อดีตโฆษก ปชป. ปลุกสังคมทวงถาม นายกฯเอาผิดตำรวจ-อัยการ ขายวิชาชีพ สมคบประวิงเวลาคดี “บอส” หลังรับรายงาน คกก.ชุด “วิชา” นาน 7 เดือน แต่ยังลอยนวล สงสัยจริงใจคืนความยุติธรรม หรือ แค่เล่นปาหี่ งงมีเทปมัดอดีตนาย ตร.ใหญ่ แต่ไร้คนเอาผิด
วันนี้ (28 มี.ค.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง
7 เดือน ปมสมคบคิด สมยอมกันค้าคดีบอส อยู่วิทยา ความยุติธรรมอยู่ไหน ทำไมตำรวจอัยการนอกแถวยังลอยนวล...? มีเนื้อหาระบุว่า 31 สิงหาคมปีที่แล้ว เป็นวันที่คนไทยทุกคนมีความหวังว่าจะมีการล้างบาง ขบวนการค้าสำนวน สมคบคิดกันประวิงเวลาคดีบอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เพราะคณะกรรมการชุดนายวิชา มหาคุณ ที่นายกรัฐมนตรี ตั้งขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้เองกับมือได้บทสรุปชี้เป้าคนผิดส่งตรงถึงนายก แต่ผ่านมา 7 เดือน ทุกอย่างกลับเงียบหายเข้ากลีบเมฆ จนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าที่นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการชุดนายวิชามาตรวจสอบเรื่องนี้ มีเจตนาเพียงแค่ลดกระแสสังคม แต่ไม่ตั้งใจเอาคนผิดมาลงโทษอย่างแท้จริงหรือไม่ เพราะถ้ามีความมุ่งมั่นจะลากคอทั้งตำรวจและอัยการนอกแถวให้ต้องรับโทษทัณฑ์ที่ได้ก่อไว้ จนสร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นวงกว้าง ป่านนี้เราคงเห็นตำรวจและอัยการ ที่ขายวิชาชีพตัวเองถูกลงโทษทางวินัยและถูกดำเนินคดีอาญากันไปแล้ว แต่นี่กลับไม่มีอะไรในกอไผ่
นายเชาว์ ระบุด้วยว่า ที่ยิ่งร้ายไปกว่านั้น คือ มีหลักฐานเทปบันทึกเสียงวันที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ จาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นไม่ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ปรากฏในการสอบสวนของคณะกรรมการชุดนายวิชามัดไปถึงอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แต่จนถึงตอนนี้กลับไม่มีการดำเนินการอะไรเลยกับอดีตนายตำรวจผู้นี้ ทั้งที่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพลิกคดี
“ผมคิดว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่เล่นปาหี่ มีเจตนาทำความจริงให้ปรากฏ ทำความยุติธรรมให้กลับมามีความน่าเชื่อถือ ท่านต้องส่งสัญญาณที่แรงชัด กระตุกไปที่อัยการและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งสะสางเอาคนผิดมาลงโทษโดยเร็ว เพราะถ้าท่านไม่ทำอะไรในเรื่องนี้เพิ่มเติม เท่ากับว่านอกจากท่านจะหลอกให้นายวิชามาเป็นหนังหน้าไฟ ช่วยลดกระแสสังคมให้ท่านแล้ว นายกฯ ยังหลอกคนไทยทั้งประเทศด้วย ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เพราะยังแอบหวังลึกๆ ว่า คนที่พร่ำพูดเรื่องธรรมาภิบาล จะมีธรรมาภิบาลทั้งปากและการกระทำ ไม่ใช่ปากพูดอย่างแต่กระทำอีกอย่าง ผมอยากให้สังคมกลับมาจับตาเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อกดดันให้ผู้มีอำนาจต้องจัดการอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้คนมีเงินมีอำนาจเป็นผู้กำหนด ความยุติธรรม เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย