คนดังตัวอย่าง! “เบิร์ด ธงไชย” วัคซีนจะดี เมื่ออยู่ในตัวเรา เชิญ “บูลลี่” ผู้นำโลก โทษฐานฉีด “แอสตราเซนเนกา”

นี่สิ! คนดังตัวอย่าง “เบิร์ด ธงไชย” วอนคนไทยช่วยกัน “วัคซีนจะดี เมื่ออยู่ในตัวเรา” อ้าวสามกีบ เชิญ “บูลลี่” ผู้นำโลก โทษฐานแห่ฉีด “แอสตราเซนเนกา” ที่ใช้ในไทย และคนกลัวกันเพราะข่าวปลอม “เพจดัง” แจงชัด คำถามบิดเบือน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(17 พ.ค. 64) เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ร่วมส่งกำลังใจให้ไทยต่อสู้กับวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมชวนคนไทยรวมพลังช่วยชาติสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศด้วยการฉีดวัคซีน เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และให้ทุกคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว

โดย เบิร์ด ธงไชย เปิดเผยว่า “วันนี้เบิร์ดอยากจะมาขอวิงวอนให้พวกเราทุกคนช่วยกันดูแลตัวเอง และโดยเฉพาะที่สุดก็คือ ดูแลคุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของเราที่อยู่ในบ้าน และทุกคนในครอบครัวของเรา ให้ได้วัคซีนเข้าไป ในร่างกาย วัคซีนที่ดีที่สุดในโลกคือวัคซีนที่ได้เข้าไปอยู่ในตัวเราแล้ว และวัคซีนที่ดีที่สุด ก็คือ ใจเรานี่แหละครับ ใจเราที่ห้าวหาญที่จะออกไปฉีด ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าเราทำเพื่อความรัก รักครอบครัวของเราและคนที่เรารัก และรักตัวเราเอง เมื่อประกอบกันหลายๆ คน หลายครอบครัว ประเทศของเราก็จะปลอดภัยครับ

วัคซีนนี้ฉีดเข้าไปแล้วก็เหมือนเราได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ใส่หมวกกันน็อก ขอให้มีความมั่นใจ เมื่อเรามั่นใจแล้ว เมื่อเราฉีดเข้าไปแล้ว เบิร์ดจะบอกให้นะครับว่า ลูกๆ ที่อยู่ไกลคุณพ่อคุณแม่ช่วยจัดการให้ด้วย ช่วยจัดการจองที่หมอพร้อม พี่เบิร์ดก็ยังได้ฉีดแล้วเลยนะครับ ขอให้ทุกคนได้ติดต่อไปที่หมอพร้อม ติดต่อให้คุณพ่อคุณแม่ ผู้ใหญ่ของเรา ถึงแม้จะเข้าคิวกันยาว แต่ก็ยังมีความหวังครับ แค่ให้รู้ว่าเราจะได้วัคซีนวันไหนก็ปลอดภัยแล้วครับ

แล้วเราต้องทำตัวให้เหมือนเดิมนะครับ ก็คือ เราจะต้องดูแลตัวเองให้ดีขึ้นเหมือนเดิม ก็คือ ใส่มาสก์ ล้างมือ ด้วยความปรารถนาดีจากเบิร์ดนะครับ อยากจะเจอกันเร็วๆ อยากจะมีความสุขกันเร็วๆ อยากจะร้องรำทำเพลงกัน เบิร์ดจะทำหน้าที่ของเบิร์ดให้ดีที่สุด อยากให้น้องๆ ลูกๆ หลานๆ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทำให้ตัวเองด้วยนะครับ ไม่ใช่ทำให้พ่อแม่อย่างเดียว เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่รู้ตัวว่าเป็นคนไทย ต้องไปฉีดวัคซีนครับ กราบขอบพระคุณครับ วิงวอนนะครับ” (จากไทยโพสต์)


ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“สืบเนื่องจากกรณีที่ได้มีข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง ปล่อยออกมาเป็นอย่างมากเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่สุดแสนจะอันตรายของ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยได้มีการอ้างว่า วัคซีนนี้ส่งผลให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งทางด้านของกลุ่มผู้ชุมนุม มักหยิบยก สำนักข่าว BBC เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 64 อีกทั้งทางด้านสื่อใหญ่ของประเทศไทย อย่าง “ไทยพีบีเอส” ก็ยังได้ตอกย้ำความน่ากลัวต่อวัคซีน ให้คนไทยเกรงกลัวเข้าไปอีก นั่งก็คือการนำเสนอ “ประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันสายพันธุ์แอฟริกาใต้” โดยทางด้านของ ไทยพีบีเอส ได้อ้างว่า มีการรายงานตัวเลขที่ผิดพลาดหลายจุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเน้นว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ที่ไทยจะใช้เป็นหลักนั้น สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 6% และป้องกันการป่วยหนักได้ 10% ซึ่งเห็นตัวเลขอย่างนี้แล้วน่าตกใจมาก ทำให้เป็นการลดทอนความน่าไว้วางใจของ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และทำให้ประชาชนคนไทยจำนวนมาก ไม่กล้าที่จะเข้าฉีดวัคซีน

หลังจากนั้น ไทยพีบีเอส ก็ได้ทำหนังสือขอโทษตามออกมา ที่ได้ผลิตข่าวที่มีข้อมูลไม่เป็นความจริง แต่ความน่าเชื่อถือของประชาชาที่มีต่อวัคซีนได้ถูกลดทอนลงไปแล้ว


อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 64 นายพรชัย มาระเนตร์ กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคกล้า ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผู้นำระดับโลก ไม่เห็นต้องใช้วัคซีน ที่เค้าว่ากันว่าดีเลย คิดไปเอง เพ้อเจ้อ” พร้อมกับโพสต์ภาพ ที่เรียกได้ว่า ตอกย้ำ สิ่งที่คนไทยกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ การไม่ฉีดวัคซีนโควิด หรือจะรอเพียงแค่วัคซีนจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด อย่างมาก

