สุกงอมแล้วหรือ? “สามกีบ” ขู่ “ก่อการร้าย” ลั่น ถ้ายังไม่เป็น ปชต. วางบึ้ม! “หมอวรงค์” เตือน รบ. ม็อบใช้โซเชียลปั่นสงครามกลางเมือง “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ดับฝัน “นายกฯ พระราชทาน” ไม่รอด! “เจี๊ยบ ก้าวไกล” เจอหมิ่น “หมอยง”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (29 ก.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น "สามกีบ" คิดก่อการร้าย? ลั่น ถ้ายังไม่เป็นปชต. วางบึ้ม อย่างเดียว? “หมอวรงค์” เตือนรัฐบาลม็อบใช้โซเชียลสู่สงครามกลางเมือง
โดยเนื้อหาระบุว่า กรณีกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศนัดหมายชุมนุมวันที่ 7 ส.ค.นี้ อ้างเวลาของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา หมดลงแล้ว ประเทศชาติต้องการนายกรัฐมนตรีที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่ยังไม่มีการระบุเวลาและสถานที่
ต่อมา นายอานนท์ นำภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“เตรียมตัวให้พร้อมกว่าเดิม ชุดกันน้ำผสมแก๊สน้ำตา หน้ากากกันแก๊ส และน้ำเกลือ #ม็อบ7สิงหา ฝ่าแนวกั้นให้ได้ ให้มันจบที่รุ่นเรา”
ล่าสุด เจ๊จุก คลองสาม โพสต์ข้อความถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีการเปิดเผยแชตบทสนทนา โดยระบุว่า จากสามกีบล้มเจ้า มุ่งหน้าเข้าสู่การเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบวางแผนลอบวางระเบิด BTS กันแล้ว เพื่อเรียกร้องให้เป็น ปชต. ยังไม่พอ 7 สิงหา จะเอารถขี้มาฉีดใส่ คฝ. และใส่หน้ากากปิดหน้าร่วมกันล้อมจับตำรวจที่เป็นหัวหน้าสั่งการ เจ๊สรุปให้นะ พวกมึงคือโจรค่ะ
ซึ่งในแชตที่ถูกนำมาเผยแพร่ เป็นบทสนทนาที่มีการพูดถึงการขู่วางระเบิดรถไฟฟ้า BTS และเสาทางด่วนดอนเมือง นอกจากนี้ ยังมีการบอกด้วยว่า ถ้ายังไม่เป็นประชาธิปไตย ก็ขู่วางระเบิดอย่างเดียว?
ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับสงครามผ่านโซเชียล โดยระบุว่า
“#สงครามผ่านโซเชียล
ต้องถามท่านนายกฯและคณะรัฐมนตรี ว่า เคยอ่านหรือได้ยินเรื่อง Weaponization of social media หรือ การใช้โซเชียลเป็นอาวุธก่อการร้ายบ้างไหม
นั่นคือ เขาจะใช้โซเชียลเป็นอาวุธก่อการร้าย เปลี่ยนความคิดคน เพื่อเป้าประสงค์ก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง
การจัดการพวกนี้ ไม่ใช่แค่แถลงข่าว หรือการตั้งศูนย์แก้ข่าวปลอม
รัฐบาลเคยคิดที่จะทำอะไรมากกว่านี้ไหมครับ หรือจะปล่อยไปเรื่อยๆ ตามที่พวกเขาต้องการ”
ขณะเดียวกัน สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 27-28 ก.ค. 64 มีกระแสข่าวลือ หลุดว่อนโซเชียล กรณี “นายกฯ พระราชทาน” ขนาดนักวิชาการของคณะก้าวหน้า-ก้าวไกล อย่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็ได้หยิบประเด็นดังกล่าวมาขยายต่อ เชื่อมโยงไปที่การใส่ความสถาบันฯ ว่าอยู่เบื้องหลังคุมทิศทางการเมืองในสภาฯ ได้
ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“นายกฯ พระราชทาน ?
