ข่าวปนคน คนปนข่าว
**“จุรินทร์” ลุยฟ้อง “อัจฉริยะ” หมิ่นปมหน้ากากอนามัย แต่สังคมยังคาใจมาสก์หายหลักร้อยล้านชิ้น เมื่อต้นปีก่อน “ลุงตู่” มอบ “บิ๊กปั๊ด” ไปตรวจสอบ คืบหน้าถึงไหนแล้ว?
มาถึงขั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สำหรับคดีที่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ในข้อหาหมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีไลฟ์สดกล่าวหาพัวพันการกักตุนหน้ากากอนามัยเพื่อส่งออก ในช่วงโควิด-19 ระบาดระลอกแรก เมื่อต้นปี 63 โดยเมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) ทั้งสองฝ่ายเดินทางไปศาล และมีนัดไต่สวนอีกครั้งวันที่ 18 ต.ค. 64 ฝ่ายโจทก์ได้ย้ำหนักแน่นว่าจะไม่ยอมความโดยเด็ดขาด ต้องมาพิสูจน์กันว่าสิ่งที่มีการกล่าวหานั้นจริงเท็จอย่างไร
ที่มาที่ไปของคดีนี้ ก็ต้องย้อนไปตั้งแต่ช่วงที่เชื้อโควิด เริ่มระบาดเข้าในประเทศไทยเมื่อราวเดือน ม.ค. 63 ทำให้หน้ากากอนามัยที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการป้องกันการแพร่เชื้อเริ่มขาดแคลน และมีการกักตุนไว้ขายในราคาแพง จนกระทั่งวันที่ 30 ม.ค. 63 “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เจ้ากระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย “วิชัย โภชนกิจ” อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตหน้ากากอนามันแห่งหนึ่ง พร้อมกับแถลงว่า ประเทศไทยมีสต๊อกหน้ากากอนามัยอยู่ 200 ล้านชิ้น จาก11 โรงงาน และมีกำลังการผลิต 100 ล้านชิ้นต่อเดือน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก มีหน้ากาก อนามัยเพียงพออย่างแน่นอน
ซึ่งมันสวนทางกับโลกของความเป็นจริงในเวลานั้นที่หน้ากากอนามัยมีราคาแพงและหาซื้อได้ยาก จนเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 63 กระทรวงพาณิชย์ ต้องออกประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม กำหนดให้ขายในราคาชิ้นละไม่เกิน 2.50 บาท แต่ก็เอาไม่อยู่ ราคาหน้ากากอนามัยที่ประชาชนพอจะหาซื้อได้ในเวลานั้นพุ่งขึ้นไปถึงชิ้นละ 25 บาท
จึงมีคำถามจากคนทั้งประเทศ ว่า แล้วที่บอกว่ามีอยู่ในสต๊อก 200 ล้านชิ้นนั้น หายไปไหนหมด มีใครกักตุนไว้ทำกำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง หรือลักลอบส่งออกไปขายนอกประเทศหรือไม่ แม้ในภายหลัง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ได้ออกมาชี้แจงแก้ไขใหม่ ว่าที่บอกว่ามีในสต๊อก 200 ล้านชิ้นนั้น หมายถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิต ไม่ใช่หน้ากากอนามัยที่ผลิตออกมาสำเร็จแล้ว แต่คำชี้แจงนี้ก็ยังไม่อาจคลายข้อสงสัยของสังคมลงไปได้
ประกอบในช่วงเวลานั้น มีนายหน้าค้าหน้ากากอนามัยที่ชื่อ ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ “บอย ไนต์มาร์เก็ต” โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว อ้างว่ามีหน้ากากอนามัยพร้อมขายมากกว่า 200 ล้านชิ้น ก็ยิ่งตอกย้ำความเข้าใจของสังคมขึ้นไปอีกว่า ข้อสงสัยเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัยระดับ 100 ล้านชิ้นนั้น น่าจะเป็นความจริง
ท่ามกลางข้อสงสัยนี้ “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ก็ออกมาสวมบทนักแฉ ไลฟ์สดเกี่ยวกับปมหน้ากากอนามัยหาย 5 วันรวด คือ วันที่ 11, 15, 20, 29 มี.ค. และ 1 เม.ย. 63 โดยเนื้อหานั้น สรุปได้ว่า มีการกักตุนหน้ากากอนามัยเกี่ยวพันกับนักการเมืองหลายกลุ่ม ซึ่งแน่นอน ย่อมต้องโยงถึงคนในไทยพรรคประชาธิปัตย์ ที่คุมกระทรวงพาณิชย์อยู่ และเป็นที่มาของการฟ้องร้องกันหลายคดี ระหว่างคนในพรรคประชาธิปัตย์กับ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
