พลิกปูม “หมอวิชัย” คนกันเอง อดีต “นายกเล็ก-ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย” หนุนโครงการ “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” ของ “ณวัฒน์” โดนแล้ว “4 ส.ส.ก้าวไกล” ประกันผู้ต้องหา 112 ซ้ำร่วมม็อบ 18 ก.ค. “หมอวรงค์” ตอกกลับ “ทอน” เจ็บ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (23 ก.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น “เปิดประวัติ “หมอวิชัย” ไม่ธรรมดา ก่อนเป็นคู่กรณี “ณวัฒน์” เคยเป็นนายกเล็ก-ลงสมัคร ส.ส.เชียงราย”
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 64 บนโลกโซเซียลแห่แชร์พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ หลังจากเมื่อช่วง 1 ทุ่มที่ผ่านมา นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้ง Miss Grand International ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในหัวข้อ ณวัฒน์เพื่อคนไทย โดยคราวนี้ระเบิดอารมณ์แบบเต็มๆ ด่ากราดตั้งแต่หมอยันนักการเมือง ด้วยถ้อยคำที่ดุเดือดรุนแรง และบางช่วงบางจังหวะเจ้าตัวถึงปิดหน้าร้องไห้ด้วย
ในช่วงหนึ่งนายณวัฒน์ถึงกับฟิวส์ขาด ด่าทอหมอด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยอ้างว่า มีสายโทร.เข้าผ่านโทรศัพท์ภายใน ซึ่งปลายสายไม่ใช่หมอที่รักษา แจ้งว่า ให้ออกจาก รพ.วันนี้ ทั้งที่ยังรักษาตนไม่เสร็จ โดยในบทสนทนานั้น คุณหมอคนดังกล่าว บอกว่า เป็นรองผู้อำนวยการ อยากขอความร่วมมือ เนื่องจากคนไข้รอเข้าโรงพยาบาลเยอะ คุณณวัฒน์ ก็อยู่จนครบ ทางแพทย์ลงความเห็นว่าสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ก็ขอคุณณวัฒน์ว่าเราจะขอเตียงให้คนไข้รายอื่น
ณวัฒน์ บอกว่า อาการของตนยังไม่ดีพอสมควร หมอบอกว่า แพทย์ลงความเห็นแล้วว่าสามารถกลับได้ คนไข้ที่ออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ต้องมีความแข็งแรงครบ ณวัฒน์ บอกว่า ที่บ้านติดโควิดกันทั้งหลัง ไม่มีใครดูแล อยู่ที่นี่หมดเลย ตนไม่สามารถช่วยเหลือตนเอง หรือออกไปใช้ชีวิตได้
หมอบอกว่า ถ้าอย่างนั้นต้องให้ความร่วมมือในการเปิดกล้องวงจรปิดด้วย ต้องปฏิบัติตามคนไข้ทุกคนที่อยู่ในนี้ เพื่อเราจะได้ดูอาการ เพราะบอกว่า อาการไม่ดีขึ้น ต่อมา ณวัฒน์ ถามว่า มีปัญหาอะไรหรือเปล่า หมอบอกว่า มีปัญหา เราต้องการเตียงให้คนไข้รายอื่น ถ้าคุณแข็งแรงดี จะใช้สิทธิว่าไม่มีใครอยู่บ้านไม่ได้ เพราะทุกคนก็มีสภาวะแบบนี้
เมื่อถามว่า หมายความว่ายังไง หมอบอกว่า หมายความว่า เราจะ discharge คุณ เพราะคุณอยู่ครบแล้ว และแพทย์ลงความเห็นว่า คุณกลับได้ คือ พรุ่งนี้ ให้เวลาเตรียมตัว ทางณวัฒน์บอกว่า ขอให้ทำหนังสือแจ้งเป็นเอกสาร หมอก็ตกลง และย้ำว่า ขอให้เปิดกล้องด้วย
ต่อมา หลายคนก็ได้มีการพุ่งเป้าไปที่ นพ.วิชัย ทวีปวรเดช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลปิยะเวท และทำให้ทัวร์สามกีบไปถล่มเฟซบุ๊กของคุณหมอวิชัยเป็นจำนวนมาก
สำหรับ นพ.วิชัย ทวีปวรเดช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลปิยะเวท อดีตเป็นนายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย และเคยลงสมัคร ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดเชียงราย และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 เมษายน ก็ได้ตอบรับสนับสนุนโครงการ “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” ของนายณวัฒน์ ที่ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่มีเตียงรักษา จนล่าสุดก็มาเป็นประเด็นกับนายณวัฒน์
อ่านต่อได้ที่ลิงก์ : https://truthforyou.co/58227/?anm=
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ก็ได้โพสต์ กรณีงานเข้าชุด “4 ส.ส.ก้าวไกล” โดนร้องสอบจริยธรรม ใช้ตำแหน่งประกันผู้ต้องหา 112 ซ้ำเข้าร่วมม็อบ”
โดยระบุว่า สืบเนื่องจากที่ปรากฏภาพของ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โผล่สังเกตการณ์ในม็อบ 18 ก.ค. และยังใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112 หลายครั้ง รวมทั้งยังมี ส.ส.ในพรรคเดียวกันอีกหลายคน ที่กระทำในลักษณะนี้
ล่าสุด เครือข่ายพสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ นำโดย นายอัครวุธ บุรณพนธ์ หรือ เต้ เครือข่ายกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานของประธานสภาฯ
โดย นายอัครวุธ กล่าวว่า ขอให้ตรวจสอบนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หลังจากเข้าร่วมการชุมนุม และไลฟ์สดในพื้นที่ชุมนุม ซึ่งเข้าข่ายการฝ่าฝืนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ การกระทำของนายรังสิมันต์ ยังพบว่า มีการไลฟ์สดให้ประชาชนตำหนิสถาบันเบื้องสูง นอกจากนี้ ยังพบการกระทำของ นายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล และ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล ที่ใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัวแกนนำม็อบคณะราษฎร ที่เข้าข่ายการกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมถึงกรณีของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ที่เข้าร่วมการชุมนุมคาร์ม็อบ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม
“ผมขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ส.ส. ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม เข้าข่าย ซ่องสุม มั่วสุม จัดม็อบเย้ยกฎหมาย ท้าทาย ผบ.ตร. ขอให้ตรวจสอบจริยธรรม”
ขณะที่ นายแทนคุณ กล่าวว่า จะนำหนังสือเพื่อนำเรียนนายชวนต่อไป ทั้งนี้ คณะทำงานได้ติดตามการชุมนุม มองว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันควรระมัดระวังแพร่ระบาดโควิด-19 และสิ่งสำคัญคือ ต้องมีส่วนปกป้องสถาบัน ทั้งนี้ ปรากฏว่า การชุมนุมที่ผ่านมา มีการจาบจ้วง ละเมิดสถาบันจำนวนมาก ซึ่งฝ่ายคณะทำงานติดตามใกล้ชิดและไม่สบายใจ ดังนั้น จะได้รวบรวมหลักฐานที่ยื่นและประจักษ์พยานจากโซเชียลช่องทางอื่นๆ เพื่อดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ ในเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ. ยังโพสต์ข้อความ ระบุด้วยว่า #พสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัติย์ ยื่นหนังสือถึงท่านประธานชวน หลีกภัย ผ่านทางคุณอี้ แทนคุณ เพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่เข้าร่วมในม็อบ 18 กรกฎาคม ตามกระบวนการเพื่อลงโทษ หากพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดจริง
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์กรณี หมอวรงค์ ตอกกลับ ธนาธร มั่วแทงม้าตัวเดียว โจมตีสยามไบโอฯ กระทบชิ่งสถาบัน ยังมาจี้ รบ.ขอโทษ”
เนื้อหาระบุว่า “จากที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออกมาพูดรอฟังคำขอโทษจากรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เคยเตือนไม่ควรฝากระบบสาธารณสุขของประเทศไว้กับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพียงยี่ห้อเดียว หรือ “แทงม้าตัวเดียว” แต่กลับดำเนินคดีกับตนนั้น
ล่าสุด วันนี้ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปถึงกรณีนายธนาธร ว่า
“ความจำธนาธร
นายธนาธร ออกมาอีกแล้ว เบี่ยงประเด็นไปเรื่อย รอบนี้มาเรียกร้องรัฐบาลเรื่อง ยอมรับผิดเรื่อง COVAX หลังจากที่ผ่านไปแล้ว 9 เดือนแล้ว เมื่อไรจะยอมรับผิดพลาดเรื่องแทงม้าตัวเดียว
คุณจำไม่ได้เหรอครับ วันที่คุณพูดเรื่องแทงม้าตัวเดียว ประเด็นของคุณ คือ คุณกล่าวหาว่า รัฐบาล ซื้อวัคซีนตัวเดียว ที่สำคัญคือ พยายามกล่าวหาว่า ซื้อวัคซีนจากโรงงานสยามไบโอไซเอนซ์ ที่มีพระมหากษัตริย์ถือหุ้น ประเด็นอยู่ตรงนี้
ซ้ำร้ายคุณยังไปให้สัมภาษณ์ Aljazera ด้วยว่า เป็นการเอื้อให้บริษัทใดบริษัทหนึ่ง และบริษัทนี้พระมหากษัตริย์ถือหุ้น และพระมหากษัตริย์ ได้รับการคุ้มกันทางกฎหมาย แต่ในทางธุรกิจที่มีสัญญากับทางรัฐบาล และถ้ามีอะไรผิดพลาด รัฐบาลไม่สามารถฟ้องร้องได้
แถมช่วงนั้น ยังมีม็อบไปโจมตี ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ บริษัทผูกขาดวัคซีน แล้วหาซีนให้สถาบันพระมหากษัตริย์
ประเด็นสำคัญที่คุณไลฟ์ เรื่องแทงม้าตัวเดียว ช่วงนั้นคือ การตำหนิว่า รัฐบาลซื้อวัคซีนตัวเดียวจากสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมีพระมหากษัตริย์ถือหุ้น
วันนี้ความจริงก็พิสูจน์ว่า วันนั้นคุณพูดไม่ถูก รัฐบาลเขาซื้อจาก Astra Zeneca และบริษัท Astra Zeneca เขาจ้างให้สยามไบโอไซเอนซ์ผลิต โดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยไม่แสวงหากำไร
หัวใจที่คุณไม่พูดเลย คือ วันนี้สยามไบโอไซเอนซ์ สามารถผลิตวัคซีนระดับมาตรฐานโลก ที่ทั้งคนไทยและทุกชาติต้องการ ส่วนเรื่องม้าตัวเดียวคุณก็มั่ว เพราะวันนี้ประเทศไทยมีวัคซีนใช้หลายตัวมาก ไม่ใช่ตัวเดียว และมีบางกลุ่มไม่ใช่เหรอ ที่พยายามด้อยค่าวัคซีนบางตัว ที่วันนี้เขาก็เข้าเป็นวัคซีนของ COVAX ด้วย
ส่วนเรื่องการเข้าร่วม COVAX นั้น ไม่มีใครทราบล่วงหน้าหรอกครับว่า จะมีเชื้อกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เดลตา เพราะระลอกหนึ่งและสอง เราต้องยอมรับว่า วันนั้น เราสามารถจัดการได้ดี ที่สำคัญ การเข้าร่วม COVAX ถ้าทาง COVAX ส่งวัคซีน sinovac มาให้ไทยเรา คุณจะว่าอย่างไร จะด่าใคร ระหว่างรัฐบาลกับ COVAX”
แน่นอน, ประเด็นสำคัญ คือ การสร้างปัญหาแทรกซ้อนการป้องกันและรักษาโรคระบาด โควิด-19 โดยไม่จำเป็น
ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่า โรคนี้เป็นโรค “อุบัติใหม่” หรือ เกิดขึ้นใหม่ ผู้เชี่ยวชาญในโลกต่างก็ศึกษาวิจัยและปรับวิธีรับมือไปตามผลศึกษาวิจัยไม่มีที่สิ้นสุด ผู้เชี่ยวชาญและประชาคมโลก จำเป็นต้องรับผิดชอบร่วมกันในการดูแลตัวเอง ป้องกัน และรักษา ทุกคนก็น่าจะรู้ว่า ไม่อาจโทษใครคนใดคนหนึ่ง แม้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามลำดับ ก็อาจผิดพลาดได้
แต่ในประเทศไทย นอกจากจะไม่เห็นความร่วมมือ ร่วมใจ เพื่อรวมพลัง รับมือกับโรคระบาดแล้ว ยังพบว่า มีการเอาเรื่องอื่นมาซ้ำเติม นั่นคือ การต่อสู้ทางการเมือง การจัดม็อบล้มรัฐบาล ล้มสถาบันฯ ช่วงชิงอำนาจรัฐ โดยไม่มีกาลเทศะ
การทะเลาะขัดแย้งแตกแยก บูลลี่ หรือ ล่าแม่มดกันในสังคม โดยการชี้นำของแกนนำม็อบ กลุ่มนักการเมือง กลุ่มคนที่เลือกข้างทางการเมือง จนนอกจากสร้างความสับสนให้เกิดขึ้น จนประชาชนไม่รู้จะเชื่อใคร แถมเชื่อไปแล้ว ก็เป็นผลร้ายถึงเสียชีวิต โดยเฉพาะเรื่องกลัวที่จะฉีดวัคซีน จนสายเกินไป ที่ร้ายไปกว่านั้น ก่อให้เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีเต็มศาลไปหมด จนสร้างภาระให้ทั้งตำรวจ อัยการ และศาลอย่างหนัก ทั้งที่หลายเรื่องไร้สาระสิ้นดี
ที่สำคัญ ยังมีคนบางจำพวก ที่ “เห็นแก่ตัว” อย่างร้ายกาจ จำนวนมาก ส่วนใครเป็นใคร ตามสื่อก็ทำให้เห็นชัดอยู่แล้ว ทั้งคนดัง และนักการเมือง
ทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนเป็นการทำลายบรรยากาศการดูแล ป้องกัน รักษาโรคระบาด โควิด-19 ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะทางตรง หรือ ทางอ้อม
ที่น่าเศร้าไปกว่านั้น คือ มันเกิดขึ้นในท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 กลายพันธุ์ จนเอาไม่อยู่แล้ว ถึงกระนั้น “ความตาย” ของผู้คน ก็ยังถูกนำมาเป็นเครื่องมือโจมตีกันอีก อย่างนี้เอาเทวดามาปกครองประเทศไทย ก็คงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้
ส่วนไอ้ที่อวดเก่งอยู่นี้ ก็แค่หิวแสง หิวอำนาจ และอยู่เบื้องหลังปัญหาทั้งปวงด้วยซ้ำ หรือว่าไม่จริง!!!