เมืองไทย 360 องศา
หากนับจากวันที่ 15 มีนาคม วันที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ประกาศอดอาหารประท้วงหลังจากอ้างว่ามีความอึดอัดใจจากกรณีพวกเขาไม่ได้รับการประกันตัว โดยประกาศต่อหน้าบัลลังก์ศาลในห้องพิจารณาคดีว่า จะอดอาหารโดยจะขอดื่มแต่น้ำ หรือน้ำหวานเท่านั้น จนกว่าจะได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี
หากย้อนกลับไปในวันดังกล่าวที่ได้เกิดความวุ่นวายพอสมควร ระหว่างที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานเป็นครั้งแรก ในคดีที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” กับพวก รวม 22 คน ขออ่านแถลงการณ์ที่ได้เตรียมมาเกี่ยวกับการถูกดำเนินคดีที่พวกเขาอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะการที่ไม่ได้รับการประกันตัว โดยอ้างว่าคดียังไม่ตัดสิน ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่กลับไม่ได้รับการประกันตัว พร้อมกับอ้างเปรียบเทียบกับกรณีของแกนนำ กปปส. ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด แต่กลับได้รับการประกันตัว และไม่ถูกตัดผม
ที่บอกว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่จำเลยกระทำการที่เรียกว่า “อุกอาจ” ในห้องพิจารณาคดี ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมีรายงานว่าเกิดเหตุผู้สนับสนุนบางคนแสดงอารมณ์ด้วยการขว้างขวดน้ำลงบนพื้นอีกด้วย ดังปรากฏเป็นข่าวออกมาให้ภายนอกรับทราบกันไปแล้ว
แต่เอาเป็นว่า หากนับจากวันที่ 15 มีนาคม ที่ นายพริษฐ์ ประกาศอดอาหารประท้วง แม้จะไม่ได้บอกว่าจะเริ่มตั้งแต่วันไหน แต่หากให้เข้าใจก็น่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ซึ่งน่าจะเริ่มหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวกลับเข้าเรือนจำหรือเปล่า
หรือจะเริ่มอดอาหารหลังจากที่นายอานนท์ นำภา หนึ่งในแกนนำ “ม็อบสามนิ้ว” อีกคนหนึ่งที่ส่งจดหมายออกมา “ฟ้อง” ภายนอกว่า “จะถูกอุ้มฆ่ากลางดึก” แม้ว่าทางราชทัณฑ์จะย้ำว่าการเคลื่อนย้ายนักโทษดังกล่าวนั้น เป็นเพียงการนำไปตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 หลังจากมีบางคน เช่น นายภาณุพงศ์ จาดนอก กับพวกที่ก่อนหน้านี้ไปร้องขอให้ย้ายจากเรือนจำธนบุรี มาควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยอ้างเรื่องความไม่สะดวกในการเข้าเยี่ยม และต่อมาศาลก็อนุญาต
ทางราชทัณฑ์ย้ำว่า สาเหตุที่ต้องนำตัว (เคลื่อนย้าย) มาตรวจคัดกรองกลางดึก เพราะนักโทษมาถึงตอนค่ำแล้ว อีกทั้งเรือนจำธนบุรีอยู่ในเขตพื้นที่โรคระบาด เช่น ในเขตบางแค เป็นต้น
แต่อีกด้านหนึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้นก็ทำให้ครั้งนี้จำเลยจำนวน 8 คนในคดีมาตรา 112 และมาตรา 116 และอีกหลายความผิด ใช้เป็นข้ออ้างในการยื่นขอประกันตัวอีกรอบ โดยอ้างในเรื่องความปลอดภัย แต่ก็ “จบเกม” แบบเดิมคือ “ศาลไม่อนุญาต” ยืนยันว่าไม่มีเหตุผลให้ต้องเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
เมื่อวกกลับมาที่ “เพนกวิน” นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ประกาศอดอาหาร โดยจะดื่มแต่น้ำ หรือน้ำหวานเท่านั้น ได้เริ่มอดอาหารประท้วงแล้วหรือยัง หรือเริ่มอดอาหารมาตั้งแต่วันไหน และอาการเป็นยังไงบ้าง มีปัญหาสุขภาพจนต้องถูกนำตัวไปพักฟื้นที่ในโรงพยาบาลหรือเปล่า อะไรประมาณนี้ เพราะก่อนหน้านี้ เขาได้ประกาศจริงจังมาก อีกทั้งยังได้ประกาศพร้อมกับการ “ชูสามนิ้ว” แบบว่า “ปิดบังความจริงไม่ได้” อะไรประมาณนั้น เรียกความสนใจ มีการถ่ายภาพเกิดไฟแฟลชวูบวาบเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี เพื่อความแน่ใจก็น่าจะมีจดหมายจากนายพริษฐ์ ออกมาแจ้งข่าวกับภายนอกเหมือนกับที่นายอานนท์ นำภา แจ้งเผยแพร่ ว่า “กลัวถูกอุ้มฆ่าในคุก” อะไรประมาณนั้น ว่าในที่สุดแล้ว นายเพนกวิน ที่ประกาศว่าจะอดอาหารประท้วงนั้น ได้ทำจริงหรือเปล่า รวมไปถึงการแจ้งข่าวให้ภายนอกรับรู้ด้วยว่า หากเริ่มอดอาหารแล้วหากนับจนถึงวันนี้ ก็น่าจะผ่านมาสองสามวันแล้ว สุขภาพยังโอเค อยู่มั้ย
แต่ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงเตือนจากหลายคนที่มีประสบการณ์ทางด้านกฎหมาย รวมไปถึงผู้ประกอบอาชีพทนายความ มีประสบการณ์ในเรื่องการทำคดีประเภทนี้ย้ำว่า “ไม่สมควรทำ” เพราะการ “กดดันศาล” ในลักษณะแบบนี้ มันไม่เคยได้ผลมาก่อน พร้อมทั้งแนะนำไปยังแกนนำม็อบสามนิ้ว โดยเฉพาะทนายความของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ด้วยว่า น่าจะรู้ดีว่าอย่าทำแบบนี้เลย มันไม่มีประโยชน์ อีกทั้งวิธีการในลักษณะดังกล่าวเหมือนกับว่ากำลังพยายามดึงศาลลงมา “เป็นคู่ขัดแย้ง” ซึ่งไม่น่าจะเป็นผลบวก
ดังนั้น แม้ว่านาทีนี้ยังไม่มีความคืบหน้าว่าในที่สุดแล้ว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” จะอดอาหารจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่พูดไปตามอารมณ์ แต่ขณะเดียวกัน หากเขาทำจริงก็น่าจะผ่านมาได้สองสามวันแล้ว สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง สังคมภายนอกก็อยากรู้เหมือนกัน!!