xs
xsm
sm
md
lg

“แอนดรูว์” โชว์หมายศาล เย้ย ไม่กลับไทยให้จับ แฉเจ็บ “ศักดิ์ เจียม” ฉายา “ลุงมโน” คุยไม่รู้เรื่อง มีหมาเป็นเพื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธุ์, แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชลล์ จากแฟ้ม
เอาจริง! ล่าก๊วนล้มเจ้า “แอนดรูว์” คู่ปรับ “ปวิน” อดีตนักข่าวรอยเตอร์ หนีคดี 112 โชว์หมายศาล เย้ย ไม่กลับไทยมาให้จับเล่นๆ “รอง หน.พรรคกล้า” แฉเจ็บ “ศักดิ์ เจียม” ฉายา “ลุงมโน” คุยกับใครไม่รู้เรื่อง มีหมา 3 ตัวเป็นเพื่อน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (27 พ.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“คิวต่อไปเตรียมตัว! DES สั่งปิดเพจแอนดรูว์ สื่อ ตปท.หมิ่นสถาบันแล้ว! เจ้าตัวโชว์หมายศาล เย้ยเสียเวลาบินกลับไทย ให้จับเล่นๆ?!
#DES #สั่งปิดเพจแอนดรูว์ #สื่อหมิ่นสถาบัน

พร้อมเนื้อหา จาก TRUTHFORYOU.CO ระบุว่า

“จากกรณีเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทางเพจ ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี - PMOC ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีบัญชีต้องห้ามและเป็นแหล่งข่าวปลอมที่ออกมา โดยระบุข้อความว่า บัญชีต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คอมพ์ และเป็นแหล่งข่าวปลอม จำนวน 10 บัญชี ที่เป็นความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบัน และการข่มขู่คุกคามการทำงานของศาล/ผู้พิพากษา โดยหนึ่งในนั้นคือ Andrew MacGregor Marshall

ภาพ แอนดรูว์ ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ล่าสุด ทางด้าน แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชลล์ อดีตสื่อต่างชาติในไทย และหนีคดี ม.112 ได้ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ ที่ใช้ชื่อว่า Andrew MacGregor Marshall พร้อมกับรูปภาพ หมายนัดไต่สวนคำร้อง ในวันที่ 29 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ร้อง โดยมีข้อความระบุว่า

ผมเพิ่งได้รับหมายศาลจากรัฐบาลเผด็จการไทย (ทาง เฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์) ด้วยข้อหาว่า ผมแชร์ข้อมูลที่ขัดต่อกฎหมาย ผมรู้สึกว่า มันตลกดี เพราะว่าผมอยู่ที่สกอตแลนด์ ซึ่งผมก็คงไม่ถ่อไปตรวจโรคโควิด จองตั๋วเครื่องบิน บินกลับไทยไปกักตัวก่อนจะไปขึ้นศาลให้เค้าจับตัวผมเล่นๆ หรอก

แต่ว่านอกจากผมแล้ว ยังมีคนอื่นอีกหลายคนทั้งบน เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ที่ได้รับหมายศาลทำนองนี้ ผมคิดว่า เขาไม่ได้คาดหวังคนในหมายให้ไปขึ้นศาลหรอก แต่เขาออกหมายเหล่านี้เพื่อใช้ส่งให้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ทำการบล็อกการเข้าถึงเพจของคนในหมายสำหรับในประเทศไทย

ซึ่งเป็นไปได้ว่า อีกไม่นานเฟซบุ๊กผมก็อาจโดนบล็อกเช่นกัน...”

สำหรับ นายแอนดรูว์ หากย้อนกลับไปพบว่า มีพฤติกรรมเคลื่อนไหวเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยมานานหลายปี ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี การหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งถูกแจ้งความดำเนินคดีในประเทศไทยหลายคดี และมีความใกล้ชิดกับคนในระบอบทักษิณหลายคนด้วย

อย่างไรก็ตาม ในโลกโซเชียลยังเป็นที่รู้จักกันว่า เขาคือ อดีตเพื่อน และคู่ปรับคนสำคัญของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปอยู่ที่ต่างประเทศ

เห็นได้จาก เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 63 นายปวิน ออกมาแฉผ่าน เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun กรณีถูกสะกดรอย ตอนหนึ่งกล่าวถึงตัวตนของ แอนดรูว์ มาร์แชล ว่า

“...ดิชั้นคอนเฟิร์มว่า แอนดรูว์ เป็นโรค alcoholism ติดเหล้าจนเสียงาน ดิชั้นเป็นคนเขียนจดหมายรับรองให้เค้าเข้าทำงานที่ Green Peace ทำได้ไม่นานก็ถูกไล่ออกเพราะไปเมาที่ทำงาน ทำดิชั้นเสียชื่อเสียงเพราะดิชั้นเป็นคนเขียนจดหมายรับรอง การเจอกันที่อังกฤษหลายครั้งก็ต้องยกเลิก เพราะแอนดรูว์เมา ไม่สามารถมาตามนัดได้ ปล่อยให้คนที่เหลือรอเก้อ ดิชั้นคิดว่า ไอ้การสงสัยว่า มีคนมายืนหน้าบ้าน น่าจะมาจากอาการเมาค้างเหมือนเดิมและเห็นภาพหลอน เรื่องนี้ใครที่เป็นเพื่อนแอนดรูว์จะรู้ดี พอเมาแล้วก็จะเที่ยวไล่ด่าคนบนเฟซบุ๊ก ดิชั้นก็ไม่รอด ถูกเค้ารังควาน เขียนอีเมลและส่ง WhatsApp มารังควานบ่อยๆ

เรื่องผิดใจกันมาจากเรื่องนิดเดียว คือ ดิชั้นไม่ชวนนางไปงานสัมมนาที่ Stanford เมื่อปี 2017 พอไม่ได้รับเชิญก็โกรธ โทรไปวุ่นวาย/ก่อความไม่สงบที่มหาลัยระหว่างการสัมมนา จนผู้ร่วมสัมมนาอีกประมาณ 10 คน รำคาญ จากนั้นเค้าก็ด่าผู้ร่วมสัมมนาและดิชั้นเสียๆ หายๆ เอาเราไปประจานต่างๆ นานา จนดิชั้นตัดใจเลิกคบมันตั้งแต่บัดนั้น”

ต่อมา เมื่อวันนี้ 4 ก.พ. 64 ทวิตเตอร์ Andrew MacGregor Marshall @zenjournalist ของ นายแอนดรูว์ แมคเกรเกอร์ มาร์แชล ก็เอาคืน “ปวิน” เมื่ออีกฝ่ายโดยข้อหาละเมิดสิทธิ์อย่างแรง

“ผมรู้สึกผิดหวังที่เห็น ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ละเมิด คุณโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา อีกครั้งด้วยการเผยแพร่ภาพที่ถูกแอบถ่ายโดยปราศจากความยินยอมของเธอ และกล่าวหาเธอด้วยความเท็จ

ไม่อาจมีข้อแก้ตัวใดสำหรับพฤติกรรมแบบนี้ได้ มันคือ การกลั่นแกล้งรังแกและเป็นการละเมิด และมหาวิทยาลัยนานาชาติทั้งหมดที่ปวินต้องการร่วมงานด้วยควรจะตระหนักถึงเรื่องนี้ หากเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นใดๆ ของคุณโบว์ หรือไม่ชอบเธอ นั่นเป็นเรื่องของเขา

แต่การใส่ความและภาพที่เขานำไปเผยแพร่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และผมไม่เห็นว่า มหาวิทยาลัย หรือองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือใดๆ จะพึงร่วมงานกับเขาได้อีก
เป็นที่ชัดเจนว่า เขาจะโจมตีและละเมิดผมอีกครั้งเช่นกัน หลังจากที่ผมเขียนข้อความนี้ แต่ผมไม่ใส่ใจ เขาเคยละเมิดผมและครอบครัวของผมมาแล้ว พวกเราเคยชินกับมันเสียแล้ว

เสรีภาพในการพูดไม่ได้หมายความว่า ปวินจะสามารถกลั่นแกล้งละเมิดใครได้อย่างลอยนวล โดยไม่ต้องรับโทษและไม่ได้รับผลใดๆ จากการกระทำ เขาได้กลายเป็นคนที่กระทำการละเมิดและไม่ซื่อสัตย์เช่นเดียวกับกลุ่มคนที่เขากำลังต่อสู้ด้วย มันควรจะจบได้แล้ว”

ส่วน “ปวิน” ล่าสุด พบมีการเคลื่อนไหว ร่วมกับ กลุ่ม “กินพิซซ่า ล่าเผด็จการ” เมื่อช่วงวันที่ 22 พ.ค.64

โดยจากการประชาสัมพันธ์ ระบุว่า “สำหรับนิวยอร์ก มีทีเด็ด ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธุ์ จากเกียวโต ซึ่งอยู่ระหว่างทัวร์อเมริกานัดพบ ‘ไฟ้เซอร์’ (เจอกันแล้ว) จะอยู่ในซิตี้พอดี ฉะนี้ชาว ‘บิ๊กแอ็ปเปิ้ล’ เจอเขาแน่ ร่วมด้วยช่วยกันย่อยสลายพิซซ่า กำจัดเผด็จการไทย

 พงศ์พรหม ยามะรัต จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน วันนี้ นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับ “สมศักดิ์ เจียม” ในสมัยที่ตัวเขายังเรียนอยู่ มธ. ระบุว่า

“ยุคผมอยู่ธรรมศาสตร์ปี 34-38
อ.สมเจียม ไม่มีเพื่อน มีเพื่อนสนิทเป็นหมา 3 ตัว
ที่แกไม่มีเพื่อน เพราะแกคุยกับคนไม่รู้เรื่อง
ร้านก๋วยเตี๋ยวซักร้านก็ไม่เคยเปิด
ไปช่วยเหลือคนในชุมชน ให้รู้ถึงปัญหา นั่นก็ไม่เคย
แต่มั่วได้ทุกเรื่อง

ยุคผมเลยเรียก อ.สมเจียมว่า “ลุงมโน”
10 ปีก่อน มีสิ่งที่เรียกว่า Twitter บนโลก
ใครจะหลอกใครก็ได้แล้ว เพราะไม่ต้องรู้อะไรบนความจริง
ขอให้เขียนได้โดนใจ
ลุงมโนได้ที ใส่ข้อความมั่วๆ ยุเด็ก
เรื่องแทบทุกเรื่องแทบไม่ต่างจากละครน้ำเน่าหลังข่าว

เด็กเป็นหมื่นๆคนที่ไม่รู้จักตัวจริงของแก ก็ดันเชื่อเป็นตุเป็นตะ
แต่ที่แปลกใจ แฟนคลับแกคือไม่ได้นิยมแกที่แนวคิดเชิงปรัชญา
แต่ดันชอบติดตามแกตรงความขี้เสือกของแกที่ไม่ต่างอะไรจากละครน้ำเน่าเลย

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นหนึ่งในผู้หลบหนีหมายจับคดีอาญา ม.112 และขอลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส และหนึ่งในผู้มีอิทธิพลต่อพวกสามกีบ รวมทั้งนักการเมืองบางกลุ่ม โดยมักโพสต์ข่าวปลอมต่างๆ เกี่ยวกับสถาบันฯ และมีการโพสต์ข้อความจาบจ้วงสถาบันอยู่หลายครั้ง

ภาพ นายดอน ปรมัตถ์วินัย จากแฟ้ม
โดยล่าสุด นายสมศักดิ์ ได้ปล่อยข่าวลืออัปมงคลเกี่ยวกับสถาบัน จนกระทั่ง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประสานกับทางการฝรั่งเศสเป็น เพื่อหวังส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยแล้ว

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ และน่าจับตามองอย่างสูง ก็คือ การประสานความร่วมมือกับรัฐบาลต่างประเทศ นำตัวผู้ต้องหาตามหมายศาล กลับมาดำเนินคดีในไทย นั่นเอง

ก่อนหน้านี้ เชื่อว่า มีการขอความร่วมมือจาก เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ เพื่อบล็อกการเข้าถึงในประเทศไทยไปแล้ว

ซึ่งในส่วนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ต้องยอมรับว่า ได้ผลอย่างมาก เพราะแม้แต่ แอนดรูว์ ก็ยังพูดถึงเรื่องนี้ และคาดว่า โพสต์ตัวเองจะต้องโดนบล็อกแน่นอน ก่อนหน้านี้ “ปวิน” ก็เคยโพสต์ว่า ใช้เฟซบุ๊ก ยากลำบากขึ้น เนื่องจากถูกบล็อกเช่นกัน

สำหรับการประสานส่งตัวกลับมาดำเนินคดีนั้น อาจไม่ง่ายอย่างที่คิดก็เป็นได้ เพราะถ้าทำได้ง่ายป่านนี้ก็คงไม่มีปัญหาอย่างที่เป็นอยู่แล้ว

ประเด็นสำคัญ มักถูกอ้างว่า ลี้ภัยทางการเมือง ทั้งที่หนีคดีอาญา ม.112 ยิ่งกว่านั้น ม.112 ในสายตาของ โลกประชาธิปไตย ก็อาจมีมุมมองที่แตกต่างจากไทย รวมถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาลไทยที่มาจากการรัฐประหาร แม้จะมีการเลือกตั้ง ก็อาจถูกมองอย่างที่มีการฟ้องโลกของม็อบ 3 นิ้วว่า เป็นเผด็จการด้วย

ดังนั้น สิ่งที่หวังได้มากที่สุด ก็คือ การขอร้องให้รัฐบาลประเทศที่ผู้ลี้ภัยเคลื่อนไหว สั่งให้หยุดใช้ประเทศของพวกเขาเคลื่อนไหวทางการเมือง และโจมตีสถาบัน ซึ่งผู้รู้เคยชี้ประเด็นเอาไว้แล้ว แต่ถ้าถึงขั้นนำตัวกลับมาดำเนินคดีได้ ก็ต้องถือเป็นผลงาน “ชิ้นโบแดง” และเป็นความสำเร็จอย่างสูงของกระทรวงการต่างประเทศเลยทีเดียว

เหนืออื่นใด ประเด็นที่คนไทยรับไม่ได้จากคนเหล่านี้ก็คือ การบิดเบือน ให้ร้าย สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเคารพเทิดทูนของคนไทย นั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น