ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ประชุมผู้แทน ศบค.แนะรัฐเปิดทางภาคส่วนต่างๆ มีส่วนร่วมจัดหา-กระจายวัคซีนโควิด-19 ชี้สถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องเร่งฉีดเชิงรุก
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะหารือร่วมผู้แทนศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กรมควบคุมโรค กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐ ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจฯมีคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะว่าในระยะแรก ให้หน่วยงานภาครัฐเท่านั้นดำเนินการจัดซื้อ บริหารจัดการและกระจายวัคซีนตามแผน เนื่องจากเป็นช่วงที่วัคซีนมีปริมาณจำกัด จึงยังไม่สามารถให้ภาคเอกชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนกับผู้ผลิตวัคซีนได้โดยตรง แต่ปัจจุบันการระบาดระลอกใหม่ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นมาก จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องกระจายและฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค อีกทั้งขณะนี้มีวัคซีนทางเลือกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนหลากหลาย เช่น จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โมเดอร์นา และ ซิโนฟาร์ม จึงถือได้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันได้พ้นระยะแรกตามคำวินิจฉัยเดิม
แต่ก็ยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนถูกต้องและทั่วถึงเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีน ในวันนี้จึงหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีข้อเสนอแนะกรณีการบริหารจัดการวัคซีน คือ ศบค.ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักควรเร่งจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพให้ครอบคลุม ทั่วถึง และทันเวลาต่อการแก้ไขปัญหา การแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ศบค.จึงควรเร่งกำหนดให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหาและกระจายวัคซีนทางเลือก รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีน ไม่ก่อให้เกิดความสับสนในการเข้ารับการฉีดมาตรการเยียวยาอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน และฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กลุ่มคนซึ่งขาดศักยภาพที่จะเข้าถึงบริการหรือข่าวสารของภาครัฐ เช่น กลุ่มคนที่มีความจำเพาะด้านสุขภาพ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ กลุ่มคนด้อยโอกาสทางสังคม