แต่คดีหลักๆ ก็เป็นคดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นโจทก์นี่เอง ซึ่งใครจะผิดจะถูกอย่างไร ทั้งโจทก์และจำเลยก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาลเอาเอง
ต้องไม่ลืมว่า ปริศนาหน้ากากอนามัยหายไปเป็นร้อยล้านชิ้นนั้นได้รับความสนใจจาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงขั้นมอบหมายให้ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ซึ่งขณะนั้นยังเป็น รอง ผบ.ตร.ไปดำเนินการสอบสวนอย่างเร่งด่วนแล้ว
หลังจากได้รับมอบหมายจากนายกฯ แล้ว ถ้าไล่ดูข่าวย้อนหลัง ก็พบว่า “บิ๊กปั๊ด” ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการตรวจสมปมหน้ากากอนามัยหาย เพียงครั้งเดียว คือ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 63 เกี่ยวกับการดำเนินคดี “บอย ไนต์มาร์เก็ต” ที่โพสต์ข้อความ อ้างว่า สามารถจัดหาหน้ากากอนามัยได้มากกว่า 200 ล้านชิ้น โดยบอกว่าได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรับไปดำเนินการ ขยายผลการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด ซึ่งข้อมูลทางการสืบสวน มีความชัดเจนว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริง แต่การจะพิจารณาเอาผิดต้องพิจารณาแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ก่อนการประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม และหลังจากที่มีการประกาศในวันที่ 4 ก.พ.เป็นต้นมา ซึ่งฝ่ายสืบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกรายให้ถึงที่สุด
แต่หลังจากนั้น ความคืบหน้าของการสอบสวนหรือเอาผิดกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย ก็ไม่ได้ปรากฏออกมาทางสื่ออีกเลย จนกระทั่ง ณ เวลานี้ ซึ่งเหตุการณ์ล่วงเลยมา 1 ปีครึ่งแล้ว
**“แฟนด้อมทิพย์” ทุ่มทุนสร้างซื้อโฆษณาท้ายรถตุ๊กตุ๊ก อวยพรวันเกิด “ยิ่งลักษณ์” ตามเทรนด์วงไอดอลต่างประเทศ อ้างแฟนคลับจากแฟนเพจ Yingluck Shinawatra Forever ทั้งที่ แอดมินเพจก็คนใกล้ตัว “คุณหนูปู” เอง “ลิ่วล้อ” แห่ติดแฮชแท็ก # นายกในดวงใจ แถมมีล้อเลียนไปถึง “ลุงตึกไทยฯ”
ฮือฮาไม่น้อย ป้ายอวยพรวันคล้ายวันเกิดครบครบ 54 ปีของ “คุณหนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หนีคดีอยู่ต่างแดน ที่แปะโฆษณาหลังรถตุ๊กตุ๊กหลายสิบคัน จอดโชว์หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง ช่วงเช้า 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา
งานนี้แฟนเพจ Yingluck Shinawatra Forever ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 3 แสนคน ประกาศเป็นผู้จัดโปรเจกต์เซอร์ไพรส์วันเกิด “นายกฯปู” ตามแนว “แฟนด้อม” ที่เป็นเทรนด์โปรเจกต์วันเกิดศิลปินไอดอลต่างประเทศ
พร้อมโพสต์ภาพรถตุ๊กตุ๊ก และข้อความอวยพร “อยู่ไกลแต่ใจคิดถึง วันเกิดปีนี้แม้พวกเราจะอยู่ไกลกันแค่ไหน ระยะทางก็ไม่อาจกั้นความรักและความคิดถึงได้ จึงขอส่งความคิดถึงและความปรารถนาดีมายังท่านในวันเกิด อยากบอกว่าพวกเราเป็นกำลังใจ และอยู่เคียงข้างท่านเสมอนะคะ ยังรอวันนั้นอย่างมีความหวัง ปีนี้พวกเราขอเซอร์ไพรส์วันเกิดท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ กับรถตุ๊กตุ๊ก ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง พร้อมติดป้ายอวยพรวันเกิดสุดพิเศษ จึงนำภาพบรรยากาศมาฝากนายกฯยิ่งลักษณ์ ผ่านเพจนี้ แม้เราจะอยู่ไกลกันแต่ใจก็ยังคิดถึงเสมอ”
งานนี้น่าสนใจว่า “แฟนด้อม” ลงขันกันเองจริงหรือ เพราะรู้กันดีว่า “แอดมินเพจ” แฟนเพจ Yingluck Shinawatra Forever ที่ว่าไปก็ล้วนแล้วแต่เป็นเครือข่ายคนใกล้ชิดของ “คุณหนูปู” ทั้งนั้น ที่ว่า “แฟนด้อม” ทำให้ ไม่รู้ว่า “แฟนด้อมทิพย์” หรือเปล่า
