเผาเมือง 2 คดี มีคดีหนึ่งให้ชดใช้ 21 ล้านบาท (อีกคดีหนึ่งผมจำไม่ได้ว่ากี่ล้าน ) แต่ทุกคดีก็น่าจะร่วมๆ 60 ล้านบาท
แต่ทุกวันนี้ ณัฐวุฒิ ยังทำเท่ ทำหล่อ ยืนกอดอก ยังไม่จ่ายเงินค่าเผาบ้านเผาเมืองให้เขาจนเสร็จสิ้นเลย ก็คงเอาเงินใส่ตุ่มฝังดินไว้ ขี้เหนียวจริงนะเรา ถ้าจ่ายไปเท่าไหร่แล้ว ส่งใบเสร็จมาให้ดูหน่อยเถอะ และผมจะประกาศขอบคุณให้เลย ว่า “นายแน่จริง” รับผิดชอบการเผาบ้านเผาเมืองจริง แต่หากไม่จ่าย นายมันก็เป็นตลกบริโภคตัวพ่อเลย
- เมื่อก่อนตอนชุมนุม เดินนำหน้าประชาชน ตอนนี้ เดินตามหลังเด็กแล้ว นี่คงเริ่มดีดลูกคิดรางแก้วแล้วสิว่า ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าอาหารเท่าไหร่ แล้วเตรียมตั้งเบิกอีกล่ะสิ ผมจะบอกอะไรให้นะ (อย่าบอกใครนะ อายเขา รู้เฉพาะเรา 2 คน) มีคนเขาแอบนินทาว่า ณัฐวุฒิเป็นคนประเภท “สู้แล้วรวย” ผมยังว่า เขาเลยว่า อย่าไปว่าณัฐวุฒิอย่างนั้น ณัฐวุฒิเขาจน เงินที่เผาบ้านเผาเมืองยังไม่ได้จ่ายเลย ถ้าเขารวยจริงเขาจ่ายไปแล้ว
- ผมไม่เคยขออะไรณัฐวุฒิเลย คราวนี้ ผมยอมอาย ขออะไรหน่อยได้ไหม นี่พูดเฉพาะคนใต้ด้วยกัน คนภาคอื่นอย่าเข้ามายุ่ง เราคนปักษ์ใต้เป็นคนจริง อย่าให้คนภาคอื่นเขาดูถูก จ่ายค่าเผาบ้านเผาเมืองเถอะ จะได้ไม่ถูกคนค่อนแคะว่าคนใต้มันไม่จริง ไม่รับผิดชอบกับคำว่า “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” จะได้ไม่ถูกใครเขาค่อนแคะเอาว่า “สู้แล้วรวย” จ่ายแล้วจะยืนเต๊ะท่า กอดอก ทำหล่ออย่างไรก็ได้เต็มที่
นี่อย่าหาว่าผมเหยียดเพศเลยนะ ผมพูดกับณัฐวุฒิ 2 คนเท่านั้น พูดแบบนักเลงปักษ์ใต้พูดกัน ถ้าทำอะไรไม่รับผิดชอบ คนใต้เขาว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย ก็ให้เอาผ้าถุงคลุมหัวซะ ..จ่ายค่าเผาบ้านเผาเมืองเถอะอย่าให้เสียชื่อคนปักษ์ใต้บ้านเรา ...ไม่จ่ายก็เอาผ้าถุงคลุมหัวซะ..นี่ทำเต๊ะท่า ยืนกอดอก นายมันก็เป็นตลกบริโภคชั้นต่ำ หากินไปวันๆ....อาย!!!/
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ (3 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อว่า “ณัฐวุฒิ ต้องซัดด้วยดินหน้าเรือนจำ”
โดยระบุว่า - มีบุคคล 2 ประเภท ถ้าเรารู้ว่า ตัวเรามีจิตใจอ่อนแอ ก็อย่าเข้าใกล้ คือ หมอดู กับ หมอผี เพราะคน 2 พวกนี้จะโน้มน้าวคนที่มีจิตใจอ่อนแอ จนอ่อนระทวย หลงเชื่อ หมดเนื้อหมดตัว
- ผมเคยเตือนคุณทักษิณ ชินวัตร ว่า ให้มีกัลยาณมิตรไว้ข้างตัว แต่คุณทักษิณโชคร้าย มีหมอผีอยู่เบื้องซ้าย และมีหมอดูอยู่เบื้องขวา จึงประสบชะตากรรมแบบนี้
- อันว่า ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นั้น ถือเป็นหมอดูประจำตัวทักษิณ ชินวัตร ทำนายทายทักเสียจนคุณทักษิณสิ้นเนื้อประดาตัว แม้แต่แผ่นดินจะเอนร่างลงนอนก็ยังไม่มี
