ผบ.ทบ. นำคณะลงพื้นที่ตรวจชายแดนตะวันตก เน้นป้องกัน COVID สกัดสิ่งผิดกฎหมาย สร้างเครือข่ายภาคประชาชน พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
วันนี้ (11 มี.ค.) พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกพร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดนด้านตะวันตก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกาญจนบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงโดยเฉพาะเรื่อง ยาเสพติด, ผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือไม่ผ่านการคัดกรองโรค รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่ชายแดน โดยได้ตรวจเยี่ยมแนวชายแดนในความรับผิดชอบของกองกำลังสุรสีห์หลายพื้นที่ อาทิ ช่องทางสิงขรด่านขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ จ.ประจวบคีรีขันธ์, ช่องทางพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี และเยี่ยมพบปะกำลังพล หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก, หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก นำความห่วงใยของ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการสกัดกั้นยาเสพติด หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่ชายแดนดังกล่าว กำชับให้มีการบริหารจัดการกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อใช้ในภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือเสริมการทำงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครกิจการพลเรือน ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะความคืบหน้าในการป้องกันไวรัส COVID-19 และการบริหารจัดการวัคซีนของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังผู้ที่ลักลอบเข้าไทยโดยไม่ผ่านการคัดกรองโรค ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่กองกำลังชายแดนต้องดำรงความเข้มงวด เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ COVID โดยรวมของประเทศดีขึ้น สถานประกอบการในไทยเริ่มดำเนินกิจการได้เกือบปกติ อาจทำให้มีการพยายามลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ช่วยดูแลประชาชนและป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภทในพื้นที่ชายแดน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา จากนโยบายของกองทัพบก กองกำลังชายแดนได้เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เฝ้าระวังพื้นที่ ทั้งการตั้งจุดตรวจ เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษ สำหรับกองกำลังสุรสีห์ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 99 ครั้ง รวม 443 รายพร้อมผู้นำพา, จับกุมยาเสพติดได้ 82 ครั้ง ผู้ต้องหา 109 คน ยึดยาบ้า 273,555 เม็ด, ไอซ์ 50 กิโลกรัม, กัญชาแห้ง 720 กรัม และกระท่อมผง 48.4 กิโลกรัม และยังต้องเฝ้าระวังช่องทางผ่านเข้าออกชายแดนสำคัญ อาทิ ช่องทางเจดีย์สามองค์ ช่องทางพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี และช่องทางสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์