คงมีแต่เจ้าของวันเกิดเท่านั้นที่รู้ว่า “เซอร์ไพรส์” จริงหรือรู้อยู่แล้ว แต่เรื่องแบบนี้ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนส่วนรวม ก็ไม่ว่ากัน ดีซะอีก “พี่ตุ๊กตุ๊ก” ได้มีรายได้เสริม เห็นว่าสนนราคาค่าจ้างติดป้ายโฆษณาแบบนี้ เหมากันวันละ 350 บาทต่อคัน เป็นเวลา 15 วัน
ขณะที่แกนนำ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตลอดจนอดีตนักการเมืองในเครือข่าย “ชินวัตร” ที่พร้อมใจกันโพสต์ภาพ “นายหญิงน้อย” อวยพรและติดแฮชแท็ก #นายกในดวงใจ กันอย่างพร้อมเพรียงราวกับนัดกันมาเหมือนกับช่วง 7 ปีที่แล้ว
ยังมีคิวที่ “อดีตคนไทยรักษาชาติ” พรรคที่ถูกยุบไปก่อนการเลือกตั้งปี 62 ในนาม “ตัวแทนยิ่งลักษณ์” แห่กันไปที่คลองมหาสวัสดิ์ นำโดย “เสี่ยแมว” วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธาน กมธ.งบฯ 65, “เสี่ยป๋อม” ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ, “ทนายถุงขนม” พิชิต ชื่นบาน อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ, “เจ๊แซน” ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวยิ่งลักษณ์ ปล่อยปลาก่อนถวายเพล และถวายสังฆทานพระสงฆ์ 9 รูป ที่วัดย่านฝั่งธนฯ โดย “ยิ่งลักษณ์” วิดีโอคอล มาร่วมรับพรด้วยตัวเอง แล้วยังให้ทีมงาน แจกอาหาร หน้ากากอนามัย สเปร์ยแอลกอฮอล์ และน้ำดื่ม ที่ชุมชนวัดท่าพระด้วย
ตามติดมาด้วยแฟนเพจ THINK คิด เพื่อ ไทย ที่เป็นของทีมงาน The Change Maker ที่ตั้งขึ้นตามดำริของ “คุณหนูปู” มี “ดร.เอิง” คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เป็นผู้อำนวยการ The Change Maker และทีมคิดเพื่อไทย
โดย “ดร.เอิง-คณาพจน์” อดีตรองเลขาฯพรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกตัดสิทธิ์การเมือง เป็นเพื่อนสนิทของ “แม่อิ๊ง” พินทองทา ลูกคนสุดท้องของ “นายห้างดูไบ” ทักษิณ ชินวัตร และหลานสาวของ “อาปู” นั่นเอง
แฟนเพจ THINK คิด เพื่อ ไทย ใช้โอกาสนี้ โพสต์อวยพรวันคล้ายวันเกิด แล้วยังโพสต์ถึง 4 เหตุการณ์ในสมัย “นายกฯยิ่งลักษณ์” ที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์จนเลยเถิด และถึงกับบิดเบือนใส่ความด้วย อาทิ กรณี “ยิ่งลักษณ์” พูดผิดๆ ถูกๆ ช่วงที่เป็นนายกฯ ที่โด่งดังที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องการอ่าน “คอนกรีต” เป็น “คอ-นก-รีต” หรือการอ่านชื่อ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เป็น “ขน-อม” เรื่องราวการพูดผิดมากมาย ถูกนำมาล้อเลียนอย่างสนุกปากในหลายภาคส่วนของสังคม แต่เมื่อเวลาผ่านไป เรากลับพบว่าเรื่องราวเหล่านี้ล้วนไม่เป็นความจริง
พร้อมทิ้งท้ายว่า “ผ่านมาแล้ว 7 ปี ภายใต้รัฐบาลที่พาประเทศถอยลงคลองโอ่งอ่าง THINK คิด เพื่อ ไทย เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่นายกรัฐมนตรีหญิงที่มีชื่อว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
เน้นคำสำคัญ อาทิ “ผู้นำตามระบอบประชาธิปไตย” หรือเหน็บแนมว่า “ประเทศถอยลงคลองโอ่งอ่าง” หรือยกเรื่องพูดผิดพาดพิงว่า “....ผิดกับ ไม่ว่าจะ สปุด...สปุ๊ดนิกวี คอนวีนีเซีย แอดไฟว์แอ่นด์คัฟเวอร์ แอ่นด์คัฟ” ของ “นายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง” ที่หลักฐานครบ แต่ก็ยังเที่ยวไล่ฟ้องประชาชนข้อหาหมิ่นประมาท
มองไม่ยากว่า ทั้งอีเวนต์ป้ายโฆษณารถตุ๊กตุ๊ก โพสต์อวยพรติดแฮชแท็ก #นายกในดวงใจ ไปจนถึงคลองโอ่งอ่าง หรือ สปุ๊ดนิก วี คอนวีนีเซีย แอดไฟว์แอ่นด์คัฟเวอร์ แอ่นด์คัฟ จงใจแซะไปถึง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร โค่นอำนาจ “รัฐบาลปู”
ก็ไม่รู้ว่าทุ่มทุนสร้าง เซตอัปกันขนาดนี้ จะยั่ว “ลุงตึกไทยฯ” ให้หัวร้อนสำเร็จหรือไม่