หน.ภท.แจงไม่ร่วมโหวตร่างแก้ไข รธน.วาระ 3 เพราะกลัวโดนร้องศาล ปัดหลอกประชาชน แต่เคารพกฎหมาย ยกศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาลไคฟง เสี่ยงไม่ได้ ปัดถอนตัวรัฐบาล ชี้เป็นคนละส่วนกัน รับไม่เห็นด้วยที่มา ส.ว.แต่ทนเอา รอบทเฉพาะกาลหมด ซัด “โรม” อย่าจุ้นข้ามพรรค
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล กรณี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย วอล์กเอาต์จากห้องประชุมรัฐสภาเพราะไม่พอใจหลังที่ประชุมรัฐสภาให้ลงมติวาระ 3 ว่า ไม่เกี่ยวอะไรกัน นี่เป็นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกคนต้องมีเอกสิทธิ์ มีความเชื่อในมิติของตัวเอง ส่วนกรณีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงนั้น นายชาดาคงมีอารมณ์ เพราะผ่านมา 2 วาระแล้วทำไมจึงไม่ดันไปให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากเป็นเรื่องรัฐสภา และในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของการบริหารงาน เป็นคนละหมวดกัน
นายอนุทินกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจยืนยันว่าจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอด เมื่อวันที่ 17 มี.ค. พรรคภูมิใจไทยพยายามจะรักษารัฐธรรมนูญเอาไว้ แต่ต้องไม่ทำผิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นจะให้พรรคภูมิใจไทยไปโหวตก็ไม่ได้ เพราะวันนี้ก็มีคนไปร้องต่อศาลแล้ว เราต้องการความชัดเจน ถ้าตีความกันเองแล้วตีความผิดจะวุ่นวาย หลายคนอาจบอกว่าไม่ผิด แต่คนที่บอกเป็นนักกฎหมาย ไม่ใช่ศาลที่เป็นผู้พิพากษา เราจึงต้องเคารพคำวินิจฉัยของศาลที่ออกมาชัดเจน เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ดังนั้น เราต้องเชื่อตัวเองและเคารพกฎหมาย พรรคภูมิใจไทยพูดมาตั้งแต่ตอนหาเสียงว่าจะเคารพกฎหมายและอยู่ในกติกา
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการวอล์กเอาต์เป็นการเลี่ยงเพื่อไม่ให้ถูกร้องศาลใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการวอล์กเอาต์ เพราะนายชาดาลุกขึ้นแสดงความเห็นแล้วเดินออก ซึ่งนายชาดาเป็นรองหัวหน้าพรรค ตอนนั้นเขาอาวุโสที่สุดในพรรค เมื่อเดินออกพรรคภูมิใจไทยที่มีวินัยดีอยู่แล้วจึงเดินตาม ขณะที่ตนไม่ได้อยู่ในห้องประชุม แต่อยู่หลังห้องประชุม เมื่อถามย้ำว่าการวอล์กเอาต์เป็นการเซฟตัวเองไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรามีเจตนารมณ์ชัดเจนแล้วว่าจะไม่ลงมติ เพราะเป็นจะการขัดคำวินิจฉัยของศาล เมื่อถามว่า มี ส.ส.พรรคภูมิใจไทยบางคนระบุว่าถูกหักหลัง นายอนุทินกล่าวว่า ใครพูด ยังไม่มีใครมาบอกตน เรื่องนี้เราทำตามเจตนารมณ์ที่ให้ไว้กับประชาชน เราแสดงจุดยืนชัดเจนใน 2 วาระที่ผ่านมา
เมื่อถามว่าจะนำไปสู่การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายอนุทินได้ชี้นิ้วไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมระบุว่าต้องไปถามคนบนตึกไทยฯ ถามตรงนี้ได้อย่างไร ตนยุบได้หรือไม่ เมื่อถามว่า ถ้าถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้มีการยุบสภาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่มีถ้า อยู่ เพราะคนละเรื่องกัน” การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือเรื่องของสภา แต่นี่คือเรื่องของรัฐบาล เรื่องการบริหารประเทศ มันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เมื่อถามว่าหากมีการยุบสภาจริง พร้อมเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้ายุบสภาก็ต้องมีการเลือกตั้ง พรรคการเมืองต้องพร้อม ตนเจอยุบสภามา 4-5 ครั้งแล้ว ยุบก็ยุบ เราเป็นของประชาชนอยู่แล้ว ให้ประชาชนตัดสิน ชีวิต ส.ส.มันแค่นี้
