เลือกอะไร ชีวิตยืนยาว-พ่อแม่ครอบครัว กับ เซ่นสังเวยบูชาอุดมการณ์ด้วยชีวิต? “จอมไฟเย็น” ซัด “ศักดิ์เจียม” แนะ “กวิ้น” เลิกอดข้าวเท่ากับให้ทรยศอุดมการณ์ “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” จวก โหดอำมหิตหวังให้ตาย-โหนศพประท้วง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (15 เม.ย. 64) หลังจากเฟซบุ๊ก นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล โพสต์ข้อความแนะนำให้ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน เลิกอดอาหาร ตอนนี้เข้าขีดอันตรายแล้ว
เฟซบุ๊ก จอมไฟเย็น ปฏิกษัตริย์นิยมของ นายนิธิวัต วรรณศิริ หรือ สหายจอม สมาชิกวงไฟเย็น ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ซึ่งลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“นั่นล่ะครับที่มาของฉายา "ศาสดาลัทธิโทษเหยื่อ" ที่ผมตั้งให้สมศักดิ์
ถ้าสมมติผมเป็นฝ่าย...ที่ไม่ได้ห่วงอะไรชีวิตเพนกวิน มากไปกว่าห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองที่ไม่อยากตกเป็นจำเลยสังคม และพยายามทุกวิถีทางให้เพนกวินเลิกอดอาหารประท้วงสิทธิประกันตัวด้วยลมหายใจ (ตามที่เขาประกาศสัจจะในการพลีชีพไปแล้ว) ผมคงจะเอาข้อความสมศักดิ์มาใช้เป็นไม้ตายในการใช้หยุดเสียง "ตะโกนร้องด้วยลมหายใจ" ของเพนกวินเขาลงเสีย
ถ้าสมศักดิ์ ยังมีแรงจะสื่อสารกดดันทางจิตใจต่อใครให้ล้มเลิกการกระทำของตนอยู่ โปรดใช้แรงนั้นกดดันผู้กดขี่แทนกดดันเหยื่อดีกว่าไหม ถึงจะมาในรูป “ความหวังดี” ก็ตาม แต่มันเหมือนบอกให้ทรยศต่อสัจจะและอุดมการณ์ประกาศของตนเองลงเสียเพื่อรักษาชีวิตยืนยาว
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “ราษฎร” โพสต์ถึงความเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” หยุดการอดข้าวประท้วง ระบุว่า
“ด่วน! วันนี้ต้องการจดหมาย 112 ฉบับ ขอให้เพนกวิน-รุ้ง เลิกอดอาหาร 30 วันมาแล้วที่ “เพนกวิน” อดอาหารประท้วงความอยุติธรรม และ 16 วันมาแล้วที่ “รุ้ง ปนัสยา” อดอาหารประท้วงความอยุติธรรมเป็นเพื่อนเพนกวิน”
“แม้ว่าเราทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของทั้งเพนกวินและรุ้ง แต่ก็ต้องการมีพวกเขาร่วมทางเคียงบ่าเคียงไหล่บนเส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไปด้วยกัน หลายวันมานี้มวลชนจำนวนมากออกมาช่วยกันส่งเสียงเรียกร้องให้พวกเขายุติการอดอาหาร รักษาชีวิตไว้ แม้ความยุติธรรมยังมาไม่ถึง แต่ระหว่างช่วงวันหยุดเทศกาล เสียงเหล่านั้น ยังไปไม่ถึงคนในเรือนจำ
“คณะราษมัม กลุ่มแม่และครอบครัวของผู้ถูกคุมขัง จึงเสนอวิธีการให้ใครก็ตามที่เห็นด้วยกับการยุติการอดอาหาร ร่วมกันพิมพ์ข้อความในช่องคอมเมนต์ หรือส่งภาพจดหมายเขียนจดหมายด้วยลายมือมาในคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้ ทีมงานจะรวบรวมจดหมายให้ได้มากที่สุดภายใน 1 วัน เบื้องต้นตั้งเป้าให้ถึง 112 ฉบับ เพื่อส่งต่อให้ทนายมอบให้ถึงมือเพนกวินและรุ้ง ในวันที่ 16 เมษายน 2564”
ด้าน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“จิตใจอย่าเหี้ยม” การอดอาหารประท้วงของเพนกวินที่อยู่ในเรือนจำ หนักหรือไม่หนักแค่ไหน ไม่มีใครรู้ แต่น่าตกใจ แทนที่มวลมิตรจะช่วยกันห้ามปรามให้เลิกอดอาหารเหมือนอย่างจานเจียมที่บอกให้เพนกวินเลิกเหอะ แต่นักเคลื่อนไหวที่อยู่ในไทย กลับอยากเร่งกลองศึก ประกาศเลยว่า ถ้าเพนกวินตาย ลุงตู่อยู่ไม่ได้ จะผลักเพนกวินให้ตายหรือ เพนกวินห้ามเลิกอดอาหารอย่างนั้นใช่ไหม ถึงจะเข้าทาง สงสัยเตรียมแห่ศพประท้วงแล้ว
เอาให้ลุงตู่อยู่ไม่ได้ กระแสตก จุดไม่ติด ต้องแห่ศพเลยหรือ อย่าเหี้ยมโหดขนาดนั้น
ศาลไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112 รวมทั้งเพนกวิน เพราะมีพฤติกรรมท้าทาย ทำผิดซ้ำซาก สัญญากับศาลไม่เคยทำตาม จะให้ลุงตู่สั่งศาลให้ปล่อยผู้ต้องหาหรือ นั่นมันวิถีที่รัฐบาลเผด็จการพลเรือนเคยทำมั้ง ไม่ใช่ลุงตู่ที่ไม่ก้าวก่ายศาล
อยากลุกฮือทั่วประเทศเลียนแบบพม่าใช่ไหม จำไม่ได้หรือ ปี 53 ชุมนุมเป็นแสน เผาบ้านเผาเมือง เกิดอนาธิปไตย ยังไปไม่รอด เพราะคนทั้งประเทศไม่เห็นด้วย
บอกนายใหญ่รอไปก่อน อีกไม่กี่ปีเอง อย่าให้เสียเลือดเนื้อไทย เพื่ออำนาจของคนเพียงคนเดียว”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“พี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า รวมทั้งพี่น้องกาเหว่า จงสามัคคีกัน!!! มหันตภัยของชาติ ที่ทำร้ายทั้งประเทศชาติและประชาชนทุกคน คือขบวนการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวง!!!! จงวางความขัดแย้งที่ไร้สาระ หรือแผนการล้มเจ้า ตามใบสั่งของนักล่าอาณานิคม และ ความขัดแย้งปลีกย่อยทั้งหมดเถิด!!!”
“ร่วมกันกำจัดมหันตภัยของชาติก่อน มิฉะนั้น ทุกคนจะตายกันหมด!!! บ้านเมืองเราจึงจะกลับสู่ปกติและร่มเย็นเป็นสุข!!!! จงเข้าร่วมในแนวรบ ประชาชาติด้วยมือชาญ อย่ามัวยืนสังเกตการณ์ แล้วโบกมืออยู่ริมทาง”!!!
แน่นอน, ประเด็นที่น่าโฟกัสอย่างยิ่ง ก็คือ การอดข้าวของสองผู้ต้องหา ม.112 เพนกวิน และรุ้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ประกันตัว และประท้วงศาลด้วยการอดข้าวอยู่ในเรือนจำ
ที่น่าสนใจ ขณะนี้เริ่มมีสองกระแสเรียกร้องตามมาอย่างดุเดือดเลือดพล่าน กระแสหนึ่ง นำโดยศาสดา “ล้มเจ้า” สมศักดิ์ เจียมฯ แนะให้เลิกอดข้าว เพราะห่วงอันตรายถึงชีวิต ซึ่งกระแสนี้หลายคนเห็นด้วย รวมทั้งพ่อแม่ครอบครัวของทั้งสองคน ด้วยเหตุผล ต้องการให้มีชีวิตอยู่ เพื่อต่อสู้ร่วมกันต่อไป
อีกกระแส ต้องการให้ยืนหยัดอดข้าวต่อสู้ต่อไป ตามที่ประกาศยอมเสียสละชีวิต เพื่ออุดมการณ์ และต่อความอยุติธรรม คนกลุ่มนี้แหละที่ถูกโจมตี แม้จากฝ่ายตรงข้าม เพราะเห็นว่า เป็นพวกที่มีจิตใจโหดร้ายอำมหิต ทั้งมีเกมหวังใช้ชีวิตของเยาวชนคนรุ่นใหม่เป็น “เหยื่อ” ในการต่อสู้ และโหนกระแสแห่โลงศพประท้วง เพียงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองมากกว่าสิ่งใด
เรื่องนี้ หลายฝ่ายคาดการณ์มาตลอด ว่า สักวันจะถึงจุดนี้ จุดที่ท้าทายให้แกนนำ 3 นิ้วเลือก จะเป็น “วีรชน” นักต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้แม้ต้องแลกด้วยชีวิต และพร้อมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน กับ คนที่ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ยอม “ทรยศอุดมการณ์” ด้วยความกลัวจะอดข้าวตาย อย่างที่ “จอมไฟเย็น” ปลุกเร้า แล้วถ้าทั้งสองคนบ้าจี้ตาม หรือ หลงใหลในวาทกรรมสวยหรูเหล่านี้ สิ่งที่ถูกล้างสมองจนแทบไม่เหลือความคิดอย่างอื่น นี่คือ สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในเวลานี้
เหนืออื่นใด หลายคนยังหวังว่า จุดจบจะไม่เป็นไปตามความต้องการของคนกลุ่มที่ไม่ต้องการให้เลิกอดข้าว จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และการต่อสู้ยังคงยืนอยู่บนเส้นทางของสันติวิธี ตามระบอบประชาธิปไตย อย่างที่แกนนำ 3 นิ้ว ประกาศมาตลอด เพราะท้ายที่สุด มันจะถูกบันทึกเอาไว้ด้วยประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจ และเป็นมรดกอันล้ำค่าแก่ลูกหลานตราบนานเท่านาน ลองคิดด้วยสติเอาเองก็แล้วกัน!!!