หลายวันที่ผ่านมา ที่การปล่อยข่าวลือว่า จะมีนายกฯ พระราชทาน
ข่าวลืออย่างนี้ ทำทำไม คนที่คิด คนที่ทำ ถนัดปั่นกระแส ถนัดขายสินค้า ชอบเล่นกับสื่อโซเชียลออนไลน์
ก่อนหน้านี้ ปล่อยข่าวว่า จะกลับมาแล้วนะ แต่กลับมาติดคุก จะมาทำไม
หลอกกองเขียร์ให้ชุ่มชื่น ให้มีความหวัง นักการตลาดที่ดี สินค้าต้องขยันโฆษณา ไม่งั้นเหลือทิ้งบานเบอะ ไม่มีคนซื้อถูกทิ้งคาหิ้ง
ประวัติศาสตร์การเมืองไทย เคยมีนายกฯ พระราชทานเพียงคนเดียว คือ อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา เมื่อผู้นำรัฐบาลหนีออกนอกประเทศ
แต่ครั้งนี้ ไม่มีนายกฯ พระราชทาน แน่นอน อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าดึงสถาบันให้มาเปื้อนการเมือง
การเมืองเป็นเรื่องของสภาฯ อย่าฝันกลางฤดูฝน”
อ่านต่อได้ที่ลิงก์ : https://truthforyou.co/58968/?anm=
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็นที่หลายคนสนใจ กรณี ศชอ.จัดหนัก “เจี๊ยบ ก้าวไกล” ลั่น รอรับหมายเรียก คดีหมิ่น “หมอยง” เจ้าตัวยังไม่สลด ด่าแช่งนายกฯต่อ
โดยเนื้อหาระบุว่า มีประเด็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับ ส.ส.คนดัง อย่าง “เจี๊ยบ ก้าวไกล” นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ออกมาหนุนม็อบ และโจมตีรัฐบาลรายวัน
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ ศชอ. ได้โพสต์ข้อความถึงการเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า
“วันนี้มาลองใช้บริการของ ศปอส.ตร. (ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ : Police Cyber Taskforce) ประเดิมด้วย case ของ หมอยง / คุณเกลือ / คุณกนก / FC ศชอ. และตัวแอดมินเอง
ป.ล. คุณเจี๊ยบ ส.ส.คนดัง เตรียมรับหมายเรียกที่มา bully คุณหมอยง ด้วยนะคะ”
เนื่องจากก่อนหน้านี้ “เจี๊ยบ ก้าวไกล” ได้โพสต์ภาพหมอยง และเขียนข้อความระบุว่า
“มันคงโง่เหมือนผู้นำ และระยำเหมือนหมอบางคน” และยังมีการแชร์ภาพที่หมอยง เคยร่วมกิจกรรมในเวที กปปส. แล้วเขียนข้อความว่า “ปราศรัยก็เก่ง”
นอกจากนี้ นางอมรัตน์ ยังเคยโพสต์รูปภาพฉีดวัคซีนโควิด พร้อมทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ ระบุว่า ซิโนแวคเข็มที่ 2 วันนี้การบริหารจัดการการฉีดวัคซีนที่อาคารรัฐสภาทำได้ดีมาก จนท.มีความเป็นมืออาชีพ ใช้เวลารวมทั้งสิ้นถึงกลับบ้านได้ประมาณ 1 ชม. #ไม่มีโรคประจำตัว
จากนั้น นางอมรัตน์ โพสต์ข้อความสั้นๆ ว่า “ฉีดให้มันจบๆ ไป” โดยเป็นการตอบผู้ที่เข้ามาถามว่า “ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงยอมฉีดยี่ห้อนี้” ซึ่งนางอมรัตน์ตอบกลับว่า “ฉีดไปส่งเดชค่ะ ตามที่เค้าจัดให้ ขี้เกียจเรื่องเยอะ”
และล่าสุด เจ้าตัวก็ยังโพสต์ข้อความในทำนองแช่งนายกฯ ด้วยว่า “ตัวเลขผู้เสียชีวิตนิวไฮวันนี้ รวม #นายกเฮงซวย ด้วยรึยัง ?”
แน่นอน, ประเด็นสำคัญอยู่ที่แชตบทสนทนาของกลุ่มสามกีบ ว่าจริงหรือไม่? ถ้าจริง “เจ๊จุก” ได้มาอย่างไร ความจริงก็ต้องยอมรับว่า “เจ๊จุก” เคยมีข่าววงใน หรือ ภาพหลุดจากวงในออกมาเผยแพร่หลายครั้ง และทุกครั้งก็เป็นของจริง จนมีบางเพจเคยระบุว่า “เจ๊จุก” มีสายอยู่ในสามกีบ ซึ่งทำให้เรื่องนี้น่าจับตามองไม่น้อย
ที่น่าวิเคราะห์ก็คือ นี่คือ คำขู่ และขู่คำโตด้วย หรือว่า เป็นแผน และต้องวิเคราะห์ด้วยว่า แผนจริง หรือ แผนลวง
เริ่มจากคำขู่ อาจมีที่มาจากกระแสม็อบสามนิ้วพักหลังแผ่วลงไปมาก มวลชนออกไปร่วมน้อย ที่ออกไปส่วนใหญ่เป็นการ์ดอาชีวะและเครือข่ายที่จัดตั้งมาได้เท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติกรรมของการชุมนุมที่เน้นการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก่อความรุนแรง รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และการติดเชื้อก็ง่ายขึ้น เพราะสายพันธุ์เดลตา ที่มีความรุนแรง
ดังนั้น เพื่อสร้างกระแสในการเคลื่อนไหว จึงต้องขู่คำโตเข้าไว้ โดยอาจไม่สนใจว่า มวลชนจะไปร่วมแค่ไหน แต่ต้องการปั่นป่วนการรับมือของเจ้าหน้าที่ให้วุ่นวายมากขึ้น
ถ้าเป็นแผน นับจาก “แผนลวง” กลุ่มสามกีบ อาจต้องการสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนน่ากลัว โดยไม่ได้ตั้งเป้าที่จะเอาจริง หรือ เสี่ยงก่อความรุนแรงถึงขั้นที่ขู่เอาไว้ เพราะรู้อยู่แล้วว่า เจ้าหน้าที่จะต้องวางแผนรับมือเช่นกัน แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนซ้ำเติม กระแสความล้มเหลวที่รัฐบาลกำลังถูกโจมตีจากหลายฝ่าย เพื่อดูสถานการณ์ว่า มวลชนตอบรับอย่างไร เพื่อตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไป
แต่ถ้าเป็น “แผนจริง” ก็ใช่ว่าจะไม่มีสัญญาณให้เห็น อย่าลืมว่า “อีแอบ” คนสำคัญ ได้เดินทางไปต่างประเทศแล้วก่อนหน้านี้ หลายคนจับตามองแต่ก็ยังไม่กล้าฟันธง หรือ มีข้อมูลยืนยันว่า เกี่ยวกับแผนที่แชตบทสนทนาหลุดออกมาหรือไม่ แต่ที่สำคัญ พวกเขาอาจหาทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว? ถ้าหากเกิดความรุนแรงถึงขั้นก่อการร้ายขึ้นจริง
สรุปว่า ไม่ว่าแชตบทสนทนาที่หลุดออกมา จะจริงเท็จประการใด แต่ที่ดูเหมือนแน่นอนที่สุด ก็คือ การชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค. ส่วนสถานการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น ปกติพฤติกรรมของม็อบพักหลังก็ไม่มีครั้งไหนที่ไม่รุนแรงอยู่แล้ว ยิ่งแกนนำส่งสัญญาณให้ฝ่าแนวกั้นตำรวจให้ถึงเป้าหมายให้ได้ และเตรียมเครื่องป้องกันการปะทะเอาไว้เป็นอย่างดี อย่างนี้จะให้หมายความว่าอย่างไร?
เหนืออื่นใด ต้องยอมรับว่า วันนี้ประเทศไทยมาถึงจุดที่เปราะบางอย่างมาก รัฐบาลกำลังขาดความน่าเชื่อถือในการแก้ปัญหาโควิด-19 อย่างแรง แถมมีความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้นจากการจัดสรรวัคซีน โดยเฉพาะใครควรได้เข็มที่ 3 ก่อนใคร ใครที่ถูกยัดไส้โดยนักการเมือง ไม่นับมีการสร้างความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนจนสับสนไปหมด และทำให้ส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงวัคซีนเท่าที่ควร เหล่านี้ถ้าถูกซ้ำเติมสถานการณ์จากการเคลื่อนไหวก่อการร้าย ไม่ว่าจะจริงหรือขู่ ก็ล้วนแต่สร้างความวุ่นวายและต้องใช้กำลังตำรวจในการรับมือที่มากขึ้นทั้งสิ้น
ยิ่งถ้ามีการวางแผนจัดคาร์ม็อบดาวกระจาย หรือม็อบในต่างจังหวัด ผสมโรงขึ้นทั่วประเทศอีก ก็นับว่าน่าจับตา รัฐจะรับมืออย่างไร จะเกิดม็อบชนม็อบหรือไม่ รุนแรงแค่ไหน
สถานการณ์ในขณะนี้แม้ว่าจะยังไม่สุกงอมจนประชาชนลุกฮือขึ้นมาล้มรัฐบาล แต่จะลุกลามไปสู่ความสุกงอมหรือไม่ ต่างหากที่น่าเป็นห่วง เพราะบางครั้งแค่รัฐบาลตัดสินใจพลาดนิดเดียว ก็บานปลายไปกันใหญ่ได้แล้ว
ได้แต่หวังว่า จะจบลงด้วยความสงบเรียบร้อย รัฐบาลเอาอยู่ ไม่เกิดวิกฤตแทรกซ้อนในภาวะที่ประเทศยากลำบากอยู่แล้ว และหวังว่า รัฐบาลจะไม่ประมาทด้วยประการทั้งปวง!?