xs
xsm
sm
md
lg

แรงงานพม่าเริ่มทะลักข้ามชายแดน จ.กาญจน์ คืนเดียวจับได้ 30 คน ที่ชายแดน อ.สังขละบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - แรงงานพม่าเริ่มทะลักข้ามชายแดน จ.กาญจน์ คืนเดียวทหาร ฉก.ลาดหญ้า ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จับได้ที่ชายแดน อ.สังขละบุรี 30 คน ต้องจ่ายค่าหัว 14,000-16,000 บาท อีกคดี 4 ราย เป็นพม่า 3 ผู้นำพาชาวไทย 1 สารภาพได้ค่าหัวละ 3,000 บาท พบเป็นชุดเดียวกันกับที่ถูกจับวานนี้ 17 คน

จากนโยบายของนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (ผบ.ฉก.ลาดหญ้า) กกล.สุรสีห์

สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจที่อยู่เส้นทางตามแนวชายแดนไทย-พม่า ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นเพื่อเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยของแรงงานชาวพม่าโดยผิดกฎหมาย ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

โดยเฉพาะเส้นทางถนนสาย 323 ด่านเจดีย์สามองค์-สังขละบุรี-ทองผาภูมิ-ไทรโยค-กาญจนบุรี และเส้นทางด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี รวมทั้งช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย-พม่า ในระยะทาง 371 กิโลเมตร

ล่าสุด เวลา 02.30 น.วันนี้ (2 มี.ค.) พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้รับทราบจากทหารชุดลาดตระเวนหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ว่า พบกลุ่มคนเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ภายในชายป่าด้านหลังศูนย์เกษตรที่สูง หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.สังขละบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี

ในจุดเกิดเหตุพบกลุ่มคนตามที่สายข่าวแจ้งมาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าท่ามกลางความมืด รวม 2 จุด เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อมพร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม จุดแรกจับกุมแรงงานชาวพม่าได้ จำนวน 21 ราย จุดที่ 2 จำนวน 9 ราย รวม จำนวน 30 ราย เป็นชาย 18 ราย หญิง 12 ราย ทั้ง 30 รายมาจากหลายจังหวัดของประเทศพม่า เจ้าหน้าที่จึงนำตัวแรงงานชาวพม่าทั้งหมดออกจากป่า เพื่อมาสอบสวนปากคำที่จุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก

จากการสอบถามผู้ต้องหาที่สามารถพูดภาษาไทยได้ โดยให้การในเบื้องต้นว่า ตนและพวกได้ติดต่อกับนายหน้าที่อยู่ฝั่งประเทศพม่า ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ จากนั้นนายหน้าได้มีการนัดรวมตัวกันในพื้นที่กิ่งอำเภอพญาตองซู โดยมารวมตัวกันเมื่อ 2 วันที่แล้ว

ต่อมา มีผู้นำพาเป็นชาวพม่า สัญชาติมอญ ไม่ทราบชื่อ จำนวน 3 คน ได้นำเดินเท้าเข้ามายังฝั่งไทย โดยใช้ช่องทางธรรมชาติเส้นทางรถไฟเก่าที่อยู่ข้างวัดพิมละม่อม จากนั้นไปหลบซ่อนตัวอยู่ในโพรงป่าที่บริเวณหลังศูนย์เกษตรที่สูง เมื่อได้ที่หลบซ่อนตัว ผู้นำพาจึงเดินทางกลับพร้อมกับแจ้งว่าจะกลับมาใหม่ และจะมีรถยนต์มารับ ทุกคนหลบอยู่ภายในป่ามาเป็นเวลา 1 วันแล้ว แต่ก็ไม่มีใครนำรถยนต์มารับ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว

โดยปลายทางของแรงงานชาวพม่าทั้ง 30 คน จะไปทำงานในหลายพื้นที่ ประกอบด้วย จ.นนทบุรี ชลบุรี ระยอง ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร และ กทม. และแต่ละคนไม่ทราบว่าตนจะไปทำงานอะไรและใครเป็นนายจ้าง เพราะนายหน้าที่อยู่ฝั่งประเทศพม่าแจ้งให้ทราบเพียงชื่อจังหวัดปลายทางที่จะไปทำงานเท่านั้น และเมื่อไปถึงปลายทางแต่ละจังหวัดจะต้องเสียค่าจ้างในการนำพาคนละ 14,000-16,000 บาท โดยคิดค่าหัวตามระยะทางใกล้-ไกลของแต่ละจังหวัด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดอาการไข้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลปรากฏว่า ทุกคนมีอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส แต่เพื่อความไม่ประมาทเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจอาการไช้ให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งที่ รพ.สังขละบุรี ก่อนที่จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีก 1 คดี ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 1 มี.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประจำจุดตรวจร่วมช่องเขาหนีบ หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ได้สนธิกำลังดักซุ่มโป่งจับกุมแรงงานชาวพม่าเป็นชาย อายุ 23 ปี 33 ปี และ 6 ขวบ รวม 3 ราย พร้อมผู้นำพาชาวไทย จำนวน 1 ราย คือนายอนุชิต หรืออ้วน ทองเถาว์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/4 หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทั้งหมดถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณชายป่าหุบเขาตาบุญ บ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ต้องหาทุกคน เบื้องต้น ไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามนายอนุชิต หรืออ้วน ทองเถาว์ ผู้นำพาชาวไทยให้การยอมรับสารภาพรับว่า ตนเป็นผู้นำพาแรงงานชาวพม่าลักลอบเข้ามาในประเทศไทยจริง และแรงงานชาวพม่า จำนวน 17 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมานั้นตนเป็นผู้นำพาลักลอบเดินเท้าข้ามชายแดนมาฝั่งไทยด้วยตนเองตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.ด้วยการเดินลัดเลาะชายเขาเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติในพื้นที่หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี

จากนั้นให้ทุกคนมาพักรอที่บริเวณหุบตาบุญ แล้วจะมีนายหน้าที่เป็นคนไทยขับรถมารับไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในอีกทอดหนึ่ง โดยตนจะได้ค่าจ้างจากนายหน้าที่อยู่ฝั่งประเทศพม่า ชื่อนายฮา วิน ในราคาหัวละ 3,000 บาท โดยจะได้ค่าจ้างก็ต่อเมื่อส่งแรงงานให้แก่นายหน้าฝั่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน








กำลังโหลดความคิดเห็น