“รสนา” โพสต์เล่าการจากไปของ “ณรงค์ โชควัฒนา” กับคำถามเรื่องฟ้าทะลายโจร

“รสนา” โพสต์เล่าการจากไปของ “ณรงค์ โชควัฒนา” เผยเป็นผู้ให้ความสำคัญต่อสมุนไพรไทย ส่งเสริมให้พนักงานในบริษัทปลูกฟ้าทะลายโจร ทำการเกษตรเป็นอาชีพเสริม ทดลองทำน้ำกระชายสกัดเย็นและสเปรย์สารสกัดฟ้าทะลายโจรสำหรับพ่นคอ ระบุเป็นการสูญเสียแม่ทัพคนสำคัญที่มุ่งมั่นพัฒนายาสมุนไพรไทยเพื่อสู้กับโควิด

วันนี้ (18 ก.ค.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก หัวข้อ การจากไปของคุณณรงค์ โชควัฒนา กับคำถามเรื่องฟ้าทะลายโจร มีรายละเอียดระบุว่า

ดิฉันได้มีโอกาสพบคุณณรงค์หลายครั้งในปีนี้ โดยได้รับเชิญไปบรรยายเรื่องฟ้าทะลายโจรให้พนักงานระดับหัวหน้าฝ่ายในบริษัทคุณณรงค์ตั้งแต่ 8 ก.พ. 2564 และได้รับเชิญไปบรรยายให้สมาชิกคลังสมอง วปอ. ร่วมกับ คุณปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ เมื่อ 7 เมษายน 2564 และยังมีโอกาสไปพบปะพูดคุยเฉพาะกับฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ และหมอแผนไทยเพื่อนคุณณรงค์อีก 2-3 ครั้ง คุณณรงค์ให้ความสนใจในการส่งเสริมให้พนักงานในบริษัทปลูกฟ้าทะลายโจร ทำเกษตร เป็นอาชีพเสริม ท่านได้ขอเมล็ดฟ้าทะลายโจรจากดิฉันไป 2 ครั้ง ปริมาณที่ให้ไปน่าจะปลูกได้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ไร่

คุณณรงค์ได้พัฒนาปุ๋ยน้ำสกัดจากกรดอะมิโนของน้ำยางพารา ท่านบอกว่าเป็นปุ๋ยน้ำที่ช่วยให้พืชเติบโตเร็ว และอยากทดลองกับฟ้าทะลายโจร ยังได้ฝากคุณปานเทพนำปุ๋ยน้ำไปมอบให้คุณพิภพ ธงไชย ที่หมู่บ้านเด็ก และคุณลุงจำลองที่กาญจนบุรี เพื่อทดลองใช้กับการปลูกฟ้าทะลายโจรเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง

ในการพบปะกันหลายครั้ง คุณณรงค์ได้เล่าให้ฟังว่าท่านเคยป่วยเป็นมาเลเรีย แม้หายแล้ว บางครั้งก็ยังมีอาการหนาวสั่นข้างใน ท่านเลยแพ้ฟ้าทะลายโจรเพราะเป็นยาเย็นจัด ท่านเคยลองกินเมื่อนานมาแล้วก็มีอาการหนาวสะท้านข้างใน จึงไม่สามารถกินฟ้าทะลายโจรได้เพราะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าว
ครั้งสุดท้ายที่พบคุณณรงค์ได้เอาเมล็ดฟ้าทะลายโจรไปมอบให้เป็นครั้งที่ 2 พร้อมกับหนังสือฟ้าทะลายโจรที่พิมพ์แจก ท่านได้เอาน้ำกระชายสกัดเย็น และสเปรย์สารสกัดฟ้าทะลายโจรสำหรับพ่นคอให้ดู และบอกว่าท่านทำขึ้นมาให้พนักงานทดลองใช้กัน


วันนั้นท่านพูดเรื่องฟ้าทะลายโจรว่า ถ้าไม่ป่วยก็ไม่ต้องกิน คุณปานเทพได้เสนอว่า ถึงยังไม่มีอาการ แต่ถ้ามีความเสี่ยงก็ควรกิน และให้ความเห็นว่ากระชายสกัดเย็นที่ท่านนำมาให้ทดลองกินนั้นเป็นเครื่องดื่มได้ แต่ฤทธิ์ในการรักษาคงยังไม่ได้เพราะสารสำคัญยังมีน้อยเกินไป

พวกเราไม่ทราบเรื่องการป่วยไข้ของคุณณรงค์เลย มาทราบว่าท่านเสียจากโควิดก็เช้าวันที่ 17 ก.ค.แล้ว คุณปานเทพได้โทร.สอบถามจากเลขาฯ คนหนึ่งของคุณณรงค์ ก็ทราบเพียงว่าคุณณรงค์ไม่สบายและใช้ยาลดไข้แผนปัจจุบันเท่านั้น ส่วนจะมีการใช้สมุนไพรตัวใดร่วมแก้ไข้ด้วยหรือไม่นั้นยังไม่ได้รับข้อมูลจากปากคำของผู้ใกล้ชิดโดยตรง ท่านเข้า รพ.รักษาอาการประมาณวันเสาร์ที่ 10 ก.ค. และเสียชีวิตในวันที่ 16 ก.ค.

เราสูญเสียแม่ทัพคนสำคัญอีกคน ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาเรื่องยาสมุนไพรเพื่อสู้กับโควิดสำหรับประชาชนไทย