เมื่อถามว่า ขั้นตอนหลังจากนี้พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนให้แก้รายมาตราหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญบอกแล้วว่าต้องทำประชามติ จนกว่าจะมีอะไรมาเปลี่ยนแปลงตรงนั้น เราต้องเดินตามขั้นตอน ในเรื่องที่จะร่างใหม่ทั้งฉบับหรือแก้เป็นรายมาตราก็ต้องถามประชาชน อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้รับเสียงประชามติมาเท่าไหร่ มีคนเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากมาย ถ้าจะมีการปรับปรุงแก้ไขอะไรจะต้องกลับไปถามเจ้าของประเทศ มันก็แฟร์ เมื่อถามว่า ทำใจไว้หรือไม่ว่าจะไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งในรายมาตราหรือทั้งฉบับ นายอนุทินกล่าวว่า เราต้องมาดูว่าจากจุดนี้ไปต้องทำอย่างไร แก้แล้วต้องไม่เหนื่อย ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะถูกยุบพรรคอีกหรือไม่
เมื่อถามว่า นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ทำตามที่หาเสียงไว้ นายอนุทินกล่าวว่า “แล้วตอนที่เราหาเสียง คุณรังสิมันต์ โรม โหวตให้พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ แล้วมายุ่งอะไร ยุ่งกับเรื่องพรรคตัวเอง พรรคใครพรรคมัน เรื่องพวกนี้ไม่ก้าวก่ายกัน วิพากษ์วิจารณ์บุคคลได้ แต่อย่าวิพากษ์วิจารณ์องค์กร ไม่ใช่หน้าที่”
เมื่อถามว่าจะอธิบายให้ประชาชนอย่างไรว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้หลอก นายอนุทินกล่าวว่า หลอกตรงไหน ไม่มี เราต้องรักษาระบบ ไม่ให้มีความวุ่นวาย รัฐธรรมนูญถ้าจะมีการแก้ไขเรายินดีให้ไปตามกระบวนการคือ ให้ประชาชนเป็นคนกำหนด “ศาลรัฐธรรมนูญนะครับ ไม่ใช่ศาลไคฟง ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าถ้าจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ไปทำประชามติ พรรคภูมิใจไทยทำตามนั้น ยังไม่ชัดอีกหรือ ใครไม่ชัดไม่เป็นไร แต่พรรคภูมิใจไทยฟังแล้วชัด พรรคภูมิใจไทยทำตามนั้นทุกอย่าง แล้วตรงไหนที่หลอกประชาชน ไม่มี ทำตามระเบียบตามกฎ ไม่ทำตามใจ ต้องเคารพคำสั่งศาล ประเทศต้องไปอย่างนี้”
เมื่อถามว่า หากเลือกตั้งคราวหน้าจะชูเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า แก้เป็นบางส่วนที่พรรคเห็นว่าสมควรแก้ แต่เรื่องหมวดพระมหากษัตริย์ไม่ต้องพูด ส่วนเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชันเราเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีบทบัญญัติที่รุนแรงที่ทำให้คนที่คิดคดโกงบ้านเมืองไม่สามารถทำได้ง่าย หรือทำไปแล้วเจอผลกรรมอย่างแสนสาหัส อย่างนี้นอกจากไม่แก้แล้วควรทำให้แน่นยิ่งกว่าเดิมด้วย บังคับใช้ได้เร็ว ให้เห็นกันไปเลยว่าใครทำชั่ว ใครทำไม่ดีต่อบ้านเมืองให้รับผลกรรมทันที อันนี้พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย แต่เรื่องอื่นที่ไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตยเท่าไหร่ เช่น ที่มา ส.ว. ตนไม่เห็นด้วย แต่ก็ทนเอา อย่างมากก็ 5 ปี เมื่อบทเฉพาะกาลหมดก็หมด มันไม่ใช่เป็นปัญหา แล้วเราจะชักใบให้เรือเสียทำไม ไดโนเสาร์มันก็ไปเอง ไม่มีใครไปทำลายเขาได้ เมื่อถามย้ำว่าใครคือไดโนเสาร์ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่รู้ และเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไป
