ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อัดศูนย์โควิด กทม.ของนายกฯ ล้มเหลว หลังตัวเลขผู้ป่วยยังพุ่งสูงไม่หยุด เหตุใช้ยุทธศาสตร์รวบอำนาจ ใช้ทหารนำแพทย์ ดักคอต้องรับผิดชอบผู้เดียว ห้ามมึนโยนความผิดให้ ปชช. แนะกระจายอำนาจเป็นทางรอด หากไม่เปลี่ยนแปลงระบาดรอบ 4-5 แน่ พร้อมกังขา ป้ายวัคซีนคลองเตย “ประยุทธ์- อัศวิน คลอยเตย” ชี้หยุดหาประโยชน์ทางการเมืองช่วงวิกฤต
วันนี้ (10 พ.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลยังมีความน่าเป็นห่วงมากว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และ บริหารแบบซิงเกิลคอมมานด์มาร่วมปีกว่าแล้ว และต่อมาทราบว่ามีการระบาดในสถานบันเทิงทองหล่อในปลายเดือน มี.ค. แต่ยังปล่อยให้คนกลับภูมิลำเนาในช่วงสงกรานต์ และภายหลังประชาชนเดินทางกลับเข้ามาระบาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล กระทั่งนายกฯ รวบอำนาจกฎหมาย 31 ฉบับจากรัฐมนตรี และตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่นายกฯ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ แต่บัดนี้สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลยังไม่ดีขึ้น โดยตัวเลขในแต่ละวันมากเป็น 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดจากทั่วประเทศ แตกต่างจากต่างจังหวัดที่ตัวเลขผู้ป่วยลดลงเนื่องจากมีการกระจายอำนาจให้แต่ละจังหวัดจัดการกันเอง มีผู้ว่าฯ และ สสจ.ผ่านระดับอำเภอ ตำบล และมี อสม.ที่มีความเข้มแข็ง ซึ่งแตกต่างจากกรุงเทพฯ ไม่มีกลไกทำงานเพราะมีการรวบอำนาจเอาไว้
“ในพื้นที่กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ได้ตั้งศูนย์ฯ ขึ้นมาดำเนินการรูปแบบเดิม และมอบอำนาจให้ฝ่ายความมั่นคงที่เป็นทหาร ไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องสุขภาพ ที่ควรเป็นแพทย์เข้ามาจัดการ ถือเป็นยุทธศาตร์ที่ผิดพลาด และซ้ำซ้อน โดยให้นายกฯ เป็นผู้สั่งการเหมือน ศบค.ชุดใหญ่ ที่วันนี้ผมมองว่ายิ่งรวบอำนาจจะยิ่งแย่ไปเรื่อยๆ ดังนั้นความผิดพลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ นายกฯ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ จะทำมึน และโยนความผิดพลาดให้ผู้อื่น และพี่น้องประชาชนอีกไม่ได้แล้ว”
นพ.ชลน่านกล่าว และว่า การแก้ปัญหาในพื้นที่กรุงเทพฯ ต้องมีนโยบายที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความสับสน และใช้กลไกผู้ปฏิบัติในพื้นที่ระดมทุกฝ่ายเข้ามาร่วมแก้ปัญหา ตรวจเชื้อเชิงรุก ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมดูแลรักษาให้ทันท่วงที และที่สำคัญ ควรให้ข้อมูลต่างๆ ที่ชัดเจนและถูกต้อง แต่หากนายกฯ ยังใช้ฝ่ายความมั่นคงเป็นตัวนำ จะทำให้เกิดการระบาดรอบ 4 และ 5 อย่างแน่นอน เพราะแม้กระทั่งช่วงวิกฤตประเทศยังแสวงหาโอกาสทางการเมือง อย่างเช่นที่พื้นที่เขตคลองเตยยังมีการนำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. และที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.นำขึ้นป้ายเพื่อหวังผลทางการเมือง จึงขอเรียกร้องให้หยุดทำพฤติกรรมเหล่านี้