ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ผบ.ตร.แถลงคดีใหญ่ แต่ทำไมไร้เงา “ปปง.- อัยการ” เข้าร่วม จับตากันให้ดีๆ คดี “พล.ต.ท.- พ.ต.อ.” ไม่จบ แถมจะมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” อีกต่างหาก
ว่าด้วย “คดีใหญ่” สะเทือนฟ้า สะท้านดิน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ “บิ๊กตำรวจ” พล.ต.ท. และ พ.ต.อ. ถูกพาดพิงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับกุมยาไอซ์ล็อตใหญ่ เมื่อปลายปี 62 ในพื้นที่ภาค 6 จนทำให้ “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ผบ.ตร. ต้องสั่ง “พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก” รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
จากนั้น ในวันศุกร์ (5 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (รอง ผบช.ภ.6) พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 (รอง ผบก.สส.ภ.6) และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ร่วมกันแถลงถึงผลการดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
อย่างที่รู้ๆ กันไปแล้วว่า เนื้อหาถ้อยแถลง ผลการดำเนินการสืบสวนสอบสวนชุดที่มี “พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก” เป็นหัวหน้านั้น ออกมาอย่างไร
จุดใหญ่ใจความ ตามที่ “พล.ต.อ.สุวัฒน์” กล่าวไว้ก็คือ ตรวจไม่พบว่า “พล.ต.ท.และ พ.ต.อ.” มีความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับคดี และย้ำว่า มีเอกสารราชการบางส่วนหลุดออกไปเผยแพร่ทางสื่อ เป็นแค่เอกสารส่วนหนึ่งของการสืบสวนสอบสวน หากเทียบแล้ว ถือว่าเป็นจำนวนน้อย กลายเป็นว่าข้อเท็จจริงบางส่วนที่หลุดออกไป แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นทั้งหมด จึงเกิดการตั้งคำถามถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ เป็นไปตามกฎหมาย โปร่งใส มีการช่วยเหลือใครเป็นพิเศษ หรือไม่
รวมๆ แล้วเป็นการ “บ่อนทำลาย” ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และการทำงานของตำรวจ
นั่นก็ว่ากันไป ... แต่เดี๋ยวก่อน !!
งานนี้สังเกตให้ดีๆ เดิมนั้นก่อนวันจะแถลงข่าวใหญ่ วันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า ในวันศุกร์ที่ 5 มี.ค. เวลา 10.30 น. ห้องประชุมศรียานนท์ โซนซี อาคาร 1 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะแถลงข่าวใหญ่พร้อมด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส., พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ รอง ผบช.ภ.6, ผู้แทนสำนักงานอัยการภาค 6, พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายรณชัย เกิดมณี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ กองคดี 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จะแถลงข่าวชี้แจงกรณีผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีข้าราชการตำรวจยศ พ.ต.อ. และ พล.ต.ท. ถูกพาดพิงในคดีใหญ่ที่สังคมอยากรู้ เรียกว่า ผบ.ตร.ระดมมากันครบทีม
คำถามมีว่า พอวันแถลงจริงๆ (5 มี.ค.) กลับไม่ปรากฏตัวแทนจากอัยการ และตัวแทนจาก ปปง. มาร่วมด้วย
ทำไม?? อัยการ และ ปปง. ที่มีลิสต์รายชื่อจะมาร่วมแถลงกับ ผบ.ตร. จึงไม่มาตามนัด ทั้งๆ ที่เป็นคีย์สำคัญของคดีนี้ และจะไขปริศนาข้อเท็จจริงทั้งหมดได้ ทั้งเรื่องของสำนวนที่ขาดหายไป ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่ทำส่ง ตามที่เอกสาร “คำสั่งด่วนที่สุด” ของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ทวงถามภาค 6 และ ปปง. ที่มีบทบาทการนำสืบเส้นทางการเงืนของขบวนการค้ายาเสพติด
น่าคิดจริงๆ ว่า เป็นเพราะเหตุใด ทั้งสองหน่วยงาน จึงไม่มาร่วมกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร.
แว่วว่า งานนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างแน่นอน ให้จับตากันให้ดีๆ คดีใหญ่ “พล.ต.ท.และ พ.ต.อ.” ไม่จบแน่ แถมจะมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ออกมาจากทาง อัยการ และ ปปง. ส่งถึง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ หลังจากนี้อีกต่างหาก
ส่วนจะเป็นอะไร แบบไหน ต้องติดตาม อย่ากะพริบตา.
**ล้วงลับห้องวีวีไอพี เมื่อ "ลุงป้อม"โดดห้าม"อนุชา" หัวร้อน ฟิวส์ขาด เงื้อง่า ทำท่าจะรำมวยไทยใส "อ.แหม่ม" ตาโต !!
ว่ากันว่า ที่ห้องรับรองสภาผู้แทนราฎร ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ ฝ่ายค้านกำลังซักฟอกฝ่ายรัฐบาลอย่างต่อเนื่องอยู่นั้น อีกซีกที่ "ห้องรับรอ งวีวีไอพี" ได้เกิดเหตุระทึกขึ้น ซึ่งถูกเก็บเงียบกันมาพักใหญ่ๆ
ห้องรับรองดังกล่าวเวลานั้น มีด้วยกันหลายคน อาทิ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม รวมไปถึงแม่บ้าน,บริกร ที่คอยให้บริการห้องรับรองผู้หลักผู้ใหญซีกรัฐบาล
ในขณะที่กลุ่มวีวีไอพี ทั้งหลายกำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส ปรากฏว่า มีโทรฯสายเรียกเข้าหา "อ.แหม่ม นฤมล" จาก "อนุชา นาคาศัย" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยรมช.แรงงาน รับสายพร้อมกับเปิดสปิกเกอร์โฟน ให้หลายคนได้ยินพร้อมกัน
เมื่อ"อนุชา" เริ่มพูดก็ผิดสังเกต เพราะน้ำเสียงปลายทางโทรเข้ามาเต็มไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว โมโหสุดขีด ใช้ถ้อยคำที่ผู้ฟัง ฟังแล้วตกอกตกใจ ด้วยมีสิงสาราสัตว์ตามมาเป็นพรวน
ขณะที่"อ.แหม่ม"ไม่ทันตั้งตัว ก็ได้พยายามพูดไปว่า เฮ้ย..พี่เป็นอะไร มาคุยกันก่อนใจเย็นๆ มีอะไรมาคุยกันก่อน แหม่มไม่รู้เรื่องเลย... ระหว่างนั้น"ลุงป้อม" ที่นั่งอยู่ด้วย ก็งงกับเสียงปลายสาย จากนั้นเสียงปลายสายก็ได้ตัดสายไป ทำให้คนที่นั่งอยู่ในห้องรับรองทั้งหมดรวมถึงลุงป้อม อึ้งและงงไปตามๆ กัน
ระหว่างการพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่า"อนุชา" ได้เดินเข้ามาในห้องด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ทุบที่โต๊ะตรงหน้า"ลุงป้อม" อย่างแรงแล้วก็ใช้ถ้อยคำสารพัดสัตว์อีกรอบ พร้อมๆกับแอ็กชั่น "คืวบู๊" ตามมา ปรี่เข้าไปเงื้อง่า ทำท่าเหมือนจะสาวหมัดใส่ "อาจารย์นฤมล"
จังหวะนั้น"ลุงป้อม" ที่ไม่ค่อยแข็งแรง ร่างกายไม่กระฉับกระเฉง จึงได้แต่ใช้เสียงตะโกนห้าม บอกว่า "เฮ้ย..ไอ้แฮ้งค์ หยุดก่อนคุยกันก่อน มีอะไรใจเย็นๆไอ้แฮ้งค์ มีอะไรคุยกัน"
ว่ากันว่า เหตุที่ "เฮียแฮ้งค์" หัวร้อนฟิวส์ขาด น็อตหลุด เป็นเพราะเข้าใจว่า "อ.แหม่ม" ล้ำเส้นเรื่องการเบิกจ่ายงบฯ ที่เกี่ยวกับส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่ง "อนุชา"ทำหน้าที่เลขาฯพรรค
ร้อนถึง"ลุงป้อม" ที่เป็นคนเบรก"อนุชา" ไม่ให้ลงไม้ลงมือกับ รมช.หญิงของพรรค ต้องอธิบายหลังอีกฝ่ายเย็นลงบ้าง ว่า "อ.แหม่ม"นั่งทำงานให้พรรคทั้งวัน ไม่ได้ไปไหนเลย ซึ่ง "รัฐมนตรีแฮ้งค์" ก็ยังไม่ฟัง อารมณ์โมโหบวกกับเลขาส่วนตัวนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่น มาโวยวาย ก็ยิ่งเหมือนสาดน้ำมันลงไปในกองเพลิงอีก โดยไม่สนใจว่าใครจะนั่งอยู่ในห้อง
สุดท้าย"ลุงป้อม" ได้พยายามอธิบาย และขอให้"เสี่ยแฮ้งค์" อารมณ์เย็นลง เมื่อเข้าใจในสิ่งที่ชี้แจงกันตรงนั้น "อนุชา" ที่ยังตัวสั่นเหมือนคนโมโห ได้ก้มลงไปกราบที่เท้า"ลุงป้อม"
กราบๆๆ และร้องไห้เหมือนเด็ก กราบจนลุงป้อมบอกว่า มีอะไรทีหลังให้ใจเย็นๆ แล้วคุยกัน
จากนั้น"อนุชา" คนหัวร้อน ก็เดินออกไปจากห้องรับรอง เมื่อ"อนุชา"ไปจากห้องแล้ว"อ.แหม่ม" บอกว่าไม่มีใครช่วยน้องเลย น้องจะโดนชกอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนก็บอกว่า เหตุการณ์เกิดรวดเร็วมาก ยังอึ้งกันอยู่
ข้างฝ่าย"ลุงป้อม"ในฐานะเป็นผู้ใหญ่สุด ได้หันไปคุยกับ"อ.แหม่ม" บอกว่า ไอ้แหม่ม มึงผิด อ.แหม่ม ถามว่าแหม่มผิดอะไร "ลุงป้อม"บอกมึงผิด ที่มึงทำตาใหญ่ ทำตาโตใส่ไอ้แฮ้งค์ มัน...มันนึกว่ามึงสู้ด้วยสายตา เนื่องเพราะเวลานั้น "อ.แหม่ม" เอาแต่จ้องหน้า"อนุชา"
เข้าใจว่า "ลุงป้อม" พยายามทำให้บรรยากาศในห้อง อารมณ์คลี่คลายลง แล้วยังบอกต่อ อ.แหม่ม ว่าไม่ต้องเสียใจ ตกใจ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ "เสี่ยแฮ้งค์" เล่นบทบู๊ดุเดือดเลือดพล่าน ต่อหน้าต่อตาผู้ใหญ่
"ลุงป้อม" ว่า เสี่ยแกเคยทุบโต๊ะแบบนี้ แล้วปรี่ จะชก"สันติ พร้อมพัฒน์" มาแล้ว ตอนเลือกเลขาฯ พรรค
เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องเล่า เล็ดลอดออกมาจากห้องวีวีไอพี จริงๆ เท็จๆ ประการใด คงจะมีก็แต่ผู้อยู่ร่วมเหตุการณ์วันนั้นเท่านั้น จะยืนยันได้
ที่แน่ๆ เรื่องเพิ่งออกมาเล่าสู่กันฟังวันนี้ จะด้วยจุดประสงค์ใด จะบังเอิญหรือไม่ว่า พปชร. กำลังอยู่ระหว่างจัดทัพ ปรับครม. ซึ่งหนนี้ มี"อนุชา" และ "อ.แหม่ม" เป็นแคนดิเคต จะหยิบชิ้นปลามัน ขึ้นชั้นนั่งว่าการกระทรวงฯ คั่วกันอยู่กันทั้งสองคน
นี่ก็ต้องจับตา เหตุที่ห้อง"วีวีไอพี" นี้จะส่งผลหรือไม่ อย่างไร โปรดติดตามกันต่อไป
**ผบ.ตร.ว่าไง? "พล.ต.ท." คนดังหน้าเดิม มีชื่อจะ"Fast track"กลับมาใหญ่ใน สตช. เมษาฯนี้
มีข่าวหนาหู เม้าท์กันสนั่นทุ่งปทุมวัน ว่าโผแต่งตั่งโยกย้ายใหญ่ในเดือนเมษาฮาวายที่จะถึงนี้ มีชื่อ"พล.ต.ท." คนดังหน้าเก่าเล่ายี่ห้อที่เมื่อหลายปีก่อน เส้นทางชีวิตรุ่งโรจน์สุดขีด เป็นนายตำรวจหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรง เป็นที่กล่าวขวัญถึงของวงการสีกากี แถมเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้หลักผู้ใหญ่ อุปถัมป์ค้ำจุน จนข้ามหน้าข้ามตาตำรวจรุ่นเดียวกันไปไม่เห็นฝุ่น
ว่ากันว่า พล.ต.ท. คนนี้เป็นนายตำรวจระดับ "ปรากฏการณ์ Fast track" ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายตำรวจระดับสูง อย่างรวดเร็ว และอาจจะไปถึงดวงดาวได้ กระทั่งเกิดเหตุ "ฟ้าผ่า" ถูกคำสั่งย้ายให้พ้นจากความเป็น "ตำรวจ" ออกจากรั้ว สตช. ไปนั่งว่างๆ ที่กรุ เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ชนิด จากดาวรุ่งเป็นดาวร่วง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ระหว่างที่อยู่ว่างๆ พล.ต.ท.คนนี้ ก็ไม่ละความพยายามที่จะกลับมา สตช. ตระเวนทำบุญ หาอาจารย์ดีๆ ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ขอร่ายเวทย์ ท่องคาถาให้กลับมา"ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร" ในเส้นทางตำรวจอีกครั้ง อยู่เนืองๆ และทุกครั้งก็เป็นข่าวเกรียวกราว ฮือฮาตลอด
แว่วว่า หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน ตอนนี้ พล.ต.ท. คนดังมีข่าวว่าสามารถเคลียร์กับผู้ใหญ่ได้เรียบร้อย และ มีชื่อจะ"Fast track"คัมแบ็กแบบเหาะเหินเดินอากาศมาลงตำแหน่งใหญ่ในสตช.ในเดือนเมษาฯ นี้เลย โดยที่ผบ.ตร.เตรียมกดปุ่มไฟเขียวผ่านตลอดไว้ให้
เสียงลือเสียงเล่าอ้างตอนนี้ทำให้คนในปทุมวันเช็กกันให้วุ่น พล.ต.ท.คนนี้ เป็นใคร ?
จะใช่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ไม่มีใครยืนยัน
รู้กันเพียงว่า"พล.ต.ท.สุรเชษฐ์" เพิ่งเป็นข่าวไปโผล่ที่ทำเนียบฯ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เพื่อพบกับ"วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ ที่ไม่ได้มารายงานการทำงานนาน อีกกระแสหนึ่งก็ คาดว่า "พล.ต.ท.สุรเชษฐ์" มาติดตามเรื่องคดีที่เคยร้องขอความเป็นธรรม ที่เคยถูก"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม
งานนี้ ใช่หรือไม่ใช่ จรืงเท็จประการใด "พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข" ผบ.ตร. ช่วงนี้ต้องเรียกว่า "งานชุก" เพิ่งจะลงทุนเคลียร์คดี "พล.ต.ท." คนดังเชื่อมโยงคดีไอซ์ไปแบบไม่เคลียร์ ก็กำลังจะมีเรื่องต้องเคลียร์ให้สังคมที่เพลียหัวใจกับตำรวจไทยยุคนี้เหลือเกินอีกแว้ววว
พล.ต.ท.Fast trackคนนี้เป็นใครหนอ .