“ลุงตู่” เฟิร์มเองเซ็น “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” กลับตำรวจ แต่ต้องเคลียร์ชนักติดหลัง! **ส่อง “ชัยวุฒิ” เด็กลุงป้อมแบเบอร์ ว่าที่ รมต.ใหม่ ใน ครม.ลุงตู่ ชุดกระชับอำนาจ

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“ลุงตู่” เฟิร์มเองเซ็น “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” กลับตำรวจ แต่ต้องเคลียร์ชนักติดหลัง! วงในสีกากีร้อง ความวัวยังไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก

แวดวงสีกากียุค ผบ.ตร. “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ
วันก่อนเพิ่งมีกระแสข่าวลือว่า “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” หรือ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ที่ถูกเด้งฟ้าผ่าเข้ากรุพ้นจากข้าราชการตำรวจไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกฯนานกว่า 2 ปี จะได้กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

วันนี้จากลือกลายเป็นความจริง หลังจาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ คอนเฟิร์มเองว่า “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” จะได้กลับมาที่ สตช. แม้ลุงจะบอกว่า เป็นเรื่องของการทำงานที่โยกมาที่สำนักนายกฯ เมื่อสอบแล้วยังไม่ได้ข้อยุติก็ส่งกลับไป และไปสอบต่อที่ สตช.ก็ตาม แต่ความหมายเป็นที่เข้าใจกันได้


“บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นั้น ใครๆ ก็รู้ว่า ตลอดเวลาที่มานั่งตบยุงที่สำนักนายกฯ ก็แทบจะเป็น “คนว่างงาน” โดยไม่ได้ถูกมอบหมายงานอะไรตามตำแหน่งที่ขึ้นว่า “ที่ปรึกษาพิเศษ” เป็นชิ้นเป็นอัน
งานหลักของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับเป็นความเคลื่อนไหวมีพยายามอย่างสูงที่จะกลับเข้ารับราชการตำรวจดังเดิม ทั้งเดินสายทำพิธีไสยศาสตร์ และใช้ช่องทางกฎหมายฟ้องร้องคดีกับนายกฯ กรณีถูกย้ายขอให้ได้กลับเข้า สตช.ขอผงาดกลับมาใหญ่ ดังที่เป็นข่าวอยู่เนืองตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
การคัมแบ็กกลับมาตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” ครั้งนี้ ก็พูดกันไปต่างๆ นานา ว่า ได้รับแรงสนับสนุนจากบรรดาลุงๆ ผู้มีอำนาจอย่างเต็มที่ ผิดกับคนใน สตช.เองที่มีความกังวลว่า การมาของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ จังหวะนี้ โดยที่เหตุผล “เด้งฟ้าผ่า“” คราวนั้นยังไม่เคลียร์ขัด แถมนายพลตำรวจหนุ่มอดีตดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการตำรวจ ยังถูกคำสั่งจากนายกฯซ้ำไปอีกดอก กรณี “คลิปแฉ” คดี “วิสามัญรถ” ที่ครึกโครม จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีคำสั่งย้าย “บิ๊กต้อย” พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา พ้นชีวิตราชการตำรวจ ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ถูกคำสั่งให้รักษาจรรยา ไม่ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง พร้อมขู่ลงโทษวินัย จนเจ้าตัวได้ลาไปบวช ที่อินเดีย นั้นมีอะไรที่คลี่คลายไปบ้างหรือยัง?


งานนี้พอกลับมาแบบคลุมๆ เครือๆ ยิ่งจะทำให้องค์กรตำรวจที่ระหว่างนี้ มีเรื่องภายใน สตช.หนักหนาสาหัสถูกมองจากสังคมติดลบหนักขึ้นไปอีก
เรียกว่า ภาพลักษณ์ตกต่ำสุดขีด ทั้งเรื่อง ส่วยบ่อน ส่วยแรงงาน ต้นตอโควิดรอบสอง จนมาถึงกรณี “พล.ต.ท.- พ.ต.อ.” ที่มีแต่ข่าวว่า ช่วยเหลือพวกพ้องไม่แคร์สังคม ขณะที่ ผบ.ตร. ทำงาน “กึกกั๊กลูบหน้าปะจมูก” ไปแต่ละเรื่อง ไม่ประทับใจประชาชน
วงในว่าเข้าทำนอง ความวัวไม่ทันหายความควายกำลังมาแทรก
ขณะที่ฝ่ายการเมืองก็น่ารู้ถึงแรงต้านทั้งจากสังคม และคนใน สตช.เองว่า มีเหตุผลกลใดที่จะโยก “โจ๊ก” กลับตำรวจ งานนี้ต้องมีคำตอบที่ชัดเจน


แน่นอนว่า วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกตัวแทนลุงตู่ไปว่า คำสั่งของนายกรัฐมนตรี คือ ให้พิจารณาทุกคนที่ค้างอยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรี เวลานี้ ถ้าเคลียร์ได้ก็ให้พยายามเคลียร์ออกไป ที่ขณะนี้เหลืออยู่ ประมาณ 60 คน ซึ่งก็รวม ถึง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์
ส่วนว่ามีใครบ้างที่ไม่มีคดี ใครมีคดี ต้องรอเช็กกัน ถ้าใครยังมีเรื่องติดอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาจจะเคลียร์ยาก ถ้าใครไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับ ป.ป.ช.รองวิษณุก็ว่าโอเคไปต่อได้
พูดง่ายๆ ว่า ถ้า “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ยังมีชนักติดหลัง มีคดีอยู่ใน ป.ป.ช.ก็ยังต้องเคลียร์ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งของตำรวจ ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
ดังนั้น โอกาสกลับมาผงาดของ “โจ๊ก” จะ “หวานเจี๊ยบ” หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป.



