"ศรีสุวรรณ" ร้องป.ป.ช.สอบศบค.- "ประยุทธ์-อนุพงษ์" ปมไม่ให้ท้องถิ่นจะซื้อวัคซีนโควิด-19 อ้างดีเลย์ ทำประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลหวังผลประโยชน์จากการจัดหาวัคซีน
วันนี้ (4มิ.ย.)นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวนกรณีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนกรณีการจัดซื้อวัคซีนทางเลือกของ อปท. แต่ติดล็อกคำวินิจฉัยผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่วินิจฉัยว่าระยะแรกเท่านั้นที่รัฐจะเป็นผู้ซื้อ อปท.และภาคเอกชนไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อโดยตรง ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็แสร้งปัดว่าไม่รู้ว่าเขาซื้อได้หรือเปล่า ซึ่งอาจเป็นข้อพิรุธในการจัดซื้อจัดหาวัคซีน
ทั้งนี้ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการฯระบุไว้ชัดเจนว่า ไม่ให้ภาคเอกชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับผู้ผลิตวัคซีนได้โดยตรง แต่ขณะนี้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ประกาศว่า ได้เตรียมจัดซื้อจัดหาวัคซีนซิโนฟาร์มมาใช้ในประเทศเป็นวัคซีนทางเลือกได้แล้ว ดังนั้น ถ้า อปท.จะจัดซื้อวัคซีนดังกล่าวผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ย่อมทำได้ ไม่ขัดต่อคำแนะนำของผู้ตรวจการแผ่นดินแต่อย่างใด ซึ่งนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยควรจะสนับสนุนไม่ใช่มากระตุกขา ทำให้เกิดความล่าช้า
นอกจากนั้น ในการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณในสภาผู้แทนฯยังมีการอภิปรายว่าทำไมรัฐบาลเชียร์วัคซีนกับบางยี่ห้อ เหมือนเจตนาดีเลย์ ยี่ห้ออื่น ทำให้ประชาชนเชื่อว่า รัฐบาลมีผลประโยชน์ มีส่วนต่าง มีเงินทอนกับวัคซีนใช่หรือไม่ และการที่ รมว.มท.และนายกรัฐมนตรีขัดขวางการจัดซื้อจัดหาวัคซีนเพื่อนำมาป้องกันโควิด-19 ของ อปท. จึงเป็นการตอกย้ำข้อพิรุธ ข้อสงสัยในการจัดซื้อจัดหาว้คซีน และการฉีดให้ประชาชน อาจไม่เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้เพราะมีการเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่ปลาย ก.พ.64 มาจนถึงปัจจุบัน 3 เดือนกว่ายังฉีดไปได้แค่ 3 ล้านกว่าคนเท่านั้น อีก 7 เดือนจะหมดปีแล้วจะฉีดให้ครบ 65 ล้านคนได้อย่างไร ถ้าไม่เร่งรีบให้ท้องถิ่นหรือ อปท. ออกมาช่วยกันทุกวิถีทาง ซึ่งถ้าติดขัดปัญหาระเบียบหรือข้อกฎหมายใด ก็ควรเร่งแก้ไขและยกเลิกไปเสียไม่ใช่มาอ้างข้อกฎหมาย อ้างระเบียบเลอะเทอะเช่นนี้ ที่สำคัญผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินได้ออกมาระบุชัดว่า รัฐบาลควรต้องเร่งดำเนินการ ส่วนประเด็นการเบิกจ่ายเงินให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นเรื่องที่ สตง.พร้อมให้คำแนะนำ ตอบข้อสงสัย หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานที่มีความตั้งใจและพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
ดังนั้น การดีเลย์ให้ อปท.สั่งจองและใช้วัคซีนฉีดให้ประชาชนแม้เพียงวันเดียว ก็ถือได้ว่าเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ตามกฎหมายของ ป.ป.ช.แล้ว จึงขอให้ป.ป.ช.สอบสวนไต่สวนเอาผิด ศบค. โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงมหาดไทย ที่ใช้เทคนิคดีเลย์การจัดหาวัคซีนของ อปท.และข้อพิรุธต่างๆ