นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า
"ไชโย! นายกฯ ตื่นแล้ว!
เอาล่ะว้า ! รัฐบาลเพิ่งสะลึมสะลือตื่น หลังจากงัวเงียเมาขี้ตาข้ามปี เมื่อปีก่อนยังบอกเสียงดังฟังทะลุแก้วหูชาวบ้านว่า วัคซีนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยืนกรานหัวชนฝาจะใช้วัคซีนอยู่แค่ 2 ยี่ห้อ จนมาถึงวันนี้ต้านทานความจริงไม่ไหว
ในเมื่อประเทศอื่นทั่วโลกเอา "วัคซีน" เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อสุขภาพของประชาชน แต่รัฐบาลไทยมะงุมมะงาหรา เงื้อง่าราคาแพงแสนแพงกับเดิมพันของคนไทยทั้งชาติ
ณ นาทีนี้ กลับคาถาท่อง "นะโมวัคซีน พุทโธวัคซีน" ปรับแนวความคิดใหม่ เร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยเร็วที่สุด พร้อมเจรจาสารพัดยี่ห้อวัคซีนอื่นๆ นอกเหนือจาก 7 วัคซีนที่บอกกราบก็ยอมให้รีบจัดส่งให้ไทยหน่อย
นอกจากนั้น นายกฯ บิ๊กตู่ยังละเมอเอาเรื่องเก่าที่คนไทยเตือนกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า นำกลับมาเตือนกระทุ้งคนไทยกลับเสียอีกว่า เราต้องสะสมวัคซีนให้มากที่สุด เกินจำนวนประชากรที่ประเทศไทยมีอยู่ เพื่อใช้ในอนาคตสำหรับฉีดเข็มที่ 3 เผื่อไวรัสกลายพันธุ์ หรือล่าช้าในการจัดส่งวัคซีน พร้อมจะทำงานเชิงรุก เพราะทั่วโลกแย่งวัคซีนกันอยู่ ทำให้การสั่งซื้อวัคซีนเป็นเรื่องยากลำบาก
โถ โถ ท่านเจ้าประคุณ!
เรื่องอย่างนี้ โลกทั้งโลกรู้มานานแล้ว ได้ตระเตรียมการวางแผนล่วงหน้า แต่รัฐบาลของท่านนายกฯ ประเทศไทย เพิ่งตื่นมารู้เอาตอนนี้ ไม่ทราบว่าท่านหายไปอยู่โลกไหนมา?
เมื่อประเทศอื่นๆ ได้วางแผนโครงการฉีดวัคซีน เปิดหน้ากาก เปิดประเทศ เศรษฐกิจกลับมาเหมือนเดิม ร้านรวงเปิดตามปกติ เฮฮาจัดคอนเสิร์ตกันครื้นเครงบรรเลงไม่ยั้ง แต่กับรัฐบาลไทยที่ไร้วิสัยทัศน์วางแผนล่วงหน้า ทั้งที่มีคณะยุทธศาสตร์สารพัด ที่ปรึกษายาวเหยียดกว่าหางว่าว อีกรัฐมนตรี ส.ส. ฟากฝั่งรัฐบาลเต็มบันไดทำเนียบและสภาชูหน้าสลอน
ทำได้แค่โครงการเยียวยาหาเสียงไปเรื่อยเปื่อย เอาการเมืองนำวิกฤตของชาติ ไม่ว่า "เรารักกัน" (แต่คนในประเทศทะเลาะประท้วงวอดวายปายป่วง ไม่ทราบว่าเราจะรักกันตรงไหน?) "เราชนะ" (จะมีปัญญาไปชนะกับใคร เมื่อวัคซีนไม่มา แถมหวาดกลัวไวรัสโควิด บ้างนอนรอความตาย รอเตียงโรงพยาบาล หากชนะคงมีแต่รัฐบาลที่ชนะทุกเรื่อง) "คนละครึ่ง" (รัฐจ่ายครึ่ง ชาวบ้านจ่ายครึ่ง โครงการดีแต่ทำผิดเวลา เพราะแทนที่จะไปทุ่มเทเรื่องวัคซีนโควิด หากมาทันเวลา ไม่มีคลัสเตอร์ แพร่ระบาด ชาวบ้านสุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี เศรษฐกิจการค้าก็ดีอยู่แล้ว) "เราเที่ยวด้วยกัน" (ชาวบ้านที่ไหนมีปัญญาหาเรื่องเที่ยวก็บ้าไปแล้ว ตอนนี้แค่หาข้าวสารกรอกหม้อ จ่ายค่าเทอม ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนบัตรก็อ้วกแล้ว)
ส่วนโครงการล่าสุดของรัฐบาล "ยิ่งใช้ ยิ่งได้"
ชะช้า! ยุให้คนปลิ้นกระเป๋าเอาเงินมาใช้ ทั้งๆ ที่เป็นช่วงต้องประหยัดมัธยัสถ์ เก็บออมไว้กับอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าลูกผีลูกคน หากยิ่งใช้ ยิ่งหมด จะไปเอาเงินที่ไหนใช้ครับพระคุณท่าน