**ส่อง “ชัยวุฒิ” เด็กลุงป้อมแบเบอร์ ว่าที่ รมต.ใหม่ ใน ครม.ลุงตู่ ชุดกระชับอำนาจ


ว่าด้วยความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี ที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งรายชื่อมาแล้ว พร้อมกับทำมือตบไปที่กระเป๋าหลังว่า “อยู่ที่ผมนี่ แต่ยังไม่ได้ดูเหมือนกัน”

แม้ว่า “ลุงตู่” ยังไม่ได้ดู แต่งานนี้หน่วยข่าวกรองข้อมูลล้วงลับจาก “ค่ายลุงป้อม” พรรคพลังประชารัฐ ในกำกับของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จับได้ว่า ในโผรายชื่อรัฐมนตรีใหม่นั้น ปรากฏชื่อ “เดอะโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ผู้แทนจาก จ.สิงห์บุรี มาแรงแบบแบเบอร์

เนื่องจากในการปรับ ครม.ครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค พปชร.ได้รับปากจะพิจารณาชื่อของ “ชัยวุฒิ” เป็นคนแรก ในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป
ขณะที่ความสัมพันธ์กับ “ลุงป้อม” ต้องถือว่า “ชัยวุฒิ” นั้น ไม่ธรรมดา มีความสนิทสนม เป็นมือทำงาน เมื่อ “ลุงป้อม” ประเดิมนั่งในตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. “ชัยวุฒิ” ก็ได้รับความไว้วางให้เป็นเลขาฯ

ก่อนที่ “พล.อ.ประวิตร” จะขยับขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค “ชัยวุฒิ” ก็ยังได้รับการผลักดันให้มีบทบาทใน กก.บห. และตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคอีกด้วย และแน่นอนว่า มีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะช่วงที่ “ปฏิวัติ” ยึดอำนาจจาก “ทีมสี่กุมาร”

เรียกได้ว่า “ชัยวุฒิ” มีคอนเนกชันระดับบิ๊กในพรรค ขณะที่โปรไฟล์ส่วนตัว ด้วยเครือข่าย “วิศวะ จุฬาฯ” เคยทำงานให้องค์กรเอกชนระดับเป็นอดีตผู้บริหารคนสำคัญในกลุ่มพลังงานใหญ่มาแล้ว


เส้นทางการเมืองก็โลดแล่นจากปี 2544 ลงสนามที่ ส.ส.สิงห์บุรี ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยมี ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ เป็นผู้ชักนำ ก่อนย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทย และถูกเว้นวรรคทางการเมือง เพราะการยุบพรรคชาติไทย เมื่อปี 2550

เมื่อถูกเว้นวรรค “ชัยวุฒิ” กลับไปอยู่ในภาคธุรกิจอยู่พักใหญ่ และ “ดร.อาทิตย์” ชวนให้เป็นอาจารย์ที่ ม.รังสิต สอนคณะบริหารธุรกิจ อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนตัดสินใจกลับมาสมัคร ส.ว. ปี 2557 แต่ก็ถูกรัฐประหารล้มกระดานไปเสียก่อนจะได้ทำหน้าที่

จนกระทั่งยุค คสช. “ชัยวุฒิ” ถูกผู้ใหญ่ชักชวนให้มาช่วยพรรคพลังประชารัฐ ลงเลือกตั้งปี 2562 กลับสู่สภาอีกรอบ

ว่ากันว่า ช่วงนั่น “ชัยวุฒิ” เป็นคนชักชวน “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เข้าพบ พล.อ.ประวิตร ให้ตัดสินใจย้ายจาก “ค่ายสะตอ” พรรคประชาธิปัตย์ มาอยู่ตั้งไข่พรรคพลังประชารัฐด้วยกัน

ขณะที่คนใกล้ตัว “ชัยวุฒิ” ส่วนใหญ่ล้วนเล่นการเมือง โดยน้องชาย โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็น ส.ส.สิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ ส่วนภรรยา กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ก็เป็น ส.ส.กทม.จากพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกัน

เห็นโปรไฟล์ ผลงานในพรรค และ คอนเนกชันเด็กลุงส่งเข้าประกวดเองแบบนี้ ก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดที่ “ชัยวุฒิ” จะได้ขึ้นชื่อเป็นรัฐมนตรีในชุด ครม.กระชับอำนาจของลุงๆ

เหลือแค่จะถูกเคาะลงที่กระทรวงไหน อย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป.