นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทย ภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า ใครกันแน่ที่นำเชื้อโควิดเข้าเรือนจำ
วันที่ 12 พ.ค. 64 มีรายงานออกมาว่า ทัณฑสถานหญิงกลาง มียอดผู้ติดเชื้อโควิดรวม 1,040 ราย และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,795 ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ
การที่มีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมากเช่นนี้ ถ้านับระยะฟักตัวมาสู่การติดต่อ น่าจะมีการติดเชื้อมาก่อนพอสมควร ไม่ใช่เพิ่งเกิด คำถามที่น่าคิดคือ ใครบ้าง? ที่มีโอกาสนำเชื้อโควิดเข้าเรือนจำ
1.ผู้ต้องหารายใหม่ ตามมาตรฐานที่เรือนจำชี้แจง ต้องแยกกักตัวคนเหล่านี้ 21 วัน และมีการทดสอบโควิดทุกราย ดังนั้นคนกลุ่มนี้น่าจะมีโอกาสน้อย
2.เจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งเข้าออกทุกวัน ก็น่ามีโอกาส แต่เพราะบรรยากาศของการแพร่ระบาด ที่ทุกคนต้องป้องกันตนเอง แม้จะมีโอกาส แต่น่าจะน้อยเช่นกัน
3.ผู้ที่ออกมาขอยื่นประกันตัวที่ศาล ในช่วงที่ผ่านมา เราจะเห็นมีการชุมนุมที่หน้าศาล ชนิดหลายคนไม่ใส่หน้ากาก ไม่มีระยะห่าง ดื่มสุรา ทำลายข้าวของ และมีโอกาสที่จะมีการระบาด ของเชื้อในกลุ่มผู้ชุมนุม
ไม่ต่างจากการที่รุ้ง มาที่หน้าเรือนจำช่วงเย็น วันที่ 11 พ.ค.นี้ ทั้งๆที่ตนเองรอผลตรวจโควิด ที่ผลจะออกมาตอนค่ำ และมาทราบผลตรวจว่าตนเองติดเชื้อตอนค่ำวันนั้น ซึ่งมีโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้มาร่วมชุมนุมคนอื่นแล้ว
ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ ในการชุมนุมแต่ละครั้ง รู้ก็รู้ว่าไม่ควร เพราะโควิดกำลังระบาด แต่ก็ไม่เคยสนใจ จึงง่ายต่อการแพร่ระบาด และคนพวกนี้มักจะมาให้กำลังใจผู้ถูกคุมขัง ขณะเดินทางมาที่ศาล เพื่อยื่นขอประกันตัว จึงเป็นไปได้ไหม ที่ผู้ที่ออกมาที่ศาล จะรับเชื้อไปแพร่ระบาดในเรือนจำ
ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่คนเหล่านี้ต้องร่วมกัน รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ช่วยป้องกันการแพร่ระบาด ในช่วงที่โควิดยังระบาดอยู่ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้น
ท้ายนี้ต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข ที่ปรับแผนการฉีดวัคซีน ด้วยการกระจายอำนาจ ให้ทางจังหวัดจัดการ ใครสะดวกก็ฉีดได้เลย(walk in) ผมเชื่อว่าตามแผนใหม่ที่มีการปรับเรื่องการฉีดวัคซีน น่าจะทำให้ แผนการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั้งประเทศบรรลุผลได้ไม่ยาก