ณัฐวุฒิ นั้น ชาญฉลาดกว่าหมอดู ตรงที่นอกจากเป็นหมอดูแล้ว ยังเป็นหมอผีอีกด้วย หลอกหลอนทักษิณจนไม่เหลืออะไร ณัฐวุฒิหันไปเห็นเด็กไฮโซ วัยละอ่อนบางคน ก็พ่นน้ำลายใส่หน้าผาก จนเด็กอ่อนระทวย ยกมือไหว้ ทำเหมือนที่เคยทำกับคุณทักษิณ ชินวัตร ผมเลยอยากเตือนเด็กๆ ว่า อย่าให้ณัฐวุฒิล้วงตับเลย
ผมเตือนไปยังครอบครัวของไฮโซลูกนัท ว่า ให้เอาลูกไปพรมน้ำมนต์สัก 7 วัดเถอะ วิญญาณณัฐวัฒิจะได้ออกจากร่าง หากรดน้ำมนต์ 7 วัดแล้วไม่หาย ผมแนะนำให้ปรึกษาอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพราะฟังมาว่า วิญญาณณัฐวุฒิ กลัวอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยิ่งกว่าอะไร แม้กระทั่งขับรถผ่านเรือนจำ เห็นกำแพงเรือนจำณัฐวัฒิยังสั่นสะท้าน หากไปรดน้ำมนต์แล้วไม่หาย มีตำรากล่าวต่อไปว่า ให้เอาดินหน้าเรือนจำมาซัดใส่ เวลาซัดดินหน้าเรือจำ ก็ให้บริกรรมว่า “โอม..วิญญาณชั่วร้าย สัมพเวสีทั้งหลาย เปรตทั้งหลาย จงออกจากร่างเด็กบริสุทธิ์เดี๋ยวนี้..” แล้วก็ซัดดินหน้าเรือนจำใส่ นั่นแหละวิญญาณณัฐวุฒิจึงจะออกจากร่าง
- ผมเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีก็จริง แต่ผมไม่ได้ช่วยงานรัฐบาลอะไรเขาหรอก เพราะเขามีคนดี คนเก่ง รอบข้างเยอะแยะ เหมือนที่คุณทักษิณเคยมีข้างกายนั่นแหละ ถ้าจะว่าไป ผมเจอพลเอกประยุทธ์ ครั้งเดียวตอนยึดอำนาจ และท่านก็มีเมตตาจับผมไปขังเฉยเลย ผมจึงไม่มีแม้แต่จะเคยเจอและยกมือไหว้พลเอกประยุทธ์ และก้มหัวต่ำๆ เหมือนที่ณัฐวุฒิกล่าวไว้
- ผมเหมือนนักดาบอิสระ ไร้สังกัด ที่เดินออกนอกยุทธจักรแสวงหาวิโมกขธรรมแล้ว แม้คนพัทลุงจะทิ้ง ไม่เลือกผมแล้ว ก็อย่าดูแคลนผมเลย เวลาบ้านเมืองวิกฤต ผมยังช่วยระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ ซื้อ oxygen high flow ให้โรงพยาบาลพัทลุงได้ตั้ง 4-5 เครื่อง นี่ทราบข่าวว่า มังคุดที่นครศรีธรรมราชราคาตกชาวบ้านประท้วง เอามังคุดมาเทให้รถเหยียบ ณัฐวุฒิช่วยเอาเงินที่ฝังดินไว้ซื้อมังคุดแจกพรรคพวกในเรือนจำหน่อยเป็นไร
ผมอยากบอกณัฐวุฒิว่า เราต่างเป็นนักดาบแล้วมาเจอกันนอกด่าน วางดาบในมือเถอะครับ ช่วยบ้านเมืองก่อน บ้านเมืองหมดทุกข์เข็ญแล้วเราค่อยชำระแค้นกัน แต่นี่อะไร!! กลับคิดจะพาทักษิณกลับบ้าน แล้วจะให้ออกทางประตูหน้า ผมจึงบอกว่า ถ้าจะให้คุณทักษิณออกทางประตูหน้าก็คงต้องมีพระนำด้วย ผมรู้นะ..ผมรู้นะ เวลามีพระนำเขาจะเอาเหรียญใส่ปากมาด้วย ดูความฉลาดของณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ สิ วางแผนคิดจะลักเงินปากผีของคุณทักษิณ ชินวัตร อีก..โธ่..!!
ด้าน “เต้น ณัฐวุฒิ” ก็ไม่เบา โต้กลับ “นิพิฏฐ์” ทันควัน โดยเขียนข้อความถึง นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ว่า
“นิพิฏฐ์เริ่มก่อน ตอบไปแล้วยังดิ้นกลับมา งั้นจัดอีก 1 ชุด นิพิฏฐ์ยกเรื่องหมอดูหมอผีอะไรนั่นมาเข้าข่ายเพ้อเจ้อ คงไม่ต้องเถียงด้วย ที่จริงเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไร เกิดจากนิพิฏฐ์เป็นผู้ใหญ่ใจแคบ เห็นลูกนัทขอโทษคนเสื้อแดงแล้วหงุดหงิดพาลมาถึงผม
คนเขาคิดเองได้ นิพิฏฐ์ไม่เห็นด้วยก็ต้องมีวุฒิภาวะ ผมไม่เคยเจอไม่เคยคุยกับลูกนัทมาก่อน นิพิฏฐ์ไปไกลถึงว่า ผมสะกดจิตแนะครอบครัวให้พาลูกนัทรดน้ำมนต์ 7 วัด หากไม่หายให้เอาดินหน้าเรือนจำมาซัดใส่ผม แนะคาถา “โอม…” ให้บริกรรมด้วย !??!
อ่านดูก็ไม่รู้จะพูดยังไง ขอแนะนำนิพิฏฐ์ไปพบแพทย์ ส่วนลูกนัทเวลาจะพิสูจน์คน ถ้าตั้งใจจริงก็ทำไป นิพิฏฐ์ยอมรับว่า เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีจริง แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ช่วยงานรัฐบาลหรอก อ้าว ! กินภาษีประชาชนฟรี ไม่ทำงาน ทำไมไม่ลาออก เงินเดือนผู้ช่วยรัฐมนตรี 50,000 บาท เป็นมาแล้ว 24 เดือน รวม 1,200,000 บาท จะใจดำกินเปล่าในยามวิกฤตแบบนี้หรือ อย่าบอกนะว่า ลงพื้นที่ช่วยคน เพราะเห็นหน่วยงานอาสาทั้งหลายที่เขาทำก็ไม่มีใครมีตำแหน่งกินเงินเดือนหลวง
ส่วนที่อ้างว่า ระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลแล้วบอกให้ผมซื้อมังคุดแจกนักโทษบ้าง นิพิฏฐ์คงไม่รู้ว่างานช่วยคนผมก็ทำแบบผมมาตลอด เพียงแต่ไม่เอามาอวดข่มใคร เรื่องราคามังคุดจะแก้โดยให้ผมซื้อ มันไม่ใช่ นิพิฏฐ์เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีในทีมจุรินทร์ ซึ่งเป็น รมว.พาณิชย์ ต้องไปบอกลูกพี่ให้ช่วยชาวสวน กินเปล่ามา 24 เดือนแล้ว นิพิฏฐ์ควรทำงานบ้าง
บอกว่า ไม่เคยเจอหรือไม่เคยไหว้ประยุทธ์ ก็ช่างนิพิฏฐ์เถิด ยังไงเขาก็รู้อยู่แล้วว่า เลี้ยงลูกน้องจากพัทลุงไว้
นิพิฏฐ์เปรียบตัวเองเป็นนักดาบอิสระก็ว่าไป แต่ต้องระวังอย่าให้คนเข้าใจว่าเป็นนักหอก หอกหักด้วย แล้วเอาส่วนที่หักเที่ยวทิ่มแทงคนอื่นเขา
ผมออกมาสู้เพื่อไล่ประยุทธ์ ไม่เกี่ยวกับที่นิพิฏฐ์กล่าวหาว่าจะเอาทักษิณกลับบ้าน พูดถึงขั้นผมจะลักเงินปากผี สมมติเรื่อยเปื่อย
เอาเรื่องภาษีประชาชนก่อนดีกว่า เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีโดยไม่ช่วยงานรัฐบาลเลย จะอยู่ทำไม”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ หลัง “เต้น-ณัฐวุฒิ” โดดเข้าร่วมม็อบ ไล่ “ประยุทธ์” ก็คือ
ประการแรก ณัฐวุฒิ เข้าร่วมในนาม แกนนำ 3 นิ้วใช่หรือไม่ ตามที่เคยแสดงท่าทีก่อนหน้านี้ว่า สนใจและสนับสนุนม็อบ 3 นิ้ว ส่วนการเข้าร่วมเป็นแกนนำต้องรอโอกาสที่เหมาะสม ขณะคู่หู “ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. เลือกขับเคลื่อนม็อบ “คนไทยไม่ทน” ม็อบไล่ “ประยุทธ์” โดยไม่แตะต้องสถาบัน หรือ ที่ สมบัติ บุญงามอนงค์ (บ.ก.ลายจุด) สวมบทบาทแทน ด้วยการจัดคาร์ม็อบนั่นเอง
ถ้าเป็นเช่นนั้น แสดงว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง “ณัฐวุฒิ” กับ “จตุพร” อาจเล่นเกมหลายหน้า ออกหน้าไหนก็ได้ หรือ วันดีคืนดี ก็ออกพร้อมกันทั้งสองหน้า และคนๆ นี้ ท่อน้ำเลี้ยงจะต้องใหญ่ และไหลไม่อั้น ลองคิดดูว่า เป็นใคร?