ขอย้ำ แนะนำรัฐเร่งรัดเรื่องวัคซีนเอาให้รอดก่อน หยุดโครงการ "กระตุก" รำเซิ้งทุกชนิด แล้วทบทวนเรื่องที่รัฐบาลผิดพลาดในอดีตมาแก้ไข ใช้ชื่อโครงการที่ทุกคนในประเทศไทยไม่ว่ารวยจนทุกชนชั้นต้องการ คือ โครงการ "ฉีดวัคซีนถ้วนหน้า" อย่างที่ทุกประเทศทั่วโลกเขาทำกัน หยุดโครงการไร้สาระอื่นๆ ไว้ก่อน ไม่ว่า "ช็อป ชิม ใช้ เที่ยว" เอาเรื่อง "วัคซีน" เรื่องเดียว รัฐบาลก็ปวดกระบาลแล้วครับ
หากท่านนายกฯ บิ๊กตู่ทำได้สำเร็จ สาธุชนคนไทยจะเยินยอยกย่อง ไม่ต้องให้ชาวบ้านไล่สวดทุกเช้าเย็น จนถึงขนาดปิดคอมเมนท์เสียเลย แล้วหากเรียบร้อยเสร็จสมอารมณ์หมาย ช่วยคนไทยรอดวิกฤตได้ รบกวนสำเร็จโทษพวกลิ่วล้อปากหมา โละรัฐมนตรีที่เอาแต่หาเสียงหวงพื้นที่ งานการไม่ทำ และบรรดาที่ปรึกษาเก๊ที่เพิ่งโดนไล่ออก เพราะแม้แต่เรียนหนังสือเองยังทำไม่เป็น พวกนี้หาใครมีกึ๋นจริงสะกิดเอวท่านในเรื่องวัคซีนโควิดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่หลงทางไปไกลจนป่านนี้ หรือหากท่านใจถึงพอ ยุบสภาให้พรรคที่ "หน้าไหว้ หลังหลอก" ได้สดุ้งสะเทือนซาง
แต่หากท่านทำไม่สำเร็จ คงไม่ต้องให้ชาวบ้านมาลำบากลำบนไล่ประท้วงท่าน ช่วยลาออกอย่างชายชาติทหาร นั่งกินบำเหน็จบำนาญที่บ้าน ปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมา สบายใจเฉิบ แล้วให้คนอื่นเขาทำบ้างเถอะครับ อย่าเหมาไปทำเองหมดคนเดียวเสียทุกเรื่อง เพราะบ้านเมืองนี้ ไม่ใช่ของท่านเพียงคนเดียว"
"ไชโย! นายกฯ ตื่นแล้ว!
เอาล่ะว้า ! รัฐบาลเพิ่งสะลึมสะลือตื่น หลังจากงัวเงียเมาขี้ตาข้ามปี เมื่อปีก่อนยังบอกเสียงดังฟังทะลุแก้วหูชาวบ้านว่า วัคซีนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยืนกรานหัวชนฝาจะใช้วัคซีนอยู่แค่ 2 ยี่ห้อ จนมาถึงวันนี้ต้านทานความจริงไม่ไหว
ในเมื่อประเทศอื่นทั่วโลกเอา "วัคซีน" เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อสุขภาพของประชาชน แต่รัฐบาลไทยมะงุมมะงาหรา เงื้อง่าราคาแพงแสนแพงกับเดิมพันของคนไทยทั้งชาติ
ณ นาทีนี้ กลับคาถาท่อง "นะโมวัคซีน พุทโธวัคซีน" ปรับแนวความคิดใหม่ เร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยเร็วที่สุด พร้อมเจรจาสารพัดยี่ห้อวัคซีนอื่นๆ นอกเหนือจาก 7 วัคซีนที่บอกกราบก็ยอมให้รีบจัดส่งให้ไทยหน่อย
นอกจากนั้น นายกฯ บิ๊กตู่ยังละเมอเอาเรื่องเก่าที่คนไทยเตือนกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า นำกลับมาเตือนกระทุ้งคนไทยกลับเสียอีกว่า เราต้องสะสมวัคซีนให้มากที่สุด เกินจำนวนประชากรที่ประเทศไทยมีอยู่ เพื่อใช้ในอนาคตสำหรับฉีดเข็มที่ 3 เผื่อไวรัสกลายพันธุ์ หรือล่าช้าในการจัดส่งวัคซีน พร้อมจะทำงานเชิงรุก เพราะทั่วโลกแย่งวัคซีนกันอยู่ ทำให้การสั่งซื้อวัคซีนเป็นเรื่องยากลำบาก
โถ โถ ท่านเจ้าประคุณ!
เรื่องอย่างนี้ โลกทั้งโลกรู้มานานแล้ว ได้ตระเตรียมการวางแผนล่วงหน้า แต่รัฐบาลของท่านนายกฯ ประเทศไทย เพิ่งตื่นมารู้เอาตอนนี้ ไม่ทราบว่าท่านหายไปอยู่โลกไหนมา?
เมื่อประเทศอื่นๆ ได้วางแผนโครงการฉีดวัคซีน เปิดหน้ากาก เปิดประเทศ เศรษฐกิจกลับมาเหมือนเดิม ร้านรวงเปิดตามปกติ เฮฮาจัดคอนเสิร์ตกันครื้นเครงบรรเลงไม่ยั้ง แต่กับรัฐบาลไทยที่ไร้วิสัยทัศน์วางแผนล่วงหน้า ทั้งที่มีคณะยุทธศาสตร์สารพัด ที่ปรึกษายาวเหยียดกว่าหางว่าว อีกรัฐมนตรี ส.ส. ฟากฝั่งรัฐบาลเต็มบันไดทำเนียบและสภาชูหน้าสลอน
ทำได้แค่โครงการเยียวยาหาเสียงไปเรื่อยเปื่อย เอาการเมืองนำวิกฤตของชาติ ไม่ว่า "เรารักกัน" (แต่คนในประเทศทะเลาะประท้วงวอดวายปายป่วง ไม่ทราบว่าเราจะรักกันตรงไหน?) "เราชนะ" (จะมีปัญญาไปชนะกับใคร เมื่อวัคซีนไม่มา แถมหวาดกลัวไวรัสโควิด บ้างนอนรอความตาย รอเตียงโรงพยาบาล หากชนะคงมีแต่รัฐบาลที่ชนะทุกเรื่อง) "คนละครึ่ง" (รัฐจ่ายครึ่ง ชาวบ้านจ่ายครึ่ง โครงการดีแต่ทำผิดเวลา เพราะแทนที่จะไปทุ่มเทเรื่องวัคซีนโควิด หากมาทันเวลา ไม่มีคลัสเตอร์ แพร่ระบาด ชาวบ้านสุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี เศรษฐกิจการค้าก็ดีอยู่แล้ว) "เราเที่ยวด้วยกัน" (ชาวบ้านที่ไหนมีปัญญาหาเรื่องเที่ยวก็บ้าไปแล้ว ตอนนี้แค่หาข้าวสารกรอกหม้อ จ่ายค่าเทอม ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนบัตรก็อ้วกแล้ว)
ส่วนโครงการล่าสุดของรัฐบาล "ยิ่งใช้ ยิ่งได้"
ชะช้า! ยุให้คนปลิ้นกระเป๋าเอาเงินมาใช้ ทั้งๆ ที่เป็นช่วงต้องประหยัดมัธยัสถ์ เก็บออมไว้กับอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าลูกผีลูกคน หากยิ่งใช้ ยิ่งหมด จะไปเอาเงินที่ไหนใช้ครับพระคุณท่าน
ขอย้ำ แนะนำรัฐเร่งรัดเรื่องวัคซีนเอาให้รอดก่อน หยุดโครงการ "กระตุก" รำเซิ้งทุกชนิด แล้วทบทวนเรื่องที่รัฐบาลผิดพลาดในอดีตมาแก้ไข ใช้ชื่อโครงการที่ทุกคนในประเทศไทยไม่ว่ารวยจนทุกชนชั้นต้องการ คือ โครงการ "ฉีดวัคซีนถ้วนหน้า" อย่างที่ทุกประเทศทั่วโลกเขาทำกัน หยุดโครงการไร้สาระอื่นๆ ไว้ก่อน ไม่ว่า "ช็อป ชิม ใช้ เที่ยว" เอาเรื่อง "วัคซีน" เรื่องเดียว รัฐบาลก็ปวดกระบาลแล้วครับ
หากท่านนายกฯ บิ๊กตู่ทำได้สำเร็จ สาธุชนคนไทยจะเยินยอยกย่อง ไม่ต้องให้ชาวบ้านไล่สวดทุกเช้าเย็น จนถึงขนาดปิดคอมเมนท์เสียเลย แล้วหากเรียบร้อยเสร็จสมอารมณ์หมาย ช่วยคนไทยรอดวิกฤตได้ รบกวนสำเร็จโทษพวกลิ่วล้อปากหมา โละรัฐมนตรีที่เอาแต่หาเสียงหวงพื้นที่ งานการไม่ทำ และบรรดาที่ปรึกษาเก๊ที่เพิ่งโดนไล่ออก เพราะแม้แต่เรียนหนังสือเองยังทำไม่เป็น พวกนี้หาใครมีกึ๋นจริงสะกิดเอวท่านในเรื่องวัคซีนโควิดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่หลงทางไปไกลจนป่านนี้ หรือหากท่านใจถึงพอ ยุบสภาให้พรรคที่ "หน้าไหว้ หลังหลอก" ได้สดุ้งสะเทือนซาง
แต่หากท่านทำไม่สำเร็จ คงไม่ต้องให้ชาวบ้านมาลำบากลำบนไล่ประท้วงท่าน ช่วยลาออกอย่างชายชาติทหาร นั่งกินบำเหน็จบำนาญที่บ้าน ปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมา สบายใจเฉิบ แล้วให้คนอื่นเขาทำบ้างเถอะครับ อย่าเหมาไปทำเองหมดคนเดียวเสียทุกเรื่อง เพราะบ้านเมืองนี้ ไม่ใช่ของท่านเพียงคนเดียว"