เมืองไทย 360 องศา
ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเลื่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 จากเดิมกำหนดเอาไว้วันที่ 20 เม.ย.ออกไปอย่างไม่มีกำหนด อย่างไรก็ดี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการประสานพื้นที่เขตเลือกตั้ง โดยเอกสารส่วนสำคัญ มีเนื้อหาระบุเป้าหมายที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งต่อไป ครบทั้ง 350 เขต จึงมีความสำคัญต่อการที่พรรคจะพิจารณาส่งผู้สมัคร ส.ส.
จึงสมควรที่พรรคต้องให้ความสำคัญในการดูแลพื้นที่และฐานเสียงของพรรคอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างพรรค ส.ส. ผู้สมัครของพรรคกับประชาชน จึงสมควรที่จะให้มีคณะกรรมการมารับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ดำเนินการเป็นคณะในแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน และให้มีกรอบภารกิจสำคัญในหลายประการ โดยเฉพาะภารกิจการสำรวจเพื่อหาผู้เหมาะสมมาเป็นตัวแทนของพรรคในระดับต่างๆ อีกทั้งคณะดังกล่าวจะเข้ามาดูแลและพัฒนาพื้นที่เขตเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ
โดยแต่งตั้ง คณะกรรมการประสานพื้นที่เขตเลือกตั้ง โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
1. โซนเหนือบน ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน พะเยา และแม่ฮ่องสอน มีนายสมพงษ์ เป็นประธาน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญกุล เป็นรองประธาน นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ นายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นที่ปรึกษา นายสงวน พงษ์มณี เป็นเลขานุการ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
2. โซนเหนือล่าง ประกอบด้วย จ.นครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ และตาก มี นส.กฤษณา สีหลักษณ์ เป็นประธาน นายนิยม ช่างพินิจ เป็นรองประธาน นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นที่ปรึกษา นายทายาท เกียรติชูศักดิ์ เป็นเลขานุการ
3. โซนอีสานเหนือ ประกอบด้วย จ.อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร มีนายไชยา พรหมา เป็นประธาน นายเอกธนัช อินทร์รอด เป็นรองประธาน นางมนพร เจริญศรี เป็นเลขานุการ
4. โซนอีสานกลาง ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม มีนายศักดา คงเพชร เป็นประธาน นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ เป็นที่ปรึกษา นางมุกดา พงษ์สมบัติ เป็นเลขานุการ
5. โซนอีสานใต้ (1) ประกอบด้วย ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี มีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นประธาน นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นที่ปรึกษา
6. โซนอีสานใต้ (2) นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นประธาน นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ เป็นที่ปรึกษา นายคุณากร ปรีชาชนะชัย เป็นเลขานุการ
ในภาค กทม.มีการแบ่งแยกโซน ตามความรับผิดชอบ โซน กทม. 1 ประกอบด้วย เขตพระนคร ป้อมปราบ สัมพันธวงศ์ ดุสิต ปทุมวัน บางรัก สาทร บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย วัฒนา มีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นประธาน นายกิตติ ลิ่มสกุล เป็นที่ปรึกษา
โซน กทม. 2 เขตดินแดง ห้วยขวาง พญาไท ราชเทวี จตุจักร บางซื่อ ดุสิต หลักสี่ จตุจักร ลาดพร้าว วังทองหลาง มีนางพวงเพ็ชร์ ชุณละเอียด เป็นประธาน นายสุธรรม แสงประทุม เป็นที่ปรึกษา นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เป็นเลขานุการ
โซน กทม. 3 ดอนเมือง สายไหม บางเขน บึงกุ่ม คันนายาว มีนบุรี บางกะปิ วังทองหลาง มีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ เป็นประธาน นายอนุสรณ์ ปั้นทอง เป็นรองประธาน
