เตือนแล้ว! แชร์ว่อน ผู้ชุมนุม “3 นิ้ว” ติดโควิด 24 มิ.ย. “อัษฎางค์” ถามรู้ตัวกันบ้างมั้ยว่าเป็นม็อบทำลายชาติ “หมอวรงค์” #save หมอยง เย้ยปลด ผอ.WHO ให้ได้ก่อน “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” แฉนิสิตเก่า “แพทย์จุฬาฯ” อยู่เบื้องหลัง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (29 มิ.ย. 64) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“จะรู้ตัวกันบ้างมั้ยว่าตัวเองเป็น “ม็อบทำลายชาติ”
ทั้งนี้ นายอัษฎางค์ นำภาพแชตไลน์ที่มีการแชร์กันอย่างกว้างขวางในโซเชียล เป็นการสนทนากันของคนที่ไปร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ได้บอกกับเพื่อนว่า หลังการชุมนุมรู้สึกไม่สบาย พบว่า ตัวเองติดโควิด-19 พร้อมแนะนำให้เพื่อนไปตรวจและบอกเพื่อนคนอื่นๆ ด้วย และยังแสดงความกังวล เพราะที่บ้านมีคนแก่คือแม่กับยาย
ขณะที่อีกรายโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า สรุปผลตรวจโควิดเป็นบวกนะคะ ขอโทษเพื่อนๆ ที่ร่วมชุมนุม 24 มิ.ย. 64 ที่สกายวอล์กด้วยนะคะ #เราต้องรอด.” (จากไทยโพสต์)
ขณะเดียวกัน กรณีโลกออนไลน์วานนี้ (28 มิ.ย.) ในทวิตเตอร์พากันติด #“ChulalongkornUniversity” เพื่อล่าชื่อถอดตำแหน่งของ “หมอยง” นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งพบว่า ผู้ใช้นามแฝงแพทย์คนหนึ่งในประเทศไทย สร้างแคมเปญผ่าน Change.org ร้องเรียนจุฬาฯ ปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก โดยระบุว่า “เมื่อกล่าวถึง นพ.ยง ภู่วรวรรณ ที่เป็นตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ให้กับรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมีความเห็นในด้านวัคซีนที่ผิดเพี้ยนไปจากบทความทางวิชาการ และหลายต่อหลายครั้งที่สนับสนุนวัคซีนที่ด้อยประสิทธิภาพอย่าง Sinovac โดยไม่มีหลักฐานทางวิชาการมารองรับ
ในฐานะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันหลักของประเทศชาติในการดำรงไว้ซึ่งหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง จึงขอเรียกร้องให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการกับแพทย์ที่ไม่ทำตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แพทย์ไม่ทำตามผลการศึกษาที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ แพทย์ที่ขายจรรยาบรรณของตนเอง เพื่อรับใช้ทางการเมือง เพื่อให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่คงไว้ซึ่งความตรงไปตรงมาตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ต่อไป”
เรื่องนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“#saveหมอยง
ผมเห็นข่าวพวกชังชาติ ออกแคมเปญล่ารายชื่อเรียกร้องให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปลด นพ.ยง ภู่วรวรรณ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์
เนื่องจาก นพ.ยง ในฐานะที่ปรึกษาสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมีความเห็นในด้านวัคซีนที่ผิดเพี้ยนไปจากบทความทางวิชาการ และหลายต่อหลายครั้งที่สนับสนุนวัคซีนที่ด้อยประสิทธิภาพอย่าง Sinovac โดยไม่มีหลักฐานทางวิชาการมารองรับ
ผมเห็นข้อความนี้แล้ว เหนื่อยใจกับผู้คิดร้ายต่อแผ่นดิน คนระดับอาจารย์หมอยงหรือ ที่พวกคุณคิดว่าไม่มีหลักฐานทางวิชาการยอมรับ แล้วพวกคุณมีวิชาการอะไรบ้าง นอกจากวิชาการด่าอย่างเดียว
โดยเฉพาะวัคซีนซิโนแวค พวกคุณน่าจะเห็นข่าวที่สิงคโปร์นะ ที่ประชาชนเขาไปจองคิวฉีดซิโนแวคกันล้นหลาม เพราะรัฐบาลสิงคโปร์เขาให้เป็นวัคซีนทางเลือก แม้ประชาชนต้องจ่ายเงินก่อน เขายังจองคิวกันยาว
พวกคุณคงไม่รู้หรอกว่า เรื่องทางการแพทย์นั้น ไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาเอาเกณฑ์มาตรฐานที่ผ่านการรับรอง การที่องค์การอนามัยโลกเขารับรอง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนตัวไหน ทางการแพทย์เขาก็ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐาน
เอาไว้ให้พวกคุณไปเสนอปลดผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกก่อนนะ ค่อยมาเสนอปลดอาจารย์หมอยง ส่วนอาจารย์หมอยงครับ ผมเชื่อว่า คนไทยทั้งประเทศรับรู้ความทุ่มเท ที่อาจารย์ต้องการให้คำแนะนำและความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเรื่องโควิด คนไทยให้กำลังใจอาจารย์ครับ”
ด้าน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า
“ตามที่มีบุคคลเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนให้ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปลดนายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ด้วยการกล่าวอ้างว่า นายแพทย์ยง ในฐานะที่ปรึกษาสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ให้กับรัฐบาล ขาดจรรยาบรรณรับใช้การเมืองนั้น
ผมไม่รู้คุณคือใคร กล้าที่จะเรียกร้องให้ปลดคนที่ทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวม แต่ไม่กล้าเปิดเผยชื่อ การเรียกร้องผ่านสื่อเช่นนี้ ต้องมีตัวตน อย่าทำตัวลึกลับ หลบอยู่ในเงามืด
สถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด เป็นสถานการณ์รุนแรงและอันตราย ต้องการบุคคลที่มีความรู้จริง ไม่ใช่การลองผิดลองถูก ต้องไม่เอาชีวิตเพื่อนมนุษย์มาทดลองวิชา
ได้ทราบว่า มีนิสิตเก่าคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ กำลังร่วมลงชื่อเพื่อสนับสนุนและให้การรับรองความดีของนายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ
ผมในฐานะนิสิตเก่าจุฬาฯคนหนึ่ง แม้จะไม่ได้เรียนคณะเดียวกับท่าน แต่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนิสิตปี 2512 ขอให้กำลังใจนายแพทย์ยง ขอให้ท่านยืนหยัด อดทน และทำงานเพื่อประเทศชาติ และเพื่อสุขภาพของคนไทยต่อไป”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ เริ่มจากแชตไลน์ที่มีการแชร์กันอย่างกว้างขวางในโซเชียล ในทำนองสาวก 3 นิ้ว ได้แจ้งให้เพื่อนทราบและขอโทษ หลังพบว่า ตัวเองติดโควิด-19 จากการร่วมชุมนุมกับม็อบคณะราษฎร เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ความจริงเรื่องนี้มีคำเตือนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหลายฝ่ายมาตลอด ว่า ไม่อยากให้ออกไปชุมนุม เพราะมีความเสี่ยงติดโควิด และกลายเป็น “คลัสเตอร์ใหม่” ขึ้นมา แต่กลุ่มม็อบ 3 นิ้ว ก็ยังคงท้าทาย ไม่กลัว ไม่สนใจคำเตือน ยิ่งกว่านั้น ม็อบจตุพร และม็อบทนายนกเขา ก็ยังประกาศชุมนุมต่อเนื่อง เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งก็อาจส่งผลให้ติดโควิดเช่นเดียวกัน และกลายเป็น “คลัสเตอร์ใหม่” แพร่เชื้อต่อให้กับสังคม จนอาจเสียหายระดับประเทศได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และตั้งข้อหาหนักอย่างที่มีคนเรียกร้อง ก็น่าจะเป็นทางออกอย่างหนึ่ง
ส่วนประเด็นล่าชื่อ “ปลดหมอยง” นั้น เรื่องใหญ่ อาจมิใช่เกี่ยวกับเรื่องโควิด เท่านั้น หากแต่อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง และว่าที่แกนนำม็อบ 3 นิ้ว เคยออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ชี้เป้าให้สามกีบ ล่าแม่มด “หมอยง” โดยเอาภาพ “หมอยง” ถ่ายคู่กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยร่วมเคลื่อนไหวกับ กปปส. มาลงประกอบด้วย
ดังนั้น ข้ออ้างดังกล่าวข้างต้น จึงอาจเป็นแค่การเบี่ยงเบน ไม่ให้ถูกมองว่า เป็น “ฝ่ายแค้น” ที่ออกมาเคลื่อนไหว ล่าชื่อ “ปลดหมอยง” ทั้งที่ความจริงก็คือ ฝ่ายแค้นที่อยู่ตรงข้าม กปปส. และ พล.อ.ประยุทธ์ เล่นเกมการเมืองนั่นเอง และไม่ได้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของ “หมอยง” แต่อย่างใด
อย่างนี้ ก็เท่ากับว่า ไม่ให้ความเป็นธรรมกับ “หมอยง” ที่ทุ่มเททั้งชีวิตช่วยเหลือคนไทยอยู่ในเวลานี้เช่นกัน และถ้าจะเรียกว่า เป็นการใช้วิธีสกปรกกับ “หมอยง” ก็ไม่น่าจะเกินจริงแต่อย่างใด หรือว่าไม่จริง