สามกีบฮือฮา “หลวงปู่แม้ว” ล้อเลียน “พระเครื่องดัง” โผล่ขายกลางแอป โหนกระแส “ทักษิณ” อยากกลับไทย แกะรอยแปลงร่าง? ไม่ถึงเดือนเพจแนวร่วม “3 นิ้ว” ผุด 2 เพจ ปั่นหัว-ปลุกระดมบุก สธ. สุดน่ากลัว มีผู้ติดตาม 13 คน
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (7 ก.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น “นรกถามหา เตรียมรอรับเลย!? สามกีบฮือฮา “รูปปั้นหลวงปู่แม้ว” ล้อเลียนศาสนา โผล่ขายกลางแอปดัง โหนกระแส “ทักษิณ” อยากกลับไทย!!”
เนื้อหาระบุว่า “กลายเป็นเรื่องฮือฮาบนโลกโซเชียลอีกครั้ง หลังจากที่มีบัญชีร้านขายของในแอปพลิเคชันชื่อดัง เป็นรูปปั้น ที่มีใบหน้าคล้ายอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
โดยตั้งชื่อสินค้าว่า รูปปั้น พระพุทธรูปหลวงปู่ แม้ว ทักษิณ tony woodsome วัตถุมงคล บูชาอดีตนายก สีทองคำ 10 cm.
โดยทางร้านที่จัดจำหน่าย เป็นสินค้าที่อยู่ในหมวดหมู่งาน Hand made-Home made ผลิตเอง และระบุว่า มีสินค้าในคลังอยู่ที่ 86 ชิ้น จำหน่ายที่ราคา 129 บาท ทั้งนี้ เมื่อทางสำนักข่าวเดอะทรูธ ได้ติดต่อสอบถามไปยังแชทการขายของทางร้าน ว่า “หลวงปู่แม้ว” บูชาแล้วช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ทราบว่า ช่วยเรื่องเศรษฐกิจ ค้าขายดีขึ้น จริงๆ ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ ผมทำสินค้าเป็นผลงานศิลปะเท่านั้นเอง ทั้งนี้ รูปปั้นชิ้นดังกล่าว ทำจากวัสดุ เรซิ่น ขนาด สูง 10 cm. / กว้าง 6 cm. / ลึก 7 cm. กำลังเป็นที่ฮือฮา เพราะมีใบหน้าคล้ายกับนายทักษิณ ชินวัตร
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ เริ่มเข้มข้นเรื่อยๆ เมื่อเจ้าตัวประกาศว่า จะกลับมาไทยอย่างแน่นอน แต่จะกลับเมื่อไหร่นั้นยังไม่ขอตอบ พร้อมทั้งออกมาฟาดฟันการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องด้วย จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ให้นายทักษิณกลับบ้านมาให้ได้ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน รวมทั้งในกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว ก็เริ่มมีกระแสเรียกร้องว่า ให้ทักษิณกลับมาประเทศไทย เพื่อจัดการปัญหาโควิด แต่ทั้งนี้ ไม่มีใครรู้ได้ว่า ทักษิณจะกลับเข้าไทยด้วยวิธีใด เนื่องจากยังมีคดีติดพันหลายอย่าง และในตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีข่าวทำนองนี้นับครั้งไม่ถ้วน จนกลุ่มคนรุ่นใหม่หันไปเชียร์ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และก๊วนก้าวหน้า-ก้าวไกล
อย่างไรก็ตาม ทักษิณ ได้วิจารณ์ไว้ว่า จุดอ่อนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ เป็นตัวแทน “พรรคข้าราชการ” หรือรัฐราชการรวมศูนย์ ซึ่งการตั้ง ศบค.แก้วิกฤตโควิด ก็มาจากหลักคิดของอดีตนายทหารใหญ่
“การรวมศูนย์แบบนี้เป็นการบริหารงานแบบโบราณ บริหารสมัยนี้ไม่รวมศูนย์ อยู่ไหนก็ประชุมได้หาข้อยุติได้ ต้องวางแผนให้ชัดเจน ดักปัญหาล่วงหน้า ไม่ใช่วิ่งตามปัญหา วันนี้นายกฯ คิดยังไงก็ไม่มีใครกล้าแย้ง ล้อมด้วยหมอรักษาโรค ทั้งที่จริงต้องมีหมอระบาดวิทยา” นี่คือข้อวิจารณ์จากโทนี่
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH ยังมีประเด็นที่น่าสนใจ กล่าวคือ “แกะรอยสามกีบแปลงร่าง?? ไม่ถึงเดือนเพจแนวร่วมผุด 2 เพจติดๆ ปั่นหัว-ปลุกระดมบุก สธ.! สุดน่ากลัวมีผู้ติดตามถึง 13 คน!”
เนื้อหาระบุว่า จากกรณี กลุ่มหมอไม่ทน ออกแถลงการณ์ เรื่อง ร่วมแสดงพลัง ติดโบดำ สวมเสื้อดำทั้งประเทศในวันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2564 โดยอ้างว่า เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ผู้ที่ติดเชื้อ COVID19 และผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด และยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ. ศบค.
อย่างไรก็ตาม มีคนตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มหมอไม่ทน มีตัวตนหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ กลุ่มหมอไม่ทน ก็ได้มีการจัดกิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นการโจมตีการทำงานของรัฐบาลและเป็นแนวร่วมของสามกีบหรือไม่?
ล่าสุด ทางทีมข่าวเดอะทรูธ ได้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับแคมเปญดังกล่าว ก็มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มหมอไม่ทน บนทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นทวิตเตอร์ที่สร้างขึ้นเมื่อพฤศจิกายน 2563 มีผู้ติดตาม 2,258 คน มีการตั้งปกบนทวิตเตอร์ว่า “ยิ่งอยู่ ยิ่งพัง ลาออกเถอะ”
โดยหากย้อนไปจะเห็นว่า การเคลื่อนไหวไปในแนวทางเดียวกับกลุ่มคณะราษฎร จากการตรวจสอบพบว่า มีการเคลื่อนไหว เช่น แคมเปญไม่เข้าเซเว่น, แบนช่อง 7 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวกับกรณีของนักแสดงสาว ที่ถูกยกเลิกสัญญา
ในวันเดียวกันนี้ ทีมข่าวเดอะทรูธได้ตรวจสอบพบว่า มีเพจ เด็กปากแจ๋ว ซึ่งเป็นเพจที่มีการเคลื่อนไหวไปในแนวทางเดียวกันกับกลุ่มคณะราษฎร ซึ่งเพจดังกล่าวเพิ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 มีผู้ติดตามเพียง 13 คน และก็มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับแคมเปญร่วมสวมเสื้อ-ติดโบดำ เป็นแคมเปญแรก
นอกจากนี้ เพจ เด็กปากแจ๋ว ก็มีการเคลื่อนไหวควบคู่ไปกับ เพจ ไพร่พล - The Civilian Thailand ซึ่งเป็นเพจที่สร้างขึ้นมาเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 มีผู้ติดตาม 342 คน โดยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการโพสต์ข้อความเป็นครั้งแรกว่า ไพร่พลคือใคร ?
ไพร่พลเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ ความเท่าเทียม และการให้คุณค่าความแตกต่างหลากหลายของปัจเจกบุคคล รวมไปถึงต่อสู้กับความอยุติธรรม การแบ่งแยก และอำนาจนิยมที่เกิดขึ้น เราจะต่อสู้ความมืดมิดด้วยแสงสว่าง เราจะต่อสู้เพื่อเพื่อนมนุษย์ทุกคนด้วยความแน่วแน่ในอุดมการณ์ที่ยึดมั่น และให้สัญญาว่าเราจะขับเคลื่อนสังคมไปพร้อมกับการวางรากฐานใหม่ให้สังคม เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน โปรดติดตามการเคลื่อนไหวของพวกเราต่อจากนี้ สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของเราได้เร็วๆ นี้
โดยก่อนหน้านี้ ทั้งเพจเด็กปากแจ๋ว และ เพจไพร่พล - The Civilian Thailand ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร จนกระทั่งล่าสุด ก็มีการโพสต์ข้อความช่วยรณรงค์แคมเปญของกลุ่มหมอไม่ทน
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทวิตเตอร์ของหมอไม่ทน เพจเด็กปากแจ๋ว และ เพจไพร่พล - The Civilian Thailand ทั้ง 3 ช่องทางนี้ มีการเคลื่อนไหวไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งคาดว่า ทั้ง 3 เพจนี้ เป็นแนวร่วมของกลุ่มคณะราษฎรหรือไม่? และเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวในรูปแบบใหม่ของกลุ่มคณะราษฎรหรือไม่?
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ กรณีเคลื่อนไหวของกลุ่ม 3 นิ้ว ที่อาจอ้าง “หมอไม่ทน” เพื่อที่จะทำให้ภาพออกมาในลักษณะแม้แต่หมอก็ยังทนไม่ได้กับการบริหารจัดการ แก้ปัญหาโควิด ของรัฐบาล แม้ว่าจะดูเหมือนมุกตื้นๆ แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดอะไรได้อย่างลึกซึ้งจนจับไม่ได้มาก่อน?
แม้ว่า แท้จริงแล้ว ก็อาจมี “หมอ” บางกลุ่มเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เป็นแนวร่วมสามกีบอยู่ด้วยก็ตาม
ที่สำคัญ ประเทศไทยเวลานี้ ถูกแบ่งแยก และแบ่งฝ่ายออกเป็นสองขั้วอย่างชัดเจน ไม่ว่าวงการไหน วิชาชีพอะไร โดยไม่เพียงแค่คนเห็นต่าง แต่มันใกล้เคียงกับคำว่าศัตรูคู่อาฆาตไปแล้ว เห็นจากกรณีที่ไล่ฆ่ากันในม็อบหรือไม่
และไม่มีทางที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันได้อีกแล้ว แม้แต่ในสถานการณ์โรคระบาดที่คนไทยจำเป็นจะต้องร่วมแรงร่วมใจแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังเล่นเกมการเมืองเป็นว่าเล่น
เหนืออื่นใด กลายเป็นว่า คนไทยบางส่วนนั่นเอง ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ทำให้เรื่องที่มันยากอยู่แล้ว อย่างการแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด-19 และอาจรวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจ มันยากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าทวีคูณ โดยที่คนไทยส่วนใหญ่ผู้บริสุทธิ์ต้องเป็นแพะรับบาป พวกที่ถือว่าตัวเองรวยหมื่นล้านอยู่แล้ว สู้ไปทั้งชาติก็ไม่มีทางลำบากยากจน และมีเงินจ้างพวกรับใช้ทั้งหลายได้ไม่มีวันหมด นี่คือ สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับคนไทย
ส่วน “หลวงปู่แม้ว” ก็เช่นกัน เชื่อว่าจะมีทั้งคนชอบ และคนยี้ แถมอาจมองเป็นเรื่องลบหลู่ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนับถือ กราบไหว้บูชาไปเลยก็ไม่แน่เหมือนกัน?