งานแต่ง “โรม” การเมืองร้อนระอุ “อธึกกิต” เผยห่วงทางตันม็อบ กังวลเพื่อนติดคุก “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ตะเพิด “ต้อม-ยุทธเลิศ” เลิกแซะเงินบริจาค “ไบรท์” แกนนำ 3 นิ้วนนท์ ประกาศตั้งกลุ่มใหม่ หาเงินทำกิจกรรมเอง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 มี.ค. 64) เฟซบุ๊ก Atukkit Sawangsuk ของ นายอธึกกิต แสวงสุข พิธีกร voicetv โพสต์ข้อความ หลังไปร่วมงานแต่ง นายรังสิมันต์ โรม หรือ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า
“ข้อคิดจากงานแต่ง
(บอกแล้วว่าไปงานแต่งแต่จับกลุ่มคุยสถานการณ์ ฟังเพลงถ่ายรูป แต่กังวลเพื่อนติดคุก)
:
เขาไม่ให้ประกันแน่ 112 คงโดนหมด
เป็นหมากอำมหิตในสถานการณ์ที่เราไม่พร้อม แต่บังคับให้ต้องสู้
ทั้งที่ความจริงถ้าปล่อยตัว เราก็ทำอะไรไม่ได้มาก
กลับไปสู่การเคลื่อนไหวสายเย็น เผยแพร่ความคิด พูดคุยในคลับเฮาส์ ฯลฯ
แต่พอไม่ปล่อย ก็ไม่มีทางเลือก ต้องม็อบ ทั้งที่รู้ว่าทำอะไรไม่ได้มาก
:
คนที่ออกมาม็อบหายไปไหน
อันนี้คำถามใหญ่ที่ไม่มีคำตอบเดียวและมีหลายความเห็น
ข้อใหญ่อาจจะเป็น รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ท้อ หรือม็อบไปก็เท่านั้น
แต่ไม่ได้เปลี่ยนความคิดเรื่องข้อ 3
คนรุ่นใหม่ยังมองข้อ 3 ข้อเดียวเท่านั้น เป็นโครงสร้างของทุกปัญหา
แต่รู้สึกว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ หรือรู้สึกว่าการเสนอประเด็นในช่วงหลังชักสับสน (คือ คนมาม็อบไม่ได้สนใจประเด็นอื่น เวทีปราศรัยพูดเรื่องอื่นมากๆ ก็เบื่อ มาท้าทายข้อ 3 โดยตรง)
บ้างก็ทะเลาะกันเองในความหมายเรื่องสันติวิธี แกนนำก็มีปัญหาเรื่องมองแนวทางต่างกัน
:
มันจึงเป็น dilemma ว่า ถ้าลดระดับไปพูดเรื่องอื่น เศรษฐกิจ ไล่ประยุทธ์ แก้รัฐธรรมนูญ ฯลฯ คนรุ่นใหม่ก็รู้สึกว่าจืดไปแล้ว ขี้เกียจมา
แต่ถ้ายังพุ่งข้อ 3 คน ที่พร้อมก็มีน้อย รู้ว่ามันเสี่ยง รู้ว่าเปลี่ยนไม่ได้ ม็อบไปก็เท่านั้น
ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำไง แล้วประเด็นช่วงนี้ก็หลากหลายเกินไป
มีทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ โควิด บางกลอย ไล่ประยุทธ์ ปล่อยเพื่อนเรา ฯลฯ
ความหลากหลายมันดี แต่ไม่สามารถทะลวงที่ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
:
เราทั้งหลายคงยินดี ถ้าคนติดคุกได้ประกัน
ต่อให้มีเงื่อนไข เช่น ห้ามเคลื่อนไหว หยุดทุกอย่าง
เรี่ยไรกันส่งรุ้ง, เพนกวิน ไปเรียนเมืองนอก ก็เอาวะ เพราะยังสู้กันยาว
แต่สำหรับพวกเขา ไม่มีวันยอม
เพราะติดคุกไปแล้ว ขอติดคุกอย่างนักต่อสู้
ไม่ยอมติดคุกอย่างผู้แพ้”
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก ซึ่งต้องพิสูจน์ ได้แชร์บางส่วนจากเฟซบุ๊ก ของ อธึกกิต แสวงสุข พร้อมโพสต์ว่า
“หลังจับกลุ่มคุยสถานการณ์ม็อบ ในงานเเต่งโรม
************
Atukkit Sawangsuk
ข้อคิดจากงานแต่ง
(บอกแล้วว่าไปงานแต่งแต่จับกลุ่มคุยสถานการณ์ ฟังเพลงถ่ายรูป แต่กังวลเพื่อนติดคุก)
:
เราทั้งหลายคงยินดี ถ้าคนติดคุกได้ประกัน
ต่อให้มีเงื่อนไข เช่น ห้ามเคลื่อนไหว หยุดทุกอย่าง
เรี่ยไรกันส่งรุ้ง, เพนกวิน ไปเรียนเมืองนอก ก็เอาวะ เพราะยังสู้กันยาว
แต่สำหรับพวกเขา ไม่มีวันยอม
เพราะติดคุกไปแล้ว ขอติดคุกอย่างนักต่อสู้
ไม่ยอมติดคุกอย่างผู้แพ้”
************
บางส่วนจาก FB Atukkit Sawangsuk 14 มี.ค. 64
อ่านข้อความเต็ม ได้ที่ https://www.facebook.com/baitongpost/posts/3888197964595337
*********
ทั้งนี้ จากการสืบค้น
เพนกวิน มีคดี ทั้งหมด 40 กว่าคดี เป็นคดี ม.112 15 คดีส่วนทางด้าน รุ้ง มีคดี ม.122 8 คดี ถูกเรียกค่าเสียหาย 5.9 ล้านบาท กรณีรื้อกระถางต้นไม้ ที่อนุสาวรีย์ ปชต.
