ศาลสั่งเพิกถอนที่ดินเอกชน ต.ทางกลาง ออกหนังสือมิชอบ สั่งรื้อคันดินให้ ปชช.สัญจร

ชาวบ้าน ต.ทางกลาง อยุธยา เฮ ศาล ปค.กลาง สั่งเพิกถอนที่ดินเอกชน เหตุออกโดยมิชอบ เป็นที่ชายตลิ่งริมแม่น้ำลพบุรี ห้ามออกหนังสือรับรองทำประโยชน์ สั่ง นอภ.บางปะหัน นายก อบต.เสาธง รื้อถอนคันดิน บำรุงรักษาทางสาธารณประโยชน์ให้ ปชช.สัญจร

วันนี้ (25 มี.ค.) ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาสั่งเพิกถอน น.ส.3 เลขที่ 120 หมู่ 3 ต.ทางกลาง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา และให้เจ้าพนักงานที่ดินอยุธยาดำเนินการให้เป็นไปตามวิธีการที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนดไว้ รวมทั้งให้นายอำเภอบางปะหัน อบต.เสาธง และ นายก อบต.เสาธง ดำเนินการให้มีการรื้อถอนคันดิน หรือขจัดสิ่งกีดขวางออกจากทางสาธารณประโยชน์ที่พิพาท บริเวณหมู่ที่ 3 ต.ทางกลาง อ.บางปะหัน ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด และให้นายก อบต.เสาธง บำรุงรักษาทางสาธารณประโยชน์ดังกล่าวให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านไปมา เพื่อเป็นทางออกสู่ทางสาธารณประโยชน์อื่นได้ภายในปีงบประมาณถัดไปนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

คดีนี้ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วย ชาวบ้านใน ต.ทางกลาง อ.บางปะหัน จ.อยุธยา รวม 14 คน ได้ยื่นฟ้อง นายก อบต.เสาธง นายอำเภอบางปะหัน เจ้าพนักงานที่ดิน จ.อยุธยา อบต.เสาธง และกรมการปกครอง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-5 กรณีละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย

ส่วนเหตุที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอน น.ส.3 แปลงดังกล่าว ระบุว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าลวดลายรูปแปลงที่ดินที่กั้นกลางระหว่างโฉนดที่ดินกับแม่น้ำลพบุรี ที่ปรากฏในระวางแผนที่ศูนย์กำเนิดเดิม 3 ต 2 อ คือ ทางเดินริมแม่น้ำลพบุรีตามสภาพที่มีอยู่ ในขณะที่มีการออกโฉนดที่ดินเมื่อปี 2447 และถัดไปจากทางเดินริมแม่น้ำลพบุรี ก็จะเป็นเขตแม่น้ำลพบุรี หรือที่ชายตลิ่งของแม่น้ำลพบุรี การที่ราชการได้ออก น.ส.3 เลขที่ดิน 120 โดยอาศัยหลักฐาน ส.ค.1 เลขที่ 5/2498 หมู่ที่ 3 ต.ทางกลาง อ. บางปะหัน จ.อยุธยา ซึ่งได้ระบุหลักฐานการได้มาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2456 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่มีการจัดทำหลักฐานทางแผนที่ตามที่ปรากฏในระหว่างแผนที่การออกโฉนดที่ดินเมื่อปี 2447 ระบุว่า ที่ดินส่วนนั้นเป็นแม่น้ำลพบุรี หรือที่ชายตลิ่งแม่น้ำลพบุรี ซึ่งโดยสถานะของที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่ราษฎรไม่อาจครอบครองทำประโยชน์ได้และที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินที่ต้องห้ามมิให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามข้อ 3 ของกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2497) ออกตามความใน พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ประกอบข้อ 8 (1) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2497) ออกตามความใน พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะนั้น ทั้งนี้ ข้อ 14 (1) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้บังคับเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิในปัจจุบัน ก็ยังคงกำหนดข้อห้ามมิให้ออกเอกสารสิทธิในที่ดินประเภทนี้ไว้เช่นกัน ดังนั้น น.ส.3 เลขที่ 120 ที่ทางราชการออกให้แก่ นางบุญชู แย้มขจร เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2507 จึงเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่นายก อบต.เสาธง และนายอำเภอบางปะหัน ยังไม่สามารถดำเนินการให้มีการรื้อถอนคันดิน หรือขจัดสิ่งกีดขวางออกจากทางสาธารณประโยชน์ดังกล่าวและบำรุงรักษาทางสาธารณประโยชน์ดังกล่าวให้ประชาชนสามารถใช้สัญจรเป็นทางออกสู่ทางสาธารณประโยชน์อื่นได้ กรณีจึงถือว่าบุคคลทั้งสอง ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร