“อนุทิน” เยี่ยม “โรงพยาบาลบุษราคัม” วางเป้าผู้ป่วยเกณฑ์สีเหลืองต้องใกล้หมอ พร้อมปลุก อสม.ลุยชวนคนไทยฉีดวัคซีน ผลักดันค่าตอบแทนพิเศษ เป็นขวัญกำลังใจ
วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย คณะผู้บริหารเดินทางไปตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลบุษราคัม ก่อนให้บริการในที่ 14 พฤษภาคม พร้อมให้กำลังเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล
หลังการตรวจเยี่ยม นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องเตียงผู้ป่วยโควิด 19 สิ่งที่ดีที่สุด คือ ให้ผู้ป่วยแสดงอาการ ต้องอยู่ใกล้แพทย์ พยาบาล นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดโรงพยาบาลบุษราคัม เพื่อเป็นจุดรองรับผู้ป่วยเกณฑ์สีเหลืองมาไว้ใกล้หมอ ขอย้ำว่า ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลสนาม ที่นี่มีระบบการรักษาที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยอาการหนักกว่าเกณฑ์สีเหลือง จะประสานส่งต่อให้โรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่าทันที ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ และการบริการจัดการ จะให้ผู้ป่วยได้อยู่ใกล้บ้านเท่าที่จะทำ
ปัจจุบันนี้ โรงพยาบาลบุษราคัม วางเตียงไว้ประมาณ 1 พันเตียง แต่ด้วยพื้นที่ที่เตรียมไว้ สามารถเพิ่มเตียงได้ถึง 5 พันเตียง มีการระดมทีมแพทย์ มาจากทั่วประเทศ เพื่อมาช่วยกันกู้สถานการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือให้ประชาชนยกการ์ดสูงด้วย หากไม่มีคลัสเตอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้น สถานการณ์จะคลี่คลายใน 3 อาทิตย์
สำหรับอาคารนิมิบุตร ทางกระทรวงสาธารณสุข ใช้เป็นศูนย์แลกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด 19 เพื่อสนับสนุนการทำงานของกรุงเทพมหานคร ในการประสานหาเสียง เพราะไม่ต้องการให้ผู้ป่วยตกค้างอยู่ที่บ้าน ปัจจุบันนี้ มีผู้ป่วยมาครองเตียงมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังเป็นประธานมอบนโยบายแก่ อสม.เรื่องการให้บริการการวัคซีนโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยระบุว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้อง อสม.ทุกท่านที่ได้ช่วยกันเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมการติดเชื้อ ตั้งแต่การระบาดรอบแรก ในวันที่ไม่มีวัคซีนโควิด-19 ซึ่งพี่น้อง อสม.ช่วยคนไทยเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงพบปัจจุบัน การระบาดรอบใหม่ มีความรุนแรง ซึ่งทางคณะผู้บริหาร ยังเชื่อมั่นในความสามารถของนักรบชุดเทาทุกท่านในฐานะฟันเฟืองที่สำคัญ ในการคลี่คลายสถานการณ์การระบาด
ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ทยอยนำเข้าวัคซีนเข้ามาแล้ว จะให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งขอให้พี่น้อง อสม.ทุกท่านรับบริการ ในฐานะผู้ที่ต้องทำงานกับชาวบ้าน ขณะเดียวกัน ยังต้องเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้มารับวัคซีน พร้อมทั้งดูแลผู้รับบริการด้วย ขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขได้จัดหาวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย มาให้บริการแก่ประชาชน
“ผู้บริหารทุกท่านเห็นคุณค่าการทำงานของนักรบชุดเทา เห็นความทุ่มเท เสียสละ ตราบใดที่โควิด-19 ยังระบาด จะมีค่าตอบแทนพิเศษ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน และทางผู้บริหารไม่มีทางลืมผลงานของพวกท่านแน่นอน นอกจากนั้น ขอให้นายแพทย์ สสจ.ทุกท่าน ประสานหาพื้นที่ให้บริการวัคซีน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการฉีดวัคซีน และอำนวยความสะดวกกับประชาชน”