https://twitter.com/prachatai/status/1351498558692683776
https://www.dailynews.co.th/crime/813550
สำหรับงานแต่ง “โรม” มีรายงาน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564 เป็นวันที่ นายรังสิมันต์ โรม เข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นสาวชาวอินโดนีเซีย น.ส.อิวาน่า คูร์เนียวาติ โดยภายในงานมี ส.ส. ร่วมพรรคเข้าร่วมงานมากมาย โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ได้ขึ้นไปกล่าวอวยพรบ่าว-สาว บนเวที นอกจากนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ร่วมงานด้วย
ภายในงานบ่าว-สาว บนเวที ได้ตะโกนว่า “เผด็จการจงพินาศ! ประชาชนจงเจริญ!” พร้อมชู 3 นิ้ว และในช่วงพิธีการที่จะมีการแลกแหวนนั้น พบว่า กล่องใส่แหวนมีกิมมิกเล็กๆ เป็นตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองอยู่ในกล่องด้วย (ข่าวจากไทยโพสต์ /ขอบคุณภาพ จาก Pravit Rojanaphruk. @PravitR)
ด้าน ดรามา “เงินบริจาค” ช่วยกิจกรรมม็อบ 3 นิ้ว จนถึงวันนี้ก็ยังไม่จบ
ล่าสุด เฟซบุ๊ก ฟอร์ด เส้นทางสีแดง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ต้อม ยุทธเลิศ คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย หยุดแซะเรื่องเงินบริจาค และเงียบได้แล้วครับ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ “ผู้กำกับเลว” @BadDIRECT0R ของ นายยุทธเลิศ สิปปภาค หรือ ต้อม ผู้กำกับภาพยนตร์ ได้โพสต์ข้อความตอบโต้ นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง ว่า
“กูขอใช้สิทธิ์ในการถูกพาดพิง และ ถึง บุ๊ง ปกรณ์ กูไม่ได้เกลียดทรายดั่งที่มึงใส่ความ กูแค่สงสัย สงสัยว่า ทำไมน้องมันเกลียดเจ้ามาก จนสามารถยัดความเกลียดชังใส่สมองแอมมี่ จนได้ภาพนี้ออกมา แต่วันนี้กูหายสงสัยละ เพราะกูคิดว่า ภาพนี้เป็นความคิดของไอ้นนท์ นนท์ที่กูยังไม่เข้าใจว่า ทำไม มึง 2 คน ถึงต้องปกป้องมันกันขนาดนั้น
ต่อมา ต้อม ยุทธเลศ ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์อีกว่า ถึงทราย ทรายต้องบอกความจริงด้วยว่า คนที่เข้ามาสร้างประเด็นเรื่องหนังคือ อิ๊ก เพื่อนของทรายเอง พอเปิดประเด็นได้ก็ลบโพสต์หนีไป หลักฐานวันนี้จริงๆ จะใช้ในชั้นศาล แต่เอามาให้ดูกูแชร์ได้ ถ้าทรายกับบุ๊งโปร่งใสจริงก็ต้องทำแบบนี้ เอายอดบัญชีย้อนหลัง 1 ปี ออกมากางให้เห็น ไม่จำเป็นต้องปิดบัง!
ทั้งนี้ ต้อม ยุทธเลิศ โพสต์ภาพรายการเดินบัญชีในสมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรี ซึ่งเปิดเผยยอดเงินเข้ารายการตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2563 ยอดคงเหลือ 39,799.87 บาท จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 ยอดเงินคงเหลือ 1,053,024.91 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า “นายนนท์ ปราบจะบก” ได้เปลี่ยนชื่อหลายครั้ง ปัจจุบันชื่อ กฤติเดช กรองทอง ได้ถูกจับตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 334/2560 ในความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ และฉ้อโกง เมื่อเดือนเมษายน 2560 จากการหลอกขายแพกเกจตั๋วเครื่องบินนำเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมาก แต่ภายหลังมาร่วมขบวนม็อบ 3 นิ้ว ทำให้ นายสมรนนท์ เล็กอุทัย หรือ แป้ง กราฟิตีชื่อดัง ออกมาแฉว่า มีคดีฉ้อโกง จากนั้น นายปกรณ์ ได้กล่าวว่า นนท์เป็นผู้ติดตามทราย ทำหน้าที่จัดหา ดูแลสต๊อกของและขับรถให้ทราย แต่ภายหลังได้ร้องขอให้นนท์ออกไปจากม็อบแล้ว (ข่าวไทยโพสต์)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า
“นับต่อจากนี้เป็นต้นไป ผม ไบรท์ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีอีกต่อไป ถึงแม้ผมจะเป็นคนตั้งมาก็แล้วแต่ กลุ่มของผมต่อจากนี้ คือ กลุ่มราษฎรนนทบุรี อย่างเดียวเท่านั้น กลุ่มของผมจะไม่มีใครมาแทรกแซงอีกต่อไป
จากนั้น นายชินวัตร โพสต์อีกว่า ขอแจ้งให้หลายคนที่ยังสงสัยว่า ผมแยกกลุ่มมาทำไม ผมเชื่อว่า ทุกคนเคยได้ยินคำศัพท์คำนี้ “แยกกันตีร่วมกันสู้” เข้าใจตรงกัน
ทั้งนี้ นายชินวัตร ได้เปิดตัวเพจ ราษฎรนนทบุรี โดยระบุว่า ต้องการมีแนวทางการต่อสู้ที่ไม่เป็นนอมินีของใคร ผมจะสู้จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
ใครจะเดินไปกับผมบ้าง ขอกำลังใจคนละ 1 เมนต์ครับ พร้อมกับไลฟ์สดขอรับบริจาคเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” (จากไทยโพสต์)
แน่นอน, เห็นได้ชัดว่า ภายในขบวนการม็อบ 3 นิ้ว มีสองเรื่อง ที่แม้แต่คนในด้วยกันเอง ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ อย่างสูง
หนึ่งคือ เรื่องการเคลื่อนไหวของม็อบ สรุปแล้ว การตั้งธงเอาไว้ที่ข้อ 3 (ปฏิรูปสถาบัน) เป็นสำคัญนั้น จะไปต่อก็ไม่สุด หรือ พอแค่นี้ก็ไม่ได้ เพราะเดินหน้ามาไกล จนเพื่อน (แกนนำ 3 นิ้ว) หลายคนมีคดีติดตัว และแกนนำหลักส่วนใหญ่ไม่ได้ประกัน ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะติดคุกยาวอีกด้วย เพราะพยานหลักฐานชัดเจนทั้งภาพนิ่ง ไลฟ์สด และคลิปวิดีโอ
ที่สำคัญ มีการวิเคราะห์กันว่า ถ้าไม่เล่นแรงเกี่ยวกับข้อเรียกร้องข้อ 3 ก็จะเอามวลชนไม่อยู่ และมวลชนก็จะเบื่อ ไม่ยอมมาร่วมม็อบ ทำให้ม็อบลดจำนวนลง ครั้นจะเล่นแรง ก็ต้องโดนคดี ม.112 อย่างที่เจอมาแล้ว เรื่องนี้น่าจับตามองว่า เกมจะเดินหน้าอย่างไร
เรื่องที่สอง กรณีความไม่ชอบมาพากลของเงินบริจาค ที่นับวันการออกมาแฉกัน ที่แทบจะลากไส้จนหมดพุงอยู่แล้วนั้น กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้ขบวนม็อบ 3 นิ้ว พังทลายในที่สุด ถ้าไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหา หรือ ชี้แจงได้
เพราะอย่าลืมว่า เรื่องนี้ละเอียดอ่อนอย่างมากสำหรับคนที่บริจาค และต้องการรับรู้ว่า เงินของเขาถูกใช้ไปกับอะไร เพื่อกิจกรรมม็อบอย่างแท้จริง หรือ เข้ากระเป๋าคนไม่กี่คน ส่วนภาพรวมก็อาจทำให้เห็นว่า เป็นม็อบหาเงิน หรือ พวกสู้แล้วรวย
เหนืออื่นใด ถ้าสองเรื่องนี้ยังคงเป็นปัญหาอยู่ต่อไป เชื่อได้เลยว่า การนับถอยหลังสู่จุดจบ ย่อมมีความเป็นไปได้สูง ไม่อย่างนั้น ชาว 3 นิ้วในงานแต่งโรม คงไม่จับกลุ่มคุยกัน เรื่องเดียว หรือว่าไม่จริง!?