เยอรมนีจะอนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้ากับวัยผู้ใหญ่ทุกช่วงอายุ และมีเป้าหมายฉีดวัคซีนแก่เด็กอายุระหว่าง 12-18 ปี ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม ในขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังหาทางเร่งรัดโครงการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน จากการเปิดเผยของ เยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขในวันพฤหัสบดี (6 พ.ค.)
รัฐมนตรีสาธารณสุขทั้ง 16 รัฐของเยอรมนี เห็นพ้องกับ สปาห์น สำหรับกลับลำการตัดสินใจก่อนหน้านี้ที่จำกัดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า โดยใช้เฉพาะกับบุคคลสูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ สปาห์น ยังเผยด้วยว่าจะมีการปรับลดความห่างระหว่างการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าโดสแรกกับโดสที่สองให้สั้นลง จากปัจจุบันอยู่ที่ 12 สัปดาห์
“ทั้งสองมาตรการกำหนดขึ้นเพื่อเร่งโครงการฉีดวัคซีนของเราโดยรวม” สปาห์นกล่าว หลังจากเบื้องต้นด้วยปัญหาขาดแคลนอุปทานและอุปสรรคของระบบราชการ ทำให้เยอรมนี ชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดของยุโรป เริ่มยุทธศาสตร์ฉีดวัคซีนประชาชนอย่างล่าช้า
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ ซึ่งนำมาใช้แล้วในหลายรัฐของเยอรมนี จะอยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจ แพทย์ประจำครอบครัวจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าอะไรคือแนวทางที่ดีที่สุดของการฉีดวัคซีน
หลายสิบประเทศระงับใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในเดือนมีนาคม หรือจำกัดการใช้เฉพาะกับคนชรา หลังมีรายงานพบเคสอาการลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นน้อยมากแต่รุนแรง ในบรรดาผู้ที่เข้ารับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า อย่างไรก็ตาม เวลานี้หลายชาติกลับมาใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าอย่างเต็มรูปแบบหรือภายใต้ข้อจำกัด หลังคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบยืนยันว่าประโยชน์ของมันมีมากกว่าความเสี่ยงใดๆ
สปาห์นบอกด้วยว่า เยอรมนีมีเป้าหมายฉีดวัคซีนแก่เยาวชนอายุระหว่าง 12-18 ปี ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม ถ้าคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของยุโรปอนุมติใช้วัคซีนของไบโอเอ็นเทค/ไฟเซอร์ กับคนกลุ่มอายุดังกล่าว
จากข้อมูลของสถาบันโรเบิร์ต คอช พบว่า จนถึงตอนนี้มีประชากรเยอรมนี ราว 30.6% จากทั้งหมด 83 ล้านคน ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้ว และ 8.6% ฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 โดส
เยอรมนีมีกำหนดผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆในช่วงสุดสัปดาห์นี้ สำหรับบุคคลที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้วหรือหายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยพวกเขาจะได้รับการยกเว้นจากเคอร์ฟิวยามค่ำคืน และไม่จำเป็นต้องแสดงผลตรวจเป็นลบก่อนออกไปชอปปิ้ง
แม้เยอรมนีกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอก 3 ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ค่อยๆ ชะลอตัวลง โดยค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รอบ 7 วัน ลดลงสู่ระดับ 129 คนต่อประชากร 100,000 คนในวันพฤหัสบดี (6 พ.ค.)
(ที่มา: รอยเตอร์)