หน.พรรคข้าใครอย่าแตะ "สิระ" ออกโรงตอก "อนุสรณ์" ระวังชะตาชีวิตจะเหมือนพวกลิ่วล้อยุคเก่า แนะเอาเวลาไปตามนายใหญ่มาติดคุก เย้ย พท.น่าห่วงกว่าเยอะ เลือดไหลจะหมดพรรค แกนนำหลักหายหัว เหลือแต่บรรดาเห่าแต่ไม่กัด
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ล้างไพ่ปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ ดัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ นั่งเลขาธิการพรรค ว่า ยุทธการเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลนั้น ตนแนะให้นายอนุสรณ์เอาเวลาไปสนใจเรื่องภายในพรรคเพื่อไทยของตัวเองจะดีกว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร ไม่มีความแตกแยกใดๆ แตกต่างจากพรรคเพื่อไทย ที่มาวันนี้นายใหญ่ก็โดนพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกล ออกมาโจมตีรายวัน นายอนุสรณ์ ควรจะไปช่วยพิทักษ์นายใหญ่บ้างอย่าปล่อยให้ท่านโดดเดี่ยว ระวังการเลือกตั้งครั้งหน้าหัวโขนที่ใส่อยู่จะถูกริบ แล้วจะไม่ได้ออกมานั่งพร่ำด่าคนนูู้นคนนี้ทุกวัน ตนเตือนด้วยความหวังดี
“วันนี้พลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจอย่างที่หลายคนปรามาส พรรคกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นายอนุสรณ์ รู้ข้อนี้ดีจึงเกิดความอิจฉา อยากจะยุแยงตะแคงรั่ว ซึ่งนายอนุสรณ์ อย่าได้เป็นห่วงพรรคของคนอื่นเลย แต่ควรเอาเวลาไปห่วงใยเพื่อนๆ ร่วมพรรคของตัวเองดูว่า ก่อนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีเพื่อนเหลือกี่คน และถ้าช่วงนี้ว่างมากนัก ก็ไปดูใจและหาผ้าพันแผล สำลี ยาแดง มาทำแผลให้กับนายใหญ่อย่าง นายทักษิณ ชินวัตร บ้าง เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้ดวงซวย หรือกรรมตามทัน อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ปัญหาทั้งภายในพรรคและพรรคร่วมกระหน่ำนายใหญ่ของตัวเองอย่างหนัก นายอนุสรณ์รู้บ้างหรือไม่ หรือมัวแต่สอดส่องพรรคของคนอื่นอยู่” นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวต่อว่า ตนขอฝากไปถึงนายอนุสรณ์ ให้ย้อนไปดูพรรคเพื่อไทยตอนนี้ด้วย ว่า ภาวะเลือดไหลไม่หยุด ทำให้เสียคนสำคัญไปเยอะ อย่าง คุญหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข แถมล่าสุดยังปล่อยกำลังสำคัญอย่าง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หลุดมือไปอีก บรรดาคนที่เหลืออยู่ก็ดูไร้ฝีมือ ไร้ความสด เห่าแต่ไม่กัด ต้องอาศัย "ลุงโทนาฟ" สร้างกระแสใน Clubhouse ผลงานในสภาก็ไม่เอาอ่าว เป็นถึงผู้นำฝ่ายค้าน ก็ค้านไม่เป็น อย่างโฆษกก็เพิ่งมอบตัว ที่เหลืออยู่คงโดนตามมาอีกเยอะ
“บรรดาลิ่วล้อในพรรคเพื่อไทยก็เหมือนกับบายศรี ที่ถูกประดิดประดอยเป็นอย่างดี พอเสร็จงานเขาก็โยนทิ้งอย่างไร้ค่า อย่างลูกน้องบางคนที่พลีชีพ พลีกาย โกงกินบ้านเมืองเพื่อนาย สุดท้ายก็ถูกถีบหัวเข้าคุก เข้าตะราง นายอนุสรณ์ ต้องคิดดีๆ เพราะดูท่าแล้วชะตาชีวิตคงไม่ต่างจากคนพวกนั้น ตนก็ขอให้ห่วงตัวเองและครอบครัวด้วย ถ้านายอนุสรณ์อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ก็ไปตามนายใหญ่และนายหญิงทั้ง 2 คนกลับมาติดคุก ทวงเงินของคนไทยกลับมาให้แผ่นดิน นายอนุสรณ์ ก็จะได้เป็นฮีโร่ของคนไทยแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยมานั่งหาประเด็นเที่ยวด่าคนไปทั่ว” นายสิระ กล่าว
