ส.ว.จี้รัฐจัดสรรวัคซีนใหม่ เกลี่ยโควตาจังหวัดระบาดน้อยมาให้จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มเพิ่ม หลังพบคลัสเตอร์ใหญ่ระบาดใหม่
วันนี้ (25 พ.ค.) ในการประชุมวุฒิสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.กล่าวในช่วงหารือว่า ตนขอเสนอรัฐบาล 4 ประเด็น เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ดังนี้ 1. การจัดสรรวัคซีนจะต้องปรับแผนงานใหม่ เพื่อจัดลำดับให้กับจังหวัดที่มีการระบาดมากที่สุด เพราะสถานการณ์ตอนนี้มีจังหวัดที่มีการระบาดมากที่สุดแต่กลับได้รับการจัดสรรวัคซีนน้อยมาก การเปลี่ยนแปลงโควต้าวัคซีนแต่ละจังหวัดสามารถทำได้ อาทิ จ.อุดรธานี สกลนคร มหาสารคาม ลำปาง สระบุรี นครพนม และนครราชสีมา ที่พบว่ามีการระบาดไม่หนักมาก ขอให้แบ่งโควตาวัคซีน 50% ของจังหวัดเหล่านั้นมาจัดสรรให้กับจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้มเพิ่มเติม เช่น ชลบุรี เพชรบุรี และสมุทรปราการที่มีการระบาดหนักในตอนนี้ 2. ในส่วนของเรือนจำ
“ขณะนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และจะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ ตนเสนอให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในค่ายทหารหรือเขตควบคุม ส่วนนักโทษที่มีโทษเป็นค่าปรับถือเป็นโทษเบา ขอให้เรือนจำจ่ายค่าปรับแทน แล้วให้นักโทษเบาเหล่านั้นบำเพ็ญประโยชน์แทนการจ่ายค่าปรับ หรือให้ใส่กำไลอีเอ็ม หรือพักโทษแทน อีกทั้งขณะนี้ยังมีนักโทษที่ไม่ใช้นักโทษคดีหนักหลายคนอยู่ในขั้นตอนการประกันตัวจึงควรให้เร่งพิจารณา เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ”
นายสมชาย กล่าวต่อว่า 3. การฉีดวัคให้กับแรงงานต่างด้าว ซึ่งต้องแยกวัคซีนออกจากคนไทย โดยเสนอให้นายกจ้าง ทั้งโรงงานและบริษัทซื้อวัคซีนผ่านรัฐบาล 4.เรื่องการชี้แจง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปรับการแถลงข่าวผ่านศูนย์แถลงข่าว และไม่แย่งให้ข้อมูล หลังจากที่พบข่าวเท็จต่อการมีวัคซีนไม่เพียงพอ ทั้งนี้จากการตรวจสอบผ่านคณะกรรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ทราบว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนแน่นอนจากแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 6 ล้านโดส และซิโนแวค จำนวน 2.5 ล้านโดส ซึ่งรัฐบาลจีนจะส่งมอบวัคซีนดังกล่าวภายในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ดังนั้น รัฐบาลไทยจะมีวัคซีนให้บริการรวม 8.5 ล้านโดสแน่นอน จากนั้นในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน จะมีวัคซีนนำเข้าเดือนละ 10 ล้านโดส และรัฐบาลจะจำเข้ารวม 100 ล้านโดสภายในสิ้นปี ดังนั้นตนขอให้รัฐบาลชี้แจงเพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ
ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศกำลังประสบปัญหาวัคซีน ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลปรับการจัดสรรวัคซีนในเดือนพฤษภาคม โดยให้เกลี่ยการจัดสรรจากจังหวัดที่พบจำนวนการระบาดน้อย หรือไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งพบว่ามีประมาณ 40 จังหวัด มายังพื้นที่ที่พบว่าเป็นคลัสเตอร์ระบาดใหม่ เพื่อนำวัคซีนป้องกันโควิด-19 ฉีดให้กับประชาชนที่วิตกหวาดกลัวกับการระบาดในพื้นที่ นอกจากนี้ ในด้านการให้ข้อมูลความมั่นใจกับประสิทธิภาพของวัคซีน ตนมีข้อมูลของวัคซีนซิโนแวคจากงานวิจัยขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO พบว่า 67% สามารถช่วยผู้ป่วยที่มีอาการได้ 85% ช่วยผู้ป่วยไม่ให้แอดมิด 89% ช่วยผู้ป่วยไม่ต้องเข้าห้องไอซียู และ 80% ช่วยให้ผู้ป่วยไม่เสียชีวิต