โซน กทม. 4 คลองสามวา หนองจอก ลาดกระบัง สะพานสูง ประเวศ สวนหลวง บางนา พระโขนง มีนายพิชัย นริพทะพันธ์ เป็นประธาน นายนพดล ปัทมะ เป็นที่ปรึกษา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช เป็นเลขานุการ
โซน กทม 5. เขตคลองสาน บางกอกใหญ่ ธนบุรี จอมทอง ธนบุรี ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ บางขุนเทียน มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธาน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นที่ปรึกษา น.ส.กมลพัฒน์ ปุงบางกะดี เป็นเลขานุการ
โซน กทม. 6 บางบอน หนองแขม ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน บางแค ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เป็นเลขานุการ
ภายใต้คำสั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเตรียมรับสถานการณ์การเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป ทำให้ได้เห็นภาพภายในพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ และในอนาคตข้างหน้าได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะได้เห็นถึงความแตกแยก รวมไปถึงได้เห็นถึงสภาพ “เลือดไหล” ของพรรคนี้ หลังจากการแยกตัวออกมาของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์ของพรรค มาตั้งพรรค “ไทยสร้างไทย” หรือพรรค “สร้างไทย”
เพราะเมื่อพิจารณาจากรายชื่อในกลุ่มคณะกรรมการดังกล่าว เห็นได้ชัดเจนว่า ไม่มีชื่อ ส.ส.ในกลุ่มของ คุณหญิงสุดารัตน์ ที่เห็นได้ชัด ก็คือ ในภาค กทม. ที่ไม่มีชื่อของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค ที่ถือว่าเป็นคนใกล้ชิดของคุณหญิงสุดารัตน์ แม้แต่ทีมเดียว รวมไปถึงระดับ ส.ส.กรุงเทพฯ ที่ระยะหลังเงียบหายไปเลย เช่น นายการุณ โหสกุล ส.ส.ย่านดอนเมือง รวมไปถึง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 16 ในย่านคลองสามวา ปัจจุบันเป็นรองเลขาธิการพรรค แต่กลับไม่มีชื่อในคณะกรรมการในโซน กทม. 4 ที่มี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นประธาน นายนพดล ปัทมะ เป็นที่ปรึกษา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช เป็นเลขานุการ
ขณะที่ในฟากฝั่งธนบุรี ก็ได้เห็นการขยายบทบาทของ “เหลิมบางบอน” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่รุกคืบกินพื้นที่เข้ามาถึงโซน กทม. 5 เขตคลองสาน บางกอกใหญ่ ธนบุรี จอมทอง ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ บางขุนเทียน ที่แม้ว่าจะมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธาน แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เป็นที่ปรึกษา
นอกเหนือจากในโซน กทม. 6 บางบอน หนองแขม ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน บางแค ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน ถือว่าคุมเบ็ดเสร็จ เป็นเขตอิทธิพลเดิมของตัวเองอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน เมื่อ “สุดารัตน์” ออกไป มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วว่า “เหลิม” ต้องมาแทน ซึ่งแบ็กกราวนด์ของทั้งคู่ในวงการต่างรับรู้กันดีไม่ต้องสาธยายกันมาก และคงไม่ต้องแปลกใจที่คราวนี้ “เหลิมคุมฝั่งธนฯเบ็ดเสร็จ”
แม้ว่าการเลือกตั้งจะไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ แต่งานนี้สำหรับพรรคเพื่อไทยในกลุ่มของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ต้องรีบ “จัดแถว” เค้นคอถามกันให้แน่ใจว่า “อยู่หรือไป” กันแน่ แต่เอาเป็นว่า นาทีนี้เมื่อ “สุดารัตน์” ไป “เหลิม” ก็เข้ามาสวมแทน ปักหลักให้มั่นคงเสียก่อน อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะรีบเช็กชื่อกันตั้งแต่ไก่โห่ แต่ไม่ได้หมายความว่า “เลือดจะหยุดไหล” เพราะหากไหล น่าจะไหลไปทางพรรคอื่น โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาล !!