xs
xsm
sm
md
lg

“แรมโบ้” ถาม “สุรพล” ทำไมไม่เข้าใจสถานการณ์ประเทศ ย้ำนายกฯ-ครม.WFH ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แรมโบ้” ย้อนถาม “ศ.สุรพล” เป็นผู้บริหารโรงพยาบาล เหตุใดไม่เข้าใจสถานการณ์ประเทศ ย้ำ นายกฯ และรัฐมนตรี แม้จะ WFH แต่ก็ทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด เคยลงพื้นที่มาตั้งนานก่อน ศ.สุรพล โพสต์เฟซบุ๊กอีก

วันนี้ (1 ส.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ศาสตราจารย์สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ถามถึง ครม.ไปไหน บริหารประเทศแบบ WFH พร้อมจี้ตั้งวอร์รูม ลุยหน้างาน โดย นายเสกสกล ยืนยันว่า หากศาสตราจารย์สุรพล มีจิตใจที่บริสุทธิ์ ไม่มีอคติกับใครนั้น จะเห็นว่า นายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างไร ทั้งรัฐมนตรีด้านสาธารณสุขที่ได้ลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ หามาตรการต่างๆ ในการนำผู้ป่วยรักษา มีรัฐมนตรีด้านแรงงานที่ดูแลผู้ใช้แรงงาน รวมถึงรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ในการเยียวยาประชาชน โดยไม่มีใครที่ไม่ทำงาน และทำทุกอย่างในการช่วยเหลือประชาชน

นายเสกสกล ระบุว่า ที่นายกฯ ต้อง WFH นั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า นายกฯ ไม่ทำงาน แต่ต้องทำให้เป็นตัวอย่างกับหน่วยงาน เพราะเป็นผู้ออกมาตรการนี้มา และถือว่าเป็นมาตรการที่ดีที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดได้ ทั้งนี้ การติดตามสั่งการ แก้ไขปัญหา online ยังมีความรวดเร็วกว่า และถึงแม้จะมีบางเรื่องที่จะต้องแก้ไขปัญหาที่แทรกซ้อนตามมา แต่รัฐบาลก็ทำตลอดทุกเรื่อง แม้แต้เรื่องวัคซีนไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งประสานจัดหามาให้มากที่สุดและทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ชี้แจงเป็นระยะ เพื่อให้เข้าใจทั่วกันทั้งประเทศ

นายเสกสกล ยังมองว่า ในสถานการณ์การระบาดเชื้อโควิด-19 การประชุมผ่านออนไลน์ น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ซึ่งหากศาสตราจารย์สุรพล อยากเห็น ครม. ไปตั้งโต๊ะประชุมที่หน้าโรงพยาบาลนั้น คงไม่ได้อะไร นอกจากหลอกให้รัฐบาลโดนด่าว่าสร้างภาพ แถมรวมกลุ่มโดยไม่จำเป็น ถูกมองว่าใช้เทคโนโลยีไม่เป็น และการทำงานของรัฐบาลในการตรวจเยี่ยมและเตรียมความพร้อม ลงพื้นที่ต่างๆ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งนานแล้วก่อนศาสตราจารย์สุรพลจะโพสต์เฟซบุ๊กอีก

“ผมยังมองว่า ศาสตราจารย์สุรพล เป็นถึงประธานคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ น่าจะเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ดี ไม่ควรทำตัวเป็นเหมือนนักการเมืองฝ่ายค้าน และสถานการณ์การระบาดของประเทศเช่นนี้ ไม่มีใครอยากให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากมายขนาดนี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว นายกฯ และรัฐมนตรี ก็ได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ ไม่มีใครเขาอยู่เฉยๆ

“วิกฤตไวรัสโควิดระบาด เป็นมหันตภัยระดับโลก ทุกคนก็ทราบดี การออกมาพูดทำลายจิตใจกัน ทั้งที่ทุกฝ่ายก็ทุ่มเทระดมทุกช่องทางเพื่อหาหนทางสู้ศึกสงครามโควิดครั้งนี้ผ่านไปให้ไ้ด้ การออกมาพูดซ้ำเติมทำลายขวัญกำลังใจกันในภาวะนี้ คงไม่เป็นผลดีมีแต่จะทำร้ายจิตใจคนตั้งใจทำงานมากกว่า ถ้ามีคนออกมาพูดทำลายจิตใจศาสตราจารย์สุรพลบ้าง ท่านก็คงผิดหวังหมดกำลังใจเช่นกัน คำพูดอะไรที่จะให้กำลังใจกันในยามแม่ทัพออกรบในสมรภูมิสงครามมีค่ายิ่ง คงไม่อยากให้สงครามครั้งนี้ประเทศไทยพ่ายแพ้นะครับ” นายเสกสกล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น