ประการที่สอง บทเรียน เผาบ้านเผาเมือง ตามมาหลอกหลอนเป็นเงาตามตัว อย่าลืมว่า พะยี่ห้อ “ณัฐวุฒิ” ถูกตีตราเอาไว้แล้วว่า มีการนำม็อบเสื้อแดง เมื่อปี 2553 ก่อเหตุรุนแรง ถึงขั้นเผาห้าง เผาศาลากลางจังหวัดหลายแห่ง และเผาอื่นๆ อีกมาก จนเป็นที่มาของคดีเผาบ้านเผาเมือง ซึ่ง ณัฐวุฒิ เคยปลุกมวลชนว่าจะรับผิดชอบเอง
ดังนั้น เมื่อพะยี่ห้อนี้ออกมาเป็นแกนนำม็อบ หรือ คาร์ม็อบที่ผ่านมา ทุกคนต่างจับตามองว่า จะเกิดความรุนแรงถึงขั้นปักหลักต่อสู้กับอำนาจรัฐทำสงครามกลางเมืองอีกหรือไม่
ประการที่สาม การโดดเข้าร่วมเป็นแกนนำม็อบอีกครั้งของ “ณัฐวุฒิ” ทำให้หลายคนคิดถึง กรณี นายทักษิณ ชินวัตร ออกมายืนยันว่า จะเดินทางกลับไทยแน่ และกลับประตูหน้า สนามบินสุวรรณภูมิด้วย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อกันหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่า การต่อสู้ของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อปี 53 ก็เพื่อช่วย “ทักษิณ” กลับบ้าน
ประการที่สี่ การที่ “ณัฐวุฒิ” เข้าร่วมม็อบ 3 นิ้ว เป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่า งานนี้จะมีการนำเสื้อแดงกลับสู่สมรภูมิรบอีกครั้ง และจะเป็นการรบขั้นแตกหัก ด้วยความร่วมมือ ระหว่างคนรุ่นใหม่ กับคนเสื้อแดง เหมือนเมื่อครั้งที่ม็อบ 3 นิ้วเริ่มแรก และมีมวลชนเข้าร่วมจำนวนมาก
เพียงแต่อาจไม่ใช่ช่วงที่มีโรคระบาดโควิด-19 รุนแรง เพราะฉะนั้น ม็อบไล่ “ประยุทธ์” จึงเป็นแค่เป้าลวง ที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย และรู้อยู่แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีทางลาออก แต่มันอาจเป็นไปเพื่อ “หล่อเลี้ยง” กระแสและซ้อมกำลังพลเอาไว้ เพื่องานใหญ่ก็เป็นได้ รอสถานการณ์สุกงอมที่จะมาถึงเท่านั้น แล้ววันนั้น จะได้เห็นการเข้าร่วมของ “ณัฐวุฒิ” อย่างชัดเจน?
จึงไม่แปลก ที่หลายคนจะออกมาตีปลาหน้าไซเอาไว้แล้ว ว่า นี่เป็นเกมการเมืองที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นการต่อสู้กับเงื่อนปมอันซับซ้อนที่ปิดกั้นเอาไว้อย่างหนาแน่น ดังนั้น การที่จะฝ่าเข้ามาได้ ก็จะต้องแก้เงื่อนปมไปทีละขั้นทีละตอน หรือ ทำลายล้างในที่สุด ไม่ง่าย และสุดท้ายอาจไม่เป็นไปตามที่คิดก็เป็นได้!?