xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์” ซัด “บิ๊กตู่” อำมหิตแบ่งชนชั้นวัคซีนคนรวย-จน ชี้ ปชช.ไม่กลัววัคซีน แต่กลัวซิโนแวค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เสี่ยชู” อัดนายกฯมวยล้มต้มคนดู อำมหิตแบ่งชนชั้นวัคซีน แยกคนรวยจน ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำไม่ต่างประกันสุขภาพ ทำเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก เพราะผลประโยชน์มหาศาล ทั้งที่ ปชช.ต้องการวัคซีนที่มีคุณภาพ ไม่ได้กลัววัคซีน แต่กลัวซิโนแวค

วันนี้ (11 พ.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “มวยวัคซีน” เปรียบเทียบตนเองกำลังพากย์มวย พร้อมระบุชื่อตอนพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม โดยชื่อตอนว่า “นายกฯโดนยำ” อาการไม่ค่อยดี การ์ดตก ก่อนย้อนปัญหาโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนมีการสั่งซื้อวัคซีนมารักษาแต่ไม่มีของ กลายเป็นวัคซีนทิพย์ ประกอบกับการที่โควิดระลอกใหม่กำลังมา จึงจำเป็นต้องซื้อวัคซีนซิโนแวค ที่มีประสิทธิภาพแค่ 50% แถมยังมีเจ้าสัวใหญ่ถือหุ้น แต่ท้ายที่สุดตัวนายกฯเองกลับไม่ยอมฉีด ขอรอวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าแทน

นายชูวิทย์ เผยอีกว่า ช่วงนั้นทุกประเทศล้วนซื้อวัคซีนระดับโลกอย่างไฟเซอร์ และโมเดอร์นา แล้วฉีดเลยทันที ไม่รอแบบไทยที่คิดการณ์ไกลจะให้โรงงานยาผลิตเอง แถมยังคงยืนยันจะใช้แค่ 2 ยี่ห้อ แค่แอสตร้าเซนเนก้า กับ ซิโนแวค พอมาถึงการระบาดระลอก 3 คลัสเตอร์ทองหล่อ ประกอบกับความซื่อบื่อ รัฐบาลไม่ยอมล็อกดาวน์ช่วงสงกรานต์ ส่งผลให้มีผู้ติดโควิดและเสียชีวิตจำนวนมาก แถมยังมีสายพันธุ์ใหม่มาเพิ่ม จนทำให้นายกฯที่อาการโคมาต้องสั่งวัคซีนมาเพิ่ม ตำหนิเป็นผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์ ไม่ฟังเสียงคนอื่น

นายชูวิทย์ เผยต่อว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นายกฯจึงได้สั่งวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม แต่รอบนี้กลับลำระบุว่า อายุเกิน 60 ปี กลับฉีดได้ แถมรณรงค์ให้มาฉีด แต่แท้จริงแล้วประชาชนไม่ได้กลัววัคซีน แค่กลัวยี่ห้อนี้ที่จะนำมาฉีด ต่อมาล่าสุด นายกฯ ยังประกาศอีกจะนำเข้าวัคซีน 150-200 ล้านโดส โดยไม่มีแผนการรองรับว่าจะฉีดกันยังไง และยังมี ส.ส.ที่หาประโยชน์โดยการขึ้นป้ายหาคะแนนให้ตัวเองอีก

นายชูวิทย์ เผยต่อว่า ถ้าให้วิเคราะห์เชื่อว่าจะแบ่งเกณฑ์ให้ยุ่งยากตามสไตล์ราชการไทยว่า วัคซีนมี 2 ประเภท คือ วัคซีนที่รัฐจัดให้ 2 ยี่ห้อ กับ วัคซีนทางเลือก ที่นอกเหนือจากของรัฐ เอกชนซื้อได้ แต่ต้องซื้อผ่านรัฐเท่านั้น ทำให้ราคาแพงแน่นอน เพราะมีทั้งค่าภาษี ค่าดำเนินการ รวมถึงใต้โต๊ะ เงินทอน และนี้คือเป็นสาเหตุที่รัฐยังไม่ตัดสินใจว่าวัคซีนไฟเซอร์ จะอยู่ในประเภทใด ทั้งที่ประชาชนเฝ้ารอวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดีกว่า และคนจนไม่มีสิทธิ์เลือกจะฉีดของที่รัฐจัดให้ เปรียบเปรยเป็นวัคซีนคนจน กับ คนรวย แสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำแทรกซึมไปถึงเรื่องวัคซีน ไม่ต่างจากประกันสุขภาพ ทำเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก เพราะผลประโยชน์มหาศาลวงการยาและการเมือง

นายชูวิทย์ ยังทิ้งท้ายว่า เป็นการอำมหิตเกินไปที่แบ่งชนชั้นการใช้วัคซีนกับประชาชน พร้อมแนะนำว่ายอมให้ฉีดวัคซีนไปถึงแม้จะเป็นของห่วย ก็ดีกว่าไม่ได้ฉีด แต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่า “เป็นมวยล้มต้มคนดู”


กำลังโหลดความคิดเห็น