ทั้งนี้ในเบื้องต้น ผู้นำระดับโลกจำนวนมาก ก็ได้ทำการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ครบทั้ง 2 เข็มแล้ว อาทิเช่น นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน, นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด, นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล, นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ฌ็อง กัสแต็กซ์, นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ช็อง เซ-กยุน และ นายกรัฐมนตรีอิตาลี มารีโอ ดรากี โดยที่ไม่มีใครเกิดปัญหาใดๆ หรือเกรงกลัวการฉีด เป็นการตอกย้ำได้อย่างดีว่า คนไทยควรรับผิดชอบต่อสังคม ในการเข้ารับวัคซีน ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง”
อ่านต่อได้ที่ลิงก์ : https://truthforyou.co/48227/?anm

ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda ของ ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โพสต์ข้อความ ว่า

“เจอคนไข้ถามคำถามเหมือนกันหมด “ฉีดวัคซีนดีไหม?” “ฉีดวัคซีนอะไรดี?” ………เรียบร้อยครับ เรียบร้อยโรงเรียนจีน คุณพ่อผม อายุ 95 ปี มีโรคหัวใจ มีโรคสมอง จัดปายยย Sinovac ไม่ร้องสักคำ”

สำหรับบิดาของ ศ.นพ.นิธิ คือพลตำรวจเอก ณรงค์ มหานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ช่วงปี 2525-2530

ด้านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความระบุว่า

“#ช่วยกันสู้

สังเกตนะครับ ช่วงนี้นักการเมืองที่พยายามให้ร้ายเรื่องการฉีดวัคซีน กลับลำเชิญชวนประชาชนให้มาฉีดวัคซีนกันเป็นแถว

เพราะวิทยาศาสตร์คือวิทยาศาสตร์ ความจริงคือความจริง ไม่ควรนำสงครามเชื้อไวรัส มาเป็นประเด็นทางการเมือง แต่มวลมนุษยชาติ ต้องช่วยกันหาทางสู้

สำหรับวันนี้ถ้าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง แนะนำให้รัฐบาล จัดการอย่างใดอย่างหนึ่งกับกรมราชทัณฑ์”


นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความระบุว่า

“ตอนนี้ ฝ่ายแอนตี้วัคซีน กำลังโจมตีว่า
เอาผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน มารายงานทำไม
ต้องรายงานจาก % ติดเชื้อโควิด เท่านั้น

ตั้งสติก่อนสตึนะ

การฉีดวัคซีน ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ติดเชื้อโควิด
แต่ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันที่สามารถต้านอาการป่วยจากเชื้อโควิดได้
ต่อให้ เชื้อโควิด เข้าร่างกายไป มันก็ทำอะไรไม่ได้มาก

ซิโนแวค &AZ พิสูจน์แล้วว่า ป้องกันการป่วยหนักได้
และช่วยไม่ให้คนต้องตายเพราะโควิด

ดังนั้น ต่อให้ฉีดวัคซีนทุกยี่ห้อ เราก็ยังมีโอกาสติดโควิด
เพียงแค่ มันจะเป็นเชื้อไวรัสที่ร้ายน้อยลง ทำอะไรเราไม่ได้
เพราะร่างกายของเรารู้วิธีที่จะกำจัดมัน
แต่เรายังพาโควิดไปติดคนอื่นได้ จึงต้องใส่แมสก์ต่อไป

รายงานผลกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จึงเป็นเครื่องยืนยันที่ดีว่า
วัคซีนใช้ได้ผลจริงๆ สร้างภูมิคุ้มกันได้จริงๆ
ดังนั้น มึงไปฉีดกันเยอะๆ จบ สวัสดี”

แน่นอน, ถึงตอนนี้น่าจะเป็นการยืนยันได้ในระดับหนึ่งแล้วว่า วัคซีนที่คนไทยกลัว อาจจะด้วยข่าวปล่อยของพวกสามกีบ หรือ เกิดจากความคิดความเชื่อส่วนตัวอยู่แล้ว ว่า วัคซีนอาจมีผลข้างเคียงถึงเสียชีวิต ยิ่งมีข่าวลือออกมามากมาย ก็ยิ่งสร้างความน่ากลัวเข้าไปใหญ่นั้น

ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะวัคซีนยี่ห้อเดียวกับที่คนไทยจะใช้ฉีดเป็นหลักนี่เอง เหล่าผู้นำทั่วโลก เขาก็ฉีดเช่นกัน

และจากโพสต์ของ “เบิร์ด ธงไชย” เห็นได้ชัดเช่นกันว่า วัคซีนที่ดีจะต้องฉีดเข้าไปในร่างกายก่อน แต่ถ้ายังกล้าๆกลัวๆ ไม่ยอมฉีด ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น แถมอาจจะตายก่อน ยิ่งกว่านั้น การฉีดวัคซีน ไม่ใช่ช่วยชีวิตแต่เฉพาะตัวเราเท่านั้น ยังชีวิตคนในครอบครัว คนในสังคมชุมชน ช่วยประเทศ ปลอดโรค ปลอดภัย คนไทยก็จะได้ทำมาหากินได้เป็นปกติสุข

เหนืออื่นใดที่น่าเศร้า ก็คือ ส.ส.บางพรรคที่เที่ยวโจมตีวัคซีนให้คนกลัว ไม่กล้าฉีด แต่ปรากฏว่า พวกเขาชิงฉีดเอาตัวรอดไปนานแล้ว อย่างนี้หรือ ที่อ้างว่ารักประชาชน ทำเพื่อประชาชน?