“แรมโบ้” ซัดนักวิชาการ-ผู้ร่วมเสวนา คปร.มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เกิดมาเคยคิดใช้สมองทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติประชาชนบ้าง วันๆ ดีแต่นั่งพ่นน้ำลายฟุ้งห้อง สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง เสียดายคุณค่าและเวลาที่เกิดมาในชาตินี้
วันนี้ (29 มี.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงวงเสวนาหัวข้อ “ชำแหละ 7 ปี พล.อ.ประยุทธ์ พาชาติติดหล่ม?” ของคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ คปร. โจมตีการบริหารงานของนายกฯ เล่นการเมืองแบบย้อนยุค เป็นระบบ 3 ป.บริหารงานผิดพลาด พาชาติพังยิ่งกว่าเผด็จการรัฐบาลทักษิณ โดยนายเสกสกลระบุว่า แม้นายกฯ จะถูกมองว่าเล่นการเมืองแบบย้อนยุค แต่ได้ทำงานเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนมาโดยตลอด และทำได้ดีกว่ารัฐบาลอื่นอีก มีความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหา พัฒนาบ้านเมือง รวมถึงมีความพยายามที่จะเดินหน้าสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ หากประเทศจะไม่สามารถเดินหน้าได้นั้น ตนเองมองว่าน่าจะเป็นเพราะมีกลุ่มต่อต้านนายกฯ หรืออาจเป็นนักวิชาการบางคนที่มีแต่พูดโดยไม่เคยลงมือทำอะไรเลย ทั้งที่มีมันสมองพอที่จะช่วยกันคิดช่วยกันทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองให้เดินหน้าได้
นายเสกสกลยังกล่าวว่า ต่อให้นายกฯ และรัฐบาลทำดีแทบตาย กลุ่มเห็นต่างหรือแม้แต่นักวิชาการบางคนก็คงไม่เข้าใจ เพราะตั้งเป้าที่จะต่อต้านอยู่แล้ว พร้อมกับสงสัยว่าคนเหล่านี้จะชอบหรือศรัทธานายกฯ หรือรัฐบาลที่มีการโกงกินบ้านเมือง มากกว่ารัฐบาลที่ทำประโยชน์ให้ประเทศ เพราะเห็นมีการเปรียบเทียบกับรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หากเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว ถ้าจะมีการสนับสนุนผู้นำที่ก้าวสู่ตำแหน่งเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเอื้อธุรกิจให้กับพวกพ้องตนเอง ตลอดจนการออกกฎหมายให้ธุรกิจตนเองร่ำรวยบนความยากจนของประชาชน ไม่ทราบว่านักวิชาการกลุ่มเสวนา คปร.ชอบแบบนั้นใช่ไหม
“ส่วนต้วผมมองว่าปัญหาใหญ่ของประเทศ คือ การมีผู้นำที่ทุจริตคอร์รัปชันจึงทำให้ประเทศไปไม่รอด ต่อให้ระบบกฎหมายแม่แบบของประเทศเขียนไว้ดีแค่ไหน ถ้ามีผู้นำที่คิดคดโกงกินงบประมาณภาษีอากรของประชาชน วันๆ คิดแต่เรื่องทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ใจไม่ซื่อมือไม่สะอาด ระบบนั้นก็จะไปไม่รอดอย่างแน่นอน บ้านเมืองจะเสียหายย่อยยับประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า แต่ถ้ามีผู้นำที่ดีใจซื่อมือสะอาด คำนึงถึงแต่ประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลัก ไม่คิดทุจริตโกงกิน ผมคิดว่ายังสามารถพาประเทศชาติประชาชนไปรอดได้ ส่วนถ้ากฎหมายแม่บทจะมีปัญหาบ้างก็ค่อยแก้ไขกันไปตามกระบวนการขั้นตอน ขอเพียงแต่ทุกคนทุกฝ่ายหันมาร่วมมือร่วมใจช่วยกัน อย่าดีแต่พูด ดีแต่ขัดแข้งขัดขา จ้องทำลายกัน โดยที่ไม่ยึดโยงกับประเทศชาติและประชาชน ดังเช่นนักวิชาการกลุ่มนี้ที่ดีแต่พูดดีแต่วิจารณ์ ไม่เคยลงมือปฏิบัติหรือช่วยเหลือชาติบ้านเมืองอะไรเลย วันๆ ดีแต่ออกมาพ่นน้ำลายทำลายกัน เหมือนคำสุภาษิตที่ว่ามือไม่พายแต่ชอบเอาเท้าราน้ำ เกิดมาทั้งทีก็ไร้ประโยชน์ ไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับตัวเองและแผ่นดินเลยสักนิด ช่างเสียดายคุณค่าและเวลาที่เกิดมาในชาตินี้ ถ้าคิดว่าประเทศนี้ไม่น่าอยู่ก็เก็บเสื้อผ้าตามไปอยู่กับอดีตผู้นำคนที่นิยมชื่นชอบชื่นชมที่หนีไปอยู่ในต่างประเทศรอแล้วจะดีกว่าไหมครับ” นายเสกสกลกล่าว