คนไทยในฝรั่งเศส แฉ “ด้านมืด” ตอกหน้า “ปิยบุตร” คุณภาพชีวิตสุดเสื่อมทราม หลังปฏิวัติกษัตริย์ ทั้งคนไร้บ้าน ยืนฉี่ไม่เลือกที่ แย่งกันขึ้นรถไฟฟ้า “ไพศาล” ชี้ คดีสินบน ขบวนทำลายศาล “ดร.อานนท์” ฟันธง “เด็กทอน” ต่ำสิบ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(31 พ.ค.64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ข้อความ ที่อ้างเนื้อหาจาก truthforyou.co หัวเรื่อง “คนไทยในฝรั่งเศส เผยด้านมืด ตอกหน้า “ปิยบุตร” ความจริงหลังฝรั่งเศสปฏิวัติกษัตริย์”
โดยมีเนื้อหา ระบุว่า “เหลืออดเต็มทีแล้ว!? คนไทยในฝรั่งเศส เผยด้านมืด ตอกหน้า “ปิยบุตร” ความจริงหลังฝรั่งเศสปฏิวัติกษัตริย์ ไม่ได้สวยงามอย่างที่หลอกคนไทย!
เชื่อว่า หลายท่านหากได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า มาโดยตลอดจะทราบดีว่า นายปิยบุตร มักจะเชิดชูฝรั่งเศส และมักพูดถึงการปฏิวัติกษัตริย์ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คนไทยเกิดการคล้อยตามว่า การปฏิวัติกษัตริย์ จะทำให้ประเทศนั้นเจริญและไปในทิศทางที่ดีเหมือนในฝรั่งเศส
ซึ่งเมื่อวันที่ 28 พ.ค.64 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Phichitchai Chaiwichit ซึ่งเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ได้โพสต์ตอบโต้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ชอบวาดภาพให้คนไทย รู้สึกว่า ฝรั่งเศสหลังจากที่มีการปฏิวัติกษัตริย์ จะเป็นประเทศที่ดีขึ้นและสวยงาม แต่ความเป็นจริงแล้วป่าวเลย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ถ้าการเมืองดีประเทศจะเป็นประชาธิปไตย ปิยะบูด กล่าวฝากบอกพี่กระปิบูด ตอนเรียนกฎหมายที่ฝรั่งเศส บูดเรียนที่ Toulouse ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส บูดขึ้นมาปารีส บูดก็จะมาถ่ายวิวสวยๆของหอไอเฟล แล้วก็บรรยายความเลิศหรูของฝรั่งเศส ผลจากการปฏิวัติกษัตริย์และกิโยติน พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และมเหสี มารี อองตัวเนต
แต่บูดลืมเล่าต่อ หลังจากปฏิวัติระบอบกษัตริย์ เหล่าขุนนางพวกก่อการปฏิวัติก็สั่งฆ่ากันเอง เพราะไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน เพราะผลประโยชน์ล้วนๆ สุดท้ายก็เกิดระบอบจักรพรรดิ จากการสถาปนาตัวเองของ จักรพรรดิ นโปเลียน เข้ามาแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองแทนนักการเมืองที่ชอบทำเพื่อตัวเอง ขับไล่กษัตริย์ แบ่งดินแดนอันน้อยนิด Monte carlo คือ โมนาโกอันสวยงามในปัจจุบัน
ตอนนี้ชาวฝรั่งเศสย้อนแย้ง อยากมีชีวิตแบบชาวโมนาโก ฝากภาพให้ชาวสามกีบชม ถ้าการเมืองดี ภาพที่บูดไม่เคยบอก สภาพคนไร้บ้านทั่วปารีส ภาพความสกปรกของมหานครปารีส สามกีบอยากได้ความเท่าเทียมทางสังคมเหมือนฝรั่งเศส อยากบอกพวกมึงดังๆว่า อายุเกิน 18 ปี พวกมึงต้องทำงานทุกคน พวกมึงต้องเสียภาษี มึงจะขายหมูปิ้ง กะปิ น้ำปลาข้างถนน ภาษีนั่งดูทีวีที่บ้าน มึงก็ต้องจ่าย ไม่ใช่ vat 7% โง่ๆแบบที่คิด หวังว่าข้อคิดที่เขียน จะระเบิดกะโหลกหนาๆ และสั่งให้สมองทำงานบ้างนะครับ อย่าดักดานอยู่แค่ในทุ่งลาเวนเดอร์แห่งแคว้น Aix-en-Provence…
ต่อมาในวันที่ 29 พ.ค.64 ทางด้านของ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Phichitchai Chaiwichit ยังได้โพสต์ภาพพร้อมเรื่องราวด้านมืดของเสรีภาพจนเกินขอบเขตอีก โดยระบุว่า
เมื่อวานพี่นำเสนอภาพอันสวยงามของปารีส (ที่บางคนซ่อนไว้) วันนี้…พี่ขอเสนออีกครั้ง ว่า การใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ในมหานครปารีสเป็นเช่นไร กลับเมืองไทย เห็นมารยาทการใช้รถไฟฟ้าของชาวไทย ยืนเข้าแถวเป็นระเบียบสวยงาม แต่ฝรั่งเศส …อย่าได้หวัง
ขึ้น-แย่งกันตามสบายใจกู เดินๆระหว่างทางเปลี่ยนสาย คุณอาจเจอมนุษย์นั่งขี้ หรือยืนเยี่ยวแบบไม่อายฟ้าดิน ในขบวนรถ ทั้งอ๊วกทั้งอาเจียน มีให้เห็นทุกขบวน ทุกวัน อย่าได้แคร์ ตัวกูของกู สิทธิเท่าเทียมกัน รากเหง้าชาวฝรั่งเศสสั่งสอนเอาไว้
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“การปล่อยข่าวบ่อนทำลายสถาบันศาลพลิกล็อค!!!
1.โตโยต้าประเทศไทย ถูกประเมินภาษีกว่าหมื่นล้านบาท
จึงได้ยื่นฟ้องเจ้าพนักงานประเมินต่อศาลขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีนั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โตโยต้าชนะคดี!!!
2.ทางราชการได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์
การวินิจฉัยคดีมีความเห็นขัดแย้งกัน จึงต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมใหญ่ศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาเรื่องนี้
กรณีจึงไม่ใช่เป็นการตัดสินโดยองค์คณะผู้พิพากษา 3 คน
3.ในการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ศาลอุทธรณ์นั้น นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ผู้พิพากษา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถูกปล่อยข่าว ได้แถลงความเห็นในที่ประชุมใหญ่ว่า การประเมินภาษีชอบแล้วเห็นว่าโตโยต้าต้องเสียภาษีตามที่ประเมิน!!!
ที่ประชุมใหญ่ศาลอุทธรณ์ ลงมติพิพากษาตามความเห็นของนายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ให้โตโยต้าแพ้คดี
ข่าวการติดสินบนเพื่อให้ชนะคดี จึงเป็นคนละเรื่องเพราะโตโยต้าแพ้คดี!!!!
และคดียังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกา!!! ใครจะไปติดสินบนผู้พิพากษาศาลฎีกา เพราะไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ตัดสิน
4.ความเห็นของนายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม และมติของที่ประชุมใหญ่ศาลอุทธรณ์ ตามข้อเสนอของนายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ไม่เป็นประโยชน์แก่โตโยต้า ซึ่งถ้าหากเกี่ยวข้องกับสินบนก็จะต้องออกความเห็นให้โตโยต้าชนะคดี
ดังนั้นที่มีข่าวพาดพิงนายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ว่าเกี่ยวข้องกับสินจึงเป็นคนละโลก
ส่วนนายไสลเกษ เป็นประธานศาลฎีกา1ปี และเกษียณแล้วโดยที่คดียังไม่ถึงศาลฎีกาเลย
ใครจะไปติดสินบนให้คนเกษียณ
ข้อเท็จจริงในขณะนี้ เห็นได้ชัดว่า การปล่อยข่าวเรื่องนี้ในสหรัฐและญี่ปุ่นนั้นไม่มีทางที่จะเป็นจริงไปได้เลย
ส่วนเจตนาในการปล่อยข่าวนี้เป็นอย่างไรก็คิดกันเอาเอง"
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“ดร.อานนท์ ฟันธง! ถ้ายุบสภา พรรคสีส้มมีโอกาสเป็นพรรคต่ำสิบ? ชี้ส.ส.ฟลุคจากกระแส หากชนะก็จะไม่เห็นสามสัสในสายตา!
#ดร.อานนท์ #พรรคสีส้ม #ส_ส_เกาะกระแส
ทั้งนี้ รายละเอียดจาก truthforyou.co ระบุว่า
“จากกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมสภาเพื่อพิจารณางบประมาณประจำปี งบประมาณ 2565 ที่ฝ่ายค้านระบุว่า จะล้มการประชุมตั้งแต่วาระแรก และจะเกิดปัญหาหรือไม่นั้น ว่า หากฝ่ายค้านจะล้มก็ไม่มีปัญหา เป็นอำนาจและสิทธิของฝ่ายค้าน ข้อสำคัญ คือ รัฐบาลต้องรักษาเสียงของตัวไว้ให้ชนะ แต่หากไม่ผ่านขึ้นมาจะมีปัญหาแน่นอน ซึ่งกฎหมายการเงินถือเป็นกฎหมายที่สำคัญที่สุด หากไม่ผ่านก็จะต้องยุบสภาหรือลาออก
โดยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางด้าน Voice TV ได้ทำ POLL โดยผลออกมาว่า พลังประชารัฐ 3 % เพื่อไทย 19% ภูมิใจไทย 1 % ประชาธิปัตย์ 1% ก้าวไกล 76% โดยมีคะแนนรวม 7 หมื่นคะแนน
ล่าสุด ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
ถ้ายุบสภาแล้วเลือกตั้ง ส.ส. สีส้มจะกลับเข้ามาได้แค่ไหน สักกี่คน โอกาสจะเป็นพรรคต่ำสิบ มีสูงมาก ไม่มีฟลุคจากกระแส social media แล้ว เพราะเพลงหนักแผ่นดินกระหึ่มไปทุกที่ที่สามสัสเดินทางไปถึง นอกจากนี้ยังไม่มีผลพลอยได้จากการที่พรรคไทยรักษาชาติยุบพรรคแล้วด้วย
ส.ส. ฟลุคๆ ที่เกาะกระแสมา ได้เป็นส.ส. ครั้งแรกแบบงงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะชนะ ถ้าเกิดได้เป็น ส.ส. ครั้งที่สอง บารมีจะเกิดแล้ว ก็จะไม่เห็นสามสัสในสายตา เกิดงูเห่าสีส้ม หรือแทบจะล้มสามสัสเสียด้วยซ้ำ เพราะปีกกล้าขาแข็งแล้ว
นี่คือคำทำนาย”
แน่นอน, สิ่งที่น่าคิดอย่างยิ่งก็คือ การขายฝัน สร้างภาพสังคมในอุดมคติ ที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในโลกแห่งความเป็นจริง
สิ่งที่ นายปิยบุตร และม็อบ 3 นิ้ว ขายฝันคือ โลกในอุดมคติ ที่เพ้อฝันเอาไว้ว่า หลังจากมีการปฏิวัติโครงสร้างทางการเมือง ประเทศไทยจะเป็นเหมือนอารยประเทศ ซึ่ง มีเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ กว่าที่เป็นอยู่
แล้วพวกเขาก็ชี้เป้าปัญหาไปที่โครงสร้างครอบงำประเทศไทย โดยไม่มองถึงปัญหาอื่นในสังคมไทยแม้แต่น้อย อย่างที่หลายคนชี้ให้เห็นว่า ปัญหาใหญ่คือ ปัญหานักการเมืองแอบอ้างอำนาจประชาชน หากินกับเงินภาษีประชาชน และคดโกงประเทศชาติ มาตั้งแต่ปฏิวัติ 2475 มาแล้ว จนวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม เพียงแต่ความซับซ้อนซ่อนเงื่อน และหาช่องทางการคดโกงเปลี่ยนไป และแนบเนียนขึ้น จนยากจับได้เท่านั้นเอง แต่ก็ยังถูกจับได้เป็นจำนวนมาก อย่างที่เป็นข่าวมาตลอด
นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังมีสังคมที่ซับซ้อนและเป็นพิเศษทางวัฒนธรรม ที่จะต้องเคารพและยอมรับ สืบสาน เพราะเป็น “กุศโลบาย” ที่ดีตกทอดกันมา เพียงแต่พักหลังคนรุ่นใหม่ไม่เห็นค่า และไม่สนใจศึกษาอดีตเท่านั้นเอง
ดังนั้น ไม่แปลก ที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มขายฝัน ขายอุดมคติ อย่างม็อบ 3 นิ้ว ต้องการปฏิวัติ ล้มเลิก จึงเกิดความขัดแย้ง แตกแยก ระหว่างคนรุ่นเก่า รุ่นพ่อแม่ กับ เด็กรุ่นใหม่ ที่เอาแต่อุดมคติ ไม่มีภูมิคุ้มกันทางวัฒนธรรม และน่าเป็นห่วง ว่า ประเทศไทย จะเป็นเพียงประเทศที่เอาอย่างต่างประเทศ โดยไม่มี “อัตลักษณ์” และวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์ก็คือ นักการเมือง และเครือข่ายนายทุนของพวกเขาเท่านั้นเอง ขณะที่จุดแข็งทุกอย่างของสังคมไทยนับวันอ่อนแอ และรอวันล่มสลายในที่สุด
แล้วสิ่งที่ตามมาจาก “เสรีภาพ” ที่เกินขอบเขต โดยไม่มีอะไรกล่อมเกลา ก็อย่างที่เห็นในต่างประเทศ ในประเทศที่อ้างว่า เป็นประชาธิปไตย มีเสรีภาพ มีความเสมอภาค มีภราดรภาพ ซึ่งอาจไม่แค่ฝรั่งเศส แต่ที่น่าเศร้าก็คือ มีคนบางกลุ่มพยายามที่จะปลุกปั่นคนรุ่นใหม่ ให้เดินไปในวิถีแบบนั้น อย่างไม่ไยดีคุณค่าความเป็นไทยเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่มันคือ ภูมิคุ้มกันทางสังคมชั้นดีก็ตาม
ทั้งหมดคือ ภาพสะท้อนอย่างเห็นได้ชัด ถึงการต่อสู้กันอยู่